| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : หลัง 23 สิงหาฯ
ตอนนี้วันที่ 23 สิงหาคม กลายเป็นประเด็นการเมืองที่ต้องเฝ้าจับตามอง
เพราะหลังจากวันดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะนั่งบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี 8 ปี
เป็นการนับเวลาจากวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ใช้กำลังทหารทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมปีเดียวกัน
หลังจากการเลือกตั้งปี 2562 พล.อ.ประยุทธ์ได้รับการเลือกจากรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย ส.ส. และ ส.ว. ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ
เมื่อนับรวมกันแล้วมาถึงสิงหาคมปีนี้ก็ 8 ปี ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดว่าห้ามเป็นนายกฯเกิน 8 ปี
ข้อเท็จจริงคือเป็นนายกฯมานาน 8 ปี เพียงแต่ข้อกฎหมายนั้นจะเริ่มนับเวลาการเป็นนายกฯปีไหน
ปี 2557 หรือปี 2560 ซึ่งเป็นปีที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน หรือปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่เป็นนายกฯครั้งล่าสุด
ถ้าเริ่มนับปี 2557 ปีนี้ก็ครบ 8 ปี แต่ถ้าเป็นปี 2560 หรือปี 2562 ก็เลื่อนเวลาครบ 8 ปีออกไป
วันที่ 17 สิงหาคมนี้ พรรคฝ่ายค้านจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และผลการวินิจฉัยของตุลาการจะเป็นตัวชี้ขาด
ยังมีความเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะได้อยู่ต่อไปจนครบเทอม แต่ก็มีความหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะลงจากเก้าอี้ในปีนี้
วันที่ 23 สิงหาคมถึงวันที่ 24 สิงหาคม จึงเป็นวันที่มีผลกระทบ
ในวันนั้นอาจจะมีผลการวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว หรืออาจจะอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญอยู่
หลังจากวันที่ 23 สิงหาคม อาจมีการเปลี่ยนแปลง หรือถ้าไม่เปลี่ยนก็อาจจะมีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มที่ไม่พอใจ
ผลกระทบที่เกิดขึ้นมิได้กระทบเฉพาะการเมือง แต่นักธุรกิจก็จับต้องมองดูสถานการณ์
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปัจจัยรุมล้อมเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง
หนึ่ง คือ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังไม่สิ้นสุด
สอง คือ ข้อขัดแย้งระหว่างจีนกับอเมริกา
ถ้าความขัดแย้งยุติลงเร็วก็จะช่วยให้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยดีขึ้น
สาม คือ เงินเฟ้อ ที่เป็นไปตามราคาน้ำมันและราคาสินค้า หากราคาน้ำมันลดลงจะชะลอเงินเฟ้อได้
ส่วนเสถียรภาพทางการเมืองนั้น นายบุญชัยบอกว่ายังน่าเป็นห่วง ต้องรอดูหลังวันที่ 23 สิงหาคมอีกครั้ง
เข้าใจว่าต้องรอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และรอดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
ดังนั้น เหตุการณ์หลังวันที่ 23 สิงหาคมจึงน่าสนใจ
และยิ่งเข้าใกล้วันที่ 23 สิงหาคม ยิ่งมีผู้ให้ข้อแนะนำเพื่อมิให้เกิดแรงกระเพื่อม
นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แนะให้ได้คำวินิจฉัยก่อนกลางเดือนสิงหาคม เพราะหากได้หลังจากนั้น สถานะความเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศจะง่อนแง่นทันที เนื่องจากสถานะความมั่นคงทางนิติฐานะ ความมั่นคงของผู้นำประเทศต้องชัดเจน ถ้าไม่ชัดเจนประเทศอ่อนกำลังได้
ล่าสุด นายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะพักร้อนไปก่อนมีคำวินิจฉัย
นายเจษฎ์บอกว่า วันที่ 25 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์จะพิจารณากำหนดตัวบุคคลที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทร., ผบ.ทอ. และปลัดกลาโหม รวมถึง ผบ.ตร. หาก พล.อ.ประยุทธ์พ้นตำแหน่งอาจมีปัญหาว่าการดำเนินการดังกล่าวชอบหรือไม่
ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ควรลาพักร้อน หรือหยุดปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง ป้องกันไม่ให้มีปัญหา
ไม่ทราบว่าจากวันนี้ถึงวันที่ 23 สิงหาคมจะมีข้อเสนออะไรอีก
แต่เรื่องที่น่าสนใจคือหลังวันที่ 23 สิงหาคม บ้านนี้เมืองนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป
นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]
