| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
หากเปรียบการทำหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านในการประชุมสภาสมัยนี้เป็นการแข่งขันมวย
โปรแกรมปะทะที่ฝ่ายค้านประกาศน็อกเอาต์ฝ่ายรัฐบาลให้ได้มีอยู่ 3 ยก
การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2565 ถือเป็นยกแรกที่ 2 ฝ่ายปะทะกัน
ก่อนการพิจารณาร่างกฎหมายงบ มีกระแสข่าวว่า พรรคฝ่ายค้านและฝ่ายที่ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะล้มกระดาน
แต่ผลการลงมติวาระ 1 ที่ออกมาปรากฏว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณผ่านฉลุย
ไม่เพียงแต่ “ฉลุย” หากแต่ยังสร้าง “รอยแผล” ให้พรรคฝ่ายค้านด้วย
เพราะในบรรดา ส.ส.ที่ลงมติรับร่างวาระ 1 นอกจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลแล้ว ยังมี ส.ส.พรรคฝ่ายค้านร่วมด้วยจำนวนสิบกว่าคน
ทำให้เกิดผลกระทบต่อยุทธศาสตร์การต่อสู้ของพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง
กระทั่งนิด้าโพลซึ่งสำรวจกลุ่มตัวอย่างและเปิดเผยผลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาระบุว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นว่า รัฐบาลบิ๊กตู่อยู่ครบเทอมแน่นอน
เท่ากับว่า ยกแรกพรรคฝ่ายรัฐบาลเอาชนะพรรคฝ่ายค้านไปได้
แถมยังเป็นชัยชนะที่ฝากรอยแผลให้ฝ่ายค้านด้วย
รอยแผลแรก คือ การตอกย้ำว่าพรรคฝ่ายค้านเสียงแตก เพราะ ส.ส.หลายคนแหกมติพรรค
รอยแผลที่สอง คือ การมองเห็นความเคลื่อนไหวที่เป็นไปเพื่อต่อรองเอาเก้าอี้ในคณะกรรมาธิการ
เป็นการต่อรองเพื่อประโยชน์ของใคร สังคมย่อมมองเห็น
และสิ่งที่มองเห็น ย่อมส่งผลต่อศรัทธา
อย่างไรก็ตาม สำหรับพรรคฝ่ายค้านแล้ว ยังเหลือการต่อสู้อีก 2 ยก คือ การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และประเด็นการนั่งดำรงตำแหน่งนายกฯเกิน 8 ปี
ใน 2 ยกที่เหลือนี้ พรรคฝ่ายค้านต้องลงแรงในยกที่ 2 เพราะประเด็นการนั่งดำรงตำแหน่งนายกฯเกิน 8 ปีนั้น อำนาจชี้ขาดไปอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น วาระการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่พรรคฝ่ายค้านมุ่งมั่นว่าจะคว่ำ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นยกที่สำคัญ และมีผู้คนจับตามอง
มองตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายว่าจะมีรัฐมนตรีคนใดบ้างที่ขึ้นเขียง
มองประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปพร้อมๆ กับหลักฐานที่จะนำเสนอในสภา เพื่อโน้มน้าวใจให้ผู้ฟังเห็นว่า รัฐมนตรีคนนั้นไม่น่าไว้วางใจ
มองถึงตัวบุคคลที่จะขึ้นทำหน้าที่ในสภา ทั้งพรรคฝ่ายค้าน และพรรคฝ่ายรัฐบาล
รวมไปถึงการตอบคำถามของรัฐมนตรี
เหมือนอย่างที่ทราบกันดีว่า การลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นฝ่ายรัฐบาลมีโอกาสรอดมากกว่าร่วง
แต่ข้อมูลในการกล่าวหาในสภานั้น หลายครั้งที่ทำให้รัฐมนตรีร่วง แม้ว่าจะมีเสียงโหวตอุ้มให้ผ่านการไม่ไว้วางใจมาได้
ดังนั้น การปะทะกันของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านในยกนี้ ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีที่ถูกขึ้นบัญชี จึงมีโอกาสได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจะมีผลไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าได้
ดังนั้น นี่คือโอกาสทองของพรรคฝ่ายค้านที่ต้องทำงานให้ดีที่สุด
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีเป้าหมายที่ต้องตอบคำถามจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น เชื่อว่าทุกคนต้องเตรียมตัวอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว
การอภิปรายไม่ไว้วางใจซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนนี้เดือนหน้าจึงไม่ควรพลาดชมและฟัง
เพราะข้อมูลที่ปรากฏ จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
เป็นข้อมูลที่สามารถนำไปประเมินผลรัฐบาล พรรคการเมือง และ ส.ส.
ประเมินกันแต่เนิ่นๆ ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปจะเกิดขึ้น
นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]
