สถานีคิดเลขที่ 12 : ไม่ทิ้ง‘ความมั่นคง’

สถานีคิดเลขที่ 12 : ไม่ทิ้ง‘ความมั่นคง’ ที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

สถานีคิดเลขที่ 12 : ไม่ทิ้ง‘ความมั่นคง’

ที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศเข้าไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว

แต่กระนั้น หมวกนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ยื้อสวมอยู่ต่อไป

เพราะสามารถกุมกลไกการบริหารได้ทั้งหมด และกว้างขวาง

Advertisement

เป็นประโยชน์ที่สุดต่อการจะไปต่อ

จึงเป็นอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ แย้มไว้แล้วในคณะรัฐมนตรี คือจะอยู่อีก “3 เดือน”

ไม่รีบยุบสภา ให้กลายเป็น “ขีดข้อจำกัด” ของอำนาจตนเองที่มีอยู่

Advertisement

และอำนาจนั้นไม่ใช่เพียงตำแหน่งนายกฯ หรือรัฐมนตรีกลาโหมเท่านั้น

อีกตำแหน่งที่ใหญ่เบ้อเริ่ม แต่คนไม่พูดถึงกันนัก

นั่นก็คือการคุม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ด้วย

ซึ่งเมื่อเช้าวันที่ 22 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่งนั่งเป็นประธานสรุปผลการปฏิบัติงานและแถลงแผนการปฏิบัติงานประจำปี 2565 และมอบนโยบาย ปี 2566 แก่ กอ.รมน.

โดยยังกุมแนว “ป.” เอาไว้เหนียวแน่น แม้ว่า ที่ผ่านมา “3 ป.” ในเส้นทางอำนาจที่ผ่านมามีภาพของการ “แตกแยก”

แต่สำหรับ กอ.รมน. ป.ประยุทธ์ ยังขับเน้นไปที่ “5 ป.”

“ป 1” ยึดผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง
“ป 2” ต้องปฏิรูปการทำงานตามนโยบาย “ประเทศไทย 4.0”
“ป 3” ทำงานประสานสอดคล้องเชื่อมโยงงานเป็นเนื้อเดียวกัน กระชับกลไก “ประชารัฐ” ทั่วประเทศ
“ป 4” ประยุกต์หลักการ “ศาสตร์พระราชา” และหลักวิชาการต่างๆ มาใช้
และ “ป 5” ประชาสัมพันธ์ มุ่งสร้างการตระหนักรู้ ความเข้าใจ แสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เนื่องจากปัจจุบันมีการถ่ายทอดแนวความคิดที่ไม่ดีให้กับเยาวชน เฟคนิวส์ ทำให้เข้าใจผิดสร้างความแตกแยก

โดยใน “ป 5” ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เน้นย้ำถึง “การถ่ายทอดแนวความคิดที่ไม่ดีให้กับเยาวชน…สร้างความแตกแยก” นี้

น่าสังเกตว่า ในตอนบ่ายของวันเดียวกันกับการประชุม กอ.รมน. พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ ขยายผลเรื่องนี้ต่อ

โดยกล่าวว่า “เราต้องหันหน้าเข้าหากัน ไม่ใช่เกลียดชังกัน คอยจับผิดจับถูกกันตลอดเวลา”
“เมื่อสักครู่ได้สั่งการแล้ว ต่อไปนี้ สิ่งใดก็ตามที่ทำให้เกิดความไม่สามัคคี ทำให้เกิดความแตกแยก หรือทำให้สังคมวุ่นวาย จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมดทุกประการ”
“ไม่ว่าการจะบูลลี่กันในโรงเรียน เอาคนเข้าไปในโรงเรียนหรือในสถานศึกษา ต่อไปนี้ มีความผิดทั้งหมด ทั้งผู้อำนวยการสถาบันการศึกษา ครู อาจารย์ โดนหมด…ไม่ยกเว้นใครทั้งสิ้น จะกี่คดีก็ต้องดำเนินการ อันนี้แจ้งเตือนไว้ก่อน สื่อโซเชียลโดนด้วยทั้งหมด”

ท่าทีที่แสดงผ่านการคุม กอ.รมน.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติของ พล.อ.ประยุทธ์ดังกล่าว
คงตีความเป็นอื่นใดไม่ได้

นอกจากมองว่า การจะ “ไปต่อ” ของ พล.อ.ประยุทธ์ ครั้งนี้

แม้ด้านหนึ่งจะชิดแนบการเมืองมากขึ้น

แต่สิ่งหนึ่งที่คงไม่ทิ้ง และเชื่อว่าเป็นจุดแข็งแกร่งของตน

และจะชูขึ้นใช้หาเสียงสนับสนุนต่อไปคือประเด็น “ความมั่นคง” ตามถนัด

การเน้นไปยังการจัดการ พวกที่สร้าง “ความแตกแยก” อันรวมถึง สถาบันการศึกษา ครู อาจารย์ ที่เคยถูกมองจากฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ ว่า สร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมาต่อต้านฝ่ายตนนั้น

ทำให้มองเห็นความโน้มเอียงของ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีจุดยืนในแนว “เลี้ยวขวาผ่านตลอด” ว่าคงจะชูประเด็นความมั่นคง ผ่านยุทธวิธีสยบ “พวกสร้างความแตกแยก” ชัดเจน

ซึ่งนอกจาก เรียกเสียงสนับสนุนจากแฟนๆ ใน “ปีกอนุรักษนิยม” แล้ว

ยังเป็นโอกาสในการใช้กลไกที่ควบคุมอยู่ สยบ “ฝ่ายต่อต้าน” ตนเองไปในตัว

ภายใต้แนวทางที่ถนัด–เพื่อความมั่นคงและสงบเรียบร้อย!

สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image