หลังการประชุมเอเปค คงได้เห็นความชัดเจนทางการเมืองมากขึ้น
ความชัดเจนในการเลือกตั้ง ต้องรอฟังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากฎหมายลูกสิ้นเดือนนี้
ความชัดเจนในนโยบายหาเสียง แต่ละพรรคทยอยออกมาบอกเล่าแล้ว
เช่นเดียวกับ ว่าที่ผู้สมัคร แต่ละพรรคเริ่มทยอยเปิดตัว
เหลือความชัดเจนเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค ซึ่งทุกคนรอลุ้น
โดยเฉพาะความชัดเจนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีข่าวว่าพรรครวมไทยสร้างชาติสนใจ
เช่นเดียวกับความชัดเจนแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ที่มีข่าวว่า คือ นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
ขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ ชูแคนดิเดตให้ปรากฏกันเป็นระยะ
พรรคพลังประชารัฐชู พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นแคนดิเดตนายกฯ
พรรคประชาธิปัตย์ชูนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค พรรคภูมิใจไทยชูนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค
ทั้งสองพรรคแม้ผลสำรวจจากโพลยังไม่โดดเด่น แต่ต้องถือเป็นทั้งสองพรรคทำพื้นที่มานาน และมีกลยุทธ์ในการเลือกตั้งซึ่งประมาทไม่ได้ หัวหน้าพรรคของทั้งสองพรรคจึงมีสิทธิได้ลุ้นเก้าอี้นายกฯทุกยุคสมัย
ในฟากรัฐบาล นอกจากพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทยแล้ว ยังมีพรรคอื่นเสนอแคนดิเดตนายกฯ อาทิ พรรคชาติพัฒนากล้า ชูนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นนายกฯ
เหลียวไปดูซีกพรรคฝ่ายค้าน นอกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว มองไปที่พรรคก้าวไกล มีความชัดเจนที่ชูนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้า ซึ่งที่ผ่านมาผลจากโพลพบว่า นายพิธาได้รับการตอบรับดี
ส่วนพรรคใหม่แต่คนเก๋า อย่างพรรคสร้างอนาคตไทย ชูนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยสร้างไทย นำเสนอคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ลงพื้นที่ไม่หยุด
ไล่เรียงแต่ละพรรคแล้ว หาก พล.อ.ประยุทธ์มีความชัดเจนเรื่องอนาคตทางการเมืองของตัวเอง และถ้าพรรคเพื่อไทยจัดเปิดตัวว่าที่แคนดิเดตนายกฯออกมา
เท่ากับครบองค์ประกอบการขับเคลื่อนการเลือกตั้งทั่วไป
ยิ่งถ้าศาลรัฐธรรมนูญไฟเขียวกฎหมายลูก แล้วประกาศใช้
ยิ่งจะเพิ่มความคึกคักทางการเมืองช่วงท้ายปีนี้และต้นปีหน้า ซึ่งเป็นช่วงก่อนการเลือกตั้งให้น่าติดตาม
ติดตามทั้งพรรค นโยบายหาเสียง แคนดิเดตนายกฯ รวมไปถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่ประกาศลงสมัครเพื่อรับใช้ประชาชน
โดยเฉพาะชื่อชั้นแคนดิเดตนายกฯเท่าที่ประกาศตัวและที่มีข่าว ถือว่าไม่ธรรมดา
ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร นายจุรินทร์ นายอนุทิน นายเศรษฐา น.ส.แพทองธาร นายพิธา คุณหญิงสุดารัตน์ นายสมคิด นายกรณ์ เป็นต้น
และเท่าที่ฟังนโยบายของแต่ละพรรคที่นำเสนอก็ถือว่าน่าสนใจ
เมื่อทุกอย่างครบองค์ประกอบ การขับเคลื่อนสู่การเลือกตั้งจะมีความเข้มข้นมากขึ้น
หัวข้อการสนทนาเรื่องอนาคตของชาติและคนในชาติจะมีพลัง
สามารถผลักดันให้คนไทยเกิดความหวัง
หวังที่จะสร้างอนาคตของตัวเองด้วยการออกไปหย่อนบัตรเลือกนโยบาย เลือกพรรค
รวมถึงการแสดงพลังให้ ส.ว.ที่มาจาก คสช. หันมาฟังประชาชน
แล้วโหวตเลือกนายกฯคนที่ประชาชนอยากให้เป็น
