สถานีคิดเลขที่ 12 : การเมืองลูกกลมๆ

สถานีคิดเลขที่ 12 : การเมืองลูกกลมๆ การที่รัฐบาลได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น

การที่รัฐบาลได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น ในการโหวตอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณวาระแรก แถมยังได้เสียงจาก 7 งูเห่าในพรรคเพื่อไทย นอกเหนือจากที่มีเปิดฟาร์มอยู่แล้วในพรรคก้าวไกล และประชาชาติ

ทำเอาชาวบ้านที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของการเมืองในสภา พากันผิดหวัง

ประชาชนยากลำบากจากปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาราคาน้ำมัน และรัฐบาลไม่มีทีท่าจะแสดงความสามารถอะไรให้คลี่คลายได้เลย

ประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง แต่ผลการโหวตดังกล่าว ทำเอาหมดหวัง

Advertisement

เสร็จจากด่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณแล้ว ที่อาจจะต้องมองกันต่อไปคือด้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการตีความวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของนายกรัฐมนตรี

โดยการยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยฝ่ายค้านนั้น คงจะยื่นแน่ในเร็วๆ นี้ ตอนนี้ก็เริ่มเคลื่อนไหวคึกคัก เริ่มวางเป้า เริ่มล็อกเป้าถล่มกันแล้ว

จุดสำคัญคือ เป็นการเปิดอภิปรายซักฟอกแบบต้องลงมติ

Advertisement

การลงมตินี่แหละ ที่เคยสร้างความหวาดเสียวให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างสุดขีดมาแล้ว ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อปลายสิงหาคม 2564

จนเป็นเหตุให้ พล.อ.ประยุทธ์ แตกหักกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

ลามไปถึงการสั่งปลดพ้นจากรัฐมนตรี และเป็นเหตุให้รอยร้าวยังรุนแรงมาจนบัดนี้

แต่กรณีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณที่เพิ่งผ่านมานั้น อาศัยบารมีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส และพรรคเศรษฐกิจไทย ยังร่วมมือกับรัฐบาลอยู่ โดยมีการแจกโควต้ากรรมาธิการกันอุตลุด

ส่วนอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมาถึง จะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกหรือไม่ ท่าทีของ ร.อ.ธรรมนัสจะเป็นเช่นไร คงจะเป็นประเด็นร้อนแน่นอน

ถ้ากลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ตัดสินใจเหมือนเมื่อสิงหาคม 2564 อีก หนนี้บารมีบิ๊กป้อมจะเอาอยู่หรือไม่

ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว กระแสความไม่พอใจรัฐบาลในหมู่ประชาชนสูงขึ้น จากสถานการณ์โควิด

ขณะที่สถานการณ์ในวันนี้ ประชาชนกำลังเบื่อหน่ายกับรัฐบาล ที่ไม่สามารถคลี่คลายราคาน้ำมันได้ ส่งผลให้สินค้าแพงไปหมดทุกอย่าง ยันร้านอาหารริมถนน

สถานการณ์แบบนี้ น่าคิดว่า ส.ส.ในรัฐบาลเอง อยากจะเป็นฮีโร่ในหัวใจประชาชน ด้วยการร่วมใช้เสียงในสภาเปลี่ยนแปลงการเมืองหรือไม่

จากอภิปรายไม่ไว้วางใจ อีกด่านใหญ่สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ คือการตีความการดำรงตำแหน่งนายกฯครบ 8 ปี โดยเส้นตายคือสิงหาคม

ด้วยจะมีการยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่าต้องนับตั้งแต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯครั้งแรก เมื่อสิงหาคม 2557 หลังจากรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557

ถ้าเริ่มนับตั้งแต่นั้น เท่ากับจะครบ 8 ปี ในสิงหาคม 2565 นี้

แต่มีการตีความที่น่าสนใจ คือ การกำหนดให้นายกฯอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกิน 8 ปีนั้น เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ดังนั้น ถือว่ามีผลบังคับใช้เมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับนี้

จึงควรเริ่มนับตั้งแต่ปี 2560 เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯได้ถึงปี 2568

สูตรนี้ดูสวย ออกมากลางๆ เพราะการเลือกตั้งครั้งต่อไปคือ ปี 2566 จะมีพรรคไหนเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯที่จะสามารถอยู่ต่อไปได้แต่อีก 2 ปี

เอาเป็นว่า นี่ยังเป็นอีก 2 ด่านหิน ที่จะต้องติดตามกันต่อไป

ถ้ามองว่าการเมืองก็เหมือนการบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้

จึงยังเป็นเรื่องน่าลุ้นกันต่อไป

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image