| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : เวทแอนด์ซี
หลังจากที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดำรงตำแหน่งนายกฯครบวาระ 8 ปี ในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 หรือไม่ เนื่องจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยึดข้อเท็จจริงที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกฯ มาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557
แต่ที่ทำให้กองเชียร์ฝั่งผู้มีอำนาจ โดยอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ต้องวิตกกังวล คือ มติของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 5 ต่อ 4 เสียง ให้ พล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2565 ไปจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยในคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้าน
หากคิดคำนวณวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯอย่างตรงไปตรงมา พล.อ.ประยุทธ์ก็จะดำรงตำแหน่งนายกฯครบวาระ 8 ปี ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้
ยิ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรคสี่ บัญญัติไว้ด้วยว่า “นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตำแหน่ง”
ขณะที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 264 กำหนดไว้ด้วยว่า “ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็น ครม.ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้”
ในความเห็นของฝ่ายที่คิดว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรคสี่ และมาตรา 264 กำหนดไว้ในตัวบท มีความชัดเจนในข้อกฎหมายอยู่แล้วว่าห้ามให้นายกฯดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 8 ปี ไม่ได้
ส่วนในมุมมองอีก 2 แนวทาง มองว่าการนับวาระนายกฯ 8 ปี ทางแรก ควรเริ่มนับจากรัฐธรรมนูญ 2560 มีผลบังคับใช้ คือวันที่ 6 เมษายน 2560 เนื่องจากความเป็นนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 ทั้งมาตรา เพราะผ่านการลงมติคัดเลือกนายกฯจากที่ประชุมรัฐสภา จะดำรงตำแหน่งนายกฯครบ 8 ปี ในวันที่6 เมษายน 2568 ขณะที่อีกแนวทางจะเริ่มนับหลังได้รับโปรดเกล้าฯเป็นนายกฯ ภายหลังการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2562 และจะครบวาระ 8 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน 2570
ซึ่งความชัดเจนที่ถูกต้องตามกฎหมาย และจะมีผลผูกพันต่อทุกองค์กร คือ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีดังกล่าวว่าจะมีบทสรุปออกมาเป็นแนวทางใด
ไม่ว่าผลจะออกมา “บวก” หรือ “ลบ” ล้วนส่งผลต่อดุลอำนาจทั้งฝ่ายการเมืองและภาคธุรกิจอย่างแน่นอน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่างอยู่ในสภาวะ เวทแอนด์ซี (Wait and See) เหมือนกันหมด
นั่นคือ รอคอยความชัดเจนในคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีดังกล่าว แม้จะมีการคาดการณ์กันว่าผลการวินิจฉัยเกี่ยวกับคำร้องการตีความการดำรงตำแหน่งนายกฯครบ 8 ปี
น่าจะอยู่ในกรอบเวลา 1 เดือน จึงอยู่ที่ผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องจะช่วยสร้างความชัดเจนในกรณีดังกล่าว เพื่อให้สภาวะ “เวทแอนด์ซี” ที่เกิดขึ้นกับทุกฝ่ายในประเทศหมดไป
จตุรงค์ ปทุมานนท์
