สถานีคิดเลขที่ 12 : เรตติ้งต้องดีให้พอ

สถานีคิดเลขที่ 12 : เรตติ้งต้องดีให้พอ พลันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

สถานีคิดเลขที่ 12 : เรตติ้งต้องดีให้พอ

พลันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศความชัดเจนทางการเมืองด้วยตัวเองว่า พร้อมรับเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ นั่งเป็นหัวหน้าพรรค รทสช.

ความชัดเจนของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ประกาศไปต่อกับพรรค รทสช. เหตุผลหนึ่งที่ เจ้าตัวระบุไว้นั่นคือ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เคยสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ เมื่อปี 2562 เลือกที่จะประกาศสนับสนุน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 30 ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ความชัดเจนของ พล.อ.ประยุทธ์ นอกจากจะสร้างความคึกคักให้กับกองเชียร์ในกลุ่มอนุรักษนิยมแล้ว ยังช่วยปลุกให้พรรค รทสช.กลับมาชีวิตชีวา รวมทั้งนักเลือกตั้ง อย่าง ส.ส.อดีต ส.ส. รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่หวังจะเกาะกระแส หรือ “เรตติ้ง” ส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยให้คว้าชัยได้รับเลือกตั้ง ตัดสินใจทางการเมืองได้ง่ายขึ้น

Advertisement

ความชัดเจนทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยเพิ่มเรตติ้งและความนิยมให้กับพรรค รทสช.อย่างมีนัยยะสำคัญ มีตัวชี้วัดจาก ผลการสำรวจของ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 4/2565” ระหว่างวันที่ 17-22 ธันวาคมที่ผ่านมา

โดยบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พุ่งขึ้นมาเป็นอันดับสอง โดยคะแนนนิยมอยู่ที่ 14.05% เป็นรองอันดับหนึ่ง คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ได้ 34%

ส่วนพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ ผลสำรวจของนิด้าโพล พรรค รทสช.มีความนิยมขึ้นมาในอันดับสี่ อยู่ที่ 6.95% เป็นรองอันดับหนึ่งอย่างพรรคเพื่อไทยที่ได้ 42.95% อันดับสอง พรรคก้าวไกล ที่ได้ 16.60% และอันดับสาม 8.30% ที่ยังไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใด

Advertisement

เรตติ้งและความนิยมของพรรค รทสช. และ พล.อ.ประยุทธ์ แม้ตามผลโพลอาจทำให้กองเชียร์และบรรดาผู้สมัคร ส.ส. พอมีรอยยิ้มและความหวังในการเดินต่อไป

เพราะอีกประมาณ 3 เดือนนับจากนี้ จนถึงวันที่ 23 มีนาคม 2566 ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ครบวาระ

ยังคงพอมีเวลาจัดทัพ ปรับกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มเรตติ้งให้ทั้งตัว พล.อ.ประยุทธ์ และพรรค รทสช. ไปต่อในการเลือกตั้ง ภายใต้กติกา บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ หารด้วย 100

แบ่งเป็น ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน โดยเฉพาะผู้ชนะ ส.ส.เขต คือ ผู้ที่ได้คะแนนในอันดับที่ 1 ส่วนอันดับที่ 2 ลงมา ทุกคะแนนตกน้ำหมด

ไม่สามารถนำคะแนนไปรวมคำนวณให้เป็นคะแนนของพรรคได้

เรตติ้งหรือคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรค รทสช. แม้จะดี แต่ในการเลือกตั้ง ต้องอยู่ในเกณฑ์ดีให้พอที่จะได้รับชัยชนะมาเป็นเสียงของ ส.ส.ด้วย

บางพรรคเรตติ้งไม่ปัง แต่ผลการเลือกตั้งกลับได้เสียง ส.ส. ที่จับต้องได้มากกว่า พรรคที่คะแนนนิยมดีก็มีมาแล้ว

จึงอยู่ที่กลยุทธ์ในการสู้ศึกเลือกตั้ง ที่นักการเมืองแต่ละพรรคต้องไปทำการบ้านและถอดบทเรียนกันเอง

ส่วนพรรคใดจะได้เสียงตามเป้า เกินเป้า หรือพลาดเป้า คณิตศาสตร์การเมือง ภายหลังการเลือกตั้งจะเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนที่สุด ว่าใครจะได้ไปต่อ หรือจอดป้าย

จตุรงค์ ปทุมานนท์

 

อ่านข่าวน่าสนใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image