ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : อีก 1 เดือนที่ยังร้อน
แม้ว่าจะยังเป็นเพียง การหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จนกว่าจะถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยกรณีดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีออกมา แต่เพียงดาบแรกที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องเหลือเพียงเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหมไว้นั่งทำงานเก้าอี้เดียว
แม้เป็นเพียงให้พักงาน ยังไม่ใช่คำตัดสินสุดท้าย
แต่เพียงแค่นี้ ในสายตาประชาชนคนดูก็ต้องบอกว่า อาการไม่ค่อยจะดีแล้ว เป๋ไปขนาดนี้ จะมีโอกาสพลิกกลับมาได้หรือ
แถมมติของศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่นั้น ออกมา 5 ต่อ 4 ช่างเป็นตัวเลขที่มีความหมายอย่างมากๆ
อย่างไรก็ตาม ช่วงระยะอีกราว 1 เดือน ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาในการพิจารณาว่า ครบวาระ 8 ปีแล้วหรือไม่ ซึ่งยังต้องรอดูกันต่อไป รวมทั้งศาลยังต้องรอพิจารณาคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย เพื่อชั่งน้ำหนักก่อนสรุปคำวินิจฉัย
จะเป็นช่วงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องลุ้นระทึกต่อไป จะแค่หยุดหน้าที่ชั่วคราว หรือหยุดไปตลอดกาล
ขณะเดียวกันในภาพรวมของการเมืองไทย แม้การพักงานนายกฯ จะเหมือนลดอุณหภูมิลงได้ระดับหนึ่ง แต่ยังคงมีการเคลื่อนไหวของมวลชนหลายกลุ่ม เพื่อกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก ก่อนจะถึงวันศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน
ถ้ากระแสกดดันนี้ เพิ่มความร้อนแรงมากขึ้น ก็อาจทำให้การเมืองถึงจุดเปลี่ยนแปลง เป็นได้ทั้งการลาออก การยุบสภา
หรือถ้ามองไกลไปกว่านั้น ถ้าหากเส้นทางนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ต้องจบสิ้นจริงๆ
เราก็อาจได้เห็นการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยขั้วอำนาจเดิมย่อมต้องพยายามยึดความเป็นรัฐบาลต่อไปให้ได้
มีโอกาสทั้งแต่งตั้งจากรายชื่อในบัญชีแคนดิเดตของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลปัจจุบัน หรือมองในแง่เครือข่ายขุนศึกขุนนาง อาจจะนำเสนอคนนอกบัญชีขึ้นเป็นนายกฯก็เป็นได้
ตอนนี้เริ่มมีการพูดถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ผงาดขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี กุมการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการใหญ่ ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร. ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้จบในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อการแต่งตั้งระดับถัดไปต่อเนื่อง ให้ทันการเริ่มต้นปีงบประมาณ 1 ตุลาคม
เป็นบุคคลที่มีโอกาสอย่างมาก เพราะเป็นที่ยอมรับของกองทัพ เครือข่ายอำนาจนอกระบบ ทั้งกุมเสียง ส.ส.และ ส.ว.ไว้มากมาย
เป็นคนเดียวที่สามารถใช้เสียง 2 ใน 3 ของ ส.ส.และ ส.ว. เพื่อพลิกการแต่งตั้งนายกฯ โดยยกเว้นการเสนอชื่อจากบัญชีพรรคการเมือง
ระหว่างนี้ ในฐานะรักษาการนายกฯ เป็นช่วงเวลาที่บิ๊กป้อมจะต้องโชว์ฟอร์ม โชว์บารมี เพื่อทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพมากขึ้น จนเป็นที่ยอมรับ
กระนั้นก็ตามโอกาสของบิ๊กป้อม ต้องขึ้นกับชะตากรรมของบิ๊กตู่ ซึ่งถ้าหากสุดท้ายรอดจากการตัดสินวาระครบ 8 ปี ก็กลับมาเป็นนายกฯต่อไปดังเดิม
แต่คิดๆ ดู ถ้าวนกลับมาเหมือนเดิม กระแสมวลชนที่เรียกร้องการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ จะเป็นปัญหาต่อไปที่ต้องรับมือให้ดี
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน