สถานีคิดเลขที่ 12 : ‘บี้’ฝ่ายตรงข้าม โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12 : ‘บี้’ฝ่ายตรงข้าม การตีปี๊บของพรรคประชาธิปัตย์

สถานีคิดเลขที่ 12 : ‘บี้’ฝ่ายตรงข้าม โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

การตีปี๊บของพรรคประชาธิปัตย์ ว่ามีทหารกว่า 100 นาย เข้าไปยังพื้นที่ เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.ชุมพร มีลักษณะของการกดดันการรณรงค์หาเสียงของพรรคนั้น

ตอนนี้มีความคืบหน้าไม่มากนัก

ประการหนึ่ง มีการอ้างรายงานข่าวโดยไม่มีฝ่ายใดยืนยันระบุว่าผลการตรวจสอบพบว่านายทหารถูกพาดพิงคนดังกล่าวชื่อย่อว่า “เสธ.ต.” เป็นระดับผู้บังคับหน่วยทหารม้าในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 และเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ใกล้ชิด และได้รับความไว้วางใจจากอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 คนหนึ่ง ซึ่งอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 คนนั้น ในปัจจุบันมาช่วยงานรัฐบาล และพรรคการเมือง

ขณะที่

Advertisement

ประการหนึ่ง พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ยืนยันว่าไม่ได้มีทหารในทัพภาคที่ 4 เข้าไปยุ่งเกี่ยว หลัง พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ระบุว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกได้รับทราบแล้ว และสั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 4 ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

ประการหนึ่ง พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า หลังจากที่เปิดเผยข้อมูล กลุ่มบุคลดังกล่าวได้ออกจากพื้นที่ไปแล้ว

ซึ่งข้อเท็จจริงจะเป็นประการใด คงต้องรอผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ

Advertisement

ไม่รู้ว่าจะให้จบง่ายๆ ตามคำชี้แจงของแม่ทัพภาคที่ 4 คือยืนยันว่าไม่มี คนของกองทัพภาคที่ 4 เข้าไปยุ่งเกี่ยว

แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่า ไม่มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง

ซึ่งตรงนี้ สังคมเองก็ต้องการได้คำตอบเช่นกัน

แม้ว่า ด้านหนึ่ง จะเป็นความเชี่ยวชาญในเกมการเมืองของพรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์

ที่เมื่อ “กระสากลิ่น” อะไรบางอย่างที่สามารถจะแปรเป็นประโยชน์ต่อพรรคตนเองก็ไม่รีรอที่จะทำให้อึกทึกครึกโครมออกมา

แม้จะรู้ว่าย่อมมีผลกระทบต่อ ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

มีผลกระทบต่อ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก

ขณะเดียวกัน มีผลกระทบต่อฝ่ายกุมอำนาจรัฐ ที่มักเผชิญข้อกล่าวหาว่า ใช้ “กลไกราชการ” ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้ง

จนทำให้หลายกรณีผลการเลือกตั้ง ออกไปในทางที่เป็นประโยชน์ต่อฟากรัฐบาล ดังที่พรรคพลังประชารัฐประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งซ่อมทุกครั้งที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เดิมการประโคมเรื่องทำนองนี้มักจะมาจากพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายตรงข้างกับรัฐบาล

และที่สุด มักจะมลายหายไป โดยไม่มีคำตอบใดๆ

แต่ในกรณีนี้ เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน นั่งทำงานด้วยกัน แต่ก็มาชี้นิ้วกล่าวหากัน

จึงทำให้ชาวบ้านชาวช่องปักใจว่า เรื่องนี้คงจะมากกว่าการกล่าวหากันลอยๆ อย่างแน่นอน

และไปตอกย้ำเรื่องฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐ มี “เครื่องมือ” พิเศษที่จะสามารถเอาชนะ หรือเอาเปรียบฝ่ายตรงข้ามได้

ขณะเดียวกัน ก็ได้กลายเป็นคำถามตัวโตๆ ต่อผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยเฉพาะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ที่พยายามวางบทบาทตัวเอง ให้มีระยะห่างจากรัฐบาลหรือฝ่ายการเมือง ว่าจริงๆ แล้วเป็นอย่างไร

เป็นการพยายามนำกองทัพ กลับเข้ากรมกอง เป็นทหารอาชีพที่ดูแลความมั่นคงของประเทศ มิใช่ดูแลรัฐบาลของใครอย่างจริงแท้ใช่หรือไม่

หรือแค่เป็น “ภาพ” ที่พยายามสร้างขึ้น

และเอาเข้าจริง การเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพร มันก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่ได้แง้มประตูให้แลเห็นว่าที่สุดทหารก็ยังถูกใช้เป็นฐานทางการเมือง

ที่ตาม “บี้” ฝ่ายตรงข้าม ให้กับฝ่ายที่กุมอำนาจ ที่สืบทอดมาจากการรัฐประหารอยู่ตามเดิม ?!?

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image