ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : สงกรานต์ฝุ่น
ใครที่มีโอกาสได้เดินทางมายังจังหวัดท่องเที่ยวภาคเหนือ ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะพบกับบรรยากาศความซบเซาอย่างน่าใจหาย
ยิ่งถ้าเป็นคนในพื้นที่จังหวัดเหล่านี้ ยิ่งเห็นภาพความเงียบสงัดได้ในทุกๆ วันและต่อเนื่องมานานแล้ว
น่าเสียใจแทนผู้ประกอบการธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในภาคเหนือ ที่ต้องสูญเสียรายได้ไปมหาศาล สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้
เพราะนักท่องเที่ยว หนีสภาพฝุ่นควันอันตรายที่ปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือตอนบน
ทั้งที่เทศกาลสงกรานต์ ในเชียงใหม่ เชียงราย ปาย แม่ฮ่องสอน คือ มนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้อย่างเนืองแน่นมาตลอด
แต่สงกรานต์นี้ ต้องพากันเบนเข็มไปยังเมืองท่องเที่ยวชายทะเล เลือกพื้นที่ปลอดฝุ่นพีเอ็ม2.5 เอาไว้ก่อน
เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ที่เคยเป็นสุดยอดของการละเล่นสงกรานต์และประเพณีอันงดงาม มาในปีนี้เจอวิกฤตฝุ่นควัน ทำลายจนย่อยยับ
แต่คำถามสำหรับคนภาคเหนือก็คือ ทำไมรัฐบาลจึงไม่สามารถคลี่คลายปัญหานี้ได้ ทั้งที่เกิดขึ้นทุกปี เกิดตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา
แล้วจะมีใครมาร่วมรับผิดชอบ กับการพังทลายของธุรกิจท่องเที่ยวในภาคเหนือทั้งระบบหรือไม่ ไปจนถึงสุขภาพโรคภัยอันตรายที่จะสะสมจนออกอาการหนักในสักวัน
ล่าสุดถึงขั้นเข้าชื่อกันเพื่อฟ้องร้องนายกรัฐมนตรี ฐานไม่ใส่ใจแก้ไขปัญหาฝุ่นมรณะ
คล้ายเป็นคำถามที่ถามไปถึงรัฐบาล แม้ว่าเวลานี้จะเป็นแค่รัฐบาลรักษาการ แต่จริงๆ แล้วก็เป็นรัฐบาลจริงในช่วงที่สถานการณ์ฝุ่นเริ่มรุนแรง แต่ไม่สามารถคลี่คลายอะไรได้
กล่าวกันว่ารัฐบาลนี้อยู่ต่อเนื่องมาแล้ว 8-9 ปี ไม่เคยแสดงความสามารถแก้ไขวิกฤตจากธรรมชาติอะไรได้เลย ทั้งแสดงทรรศนะอย่างชัดเจนว่า เป็นเรื่องของธรรมชาติ ต้องปล่อยให้ธรรมชาติคลี่คลายไปเอง เช่น พูดชัดเจนว่าน้ำท่วมเพราะฝนตก แปลว่าถ้าพ้นหน้าฝน น้ำก็ไม่ท่วมอีกแล้ว
เรื่องฝุ่นควัน นอกจากโทษชาวบ้านเรื่องเผาไร่เผานาเผาป่าแล้ว ก็โยนเป็นปัญหาการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน คล้ายจะบอกว่าเกินอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลไทย
จนมีพรรคการเมืองหลายพรรค ออกมาแสดงวิสัยทัศน์การแก้ปัญหาฝุ่นและการเผาว่า จะต้องประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างจริงจัง
นั่นเองรัฐบาลจึงเริ่มคิดออก เริ่มหันมาใช้กลไกอาเซียนร่วมกันแก้ไข
แต่ช้าไปหรือไม่ เพราะเทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เจ๊งกันระเนระนาดไปแล้ว
ตอนนี้ความหวังของชาวบ้านในพื้นที่ที่เกิดวิกฤตฝุ่นควัน ทางออกหนึ่ง คือการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
ต้องเลือกพรรคการเมืองที่มีวิสัยทัศน์ระดับโลก มีผู้นำอินเตอร์ ไม่ใช่พวกเก็บเนื้อเก็บตัวในพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง
ต้องเป็นผู้นำที่สามารถพูดคุยกับระดับผู้นำรัฐบาลรอบบ้าน ช่วยกันแก้ปัญหาฝุ่นควันร่วมกันให้ได้
ถึงที่สุด เชื่อว่าชาวบ้านในภาคเหนือคงจะมุ่งเลือก พรรคที่มีศักยภาพระดับข้ามชาติ หาทางออกให้ได้
เพื่อธุรกิจการท่องเที่ยวและเพื่อสุขภาพลมหายใจของประชาชนคนภาคเหนือ
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน