| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
ทุกสายตาทางการเมือง พากันจับจ้องสถานการณ์ในวันที่ 3 สิงหาคม ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคำร้องปมการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่รัฐสภามีมติว่ายื่นซ้ำไม่ได้นั้น เป็นการขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
ถ้ามีมติรับพิจารณา จะส่งผลต่อการโหวตนายกฯใหม่อย่างไร จะมีคำสั่งให้ชะลอการโหวตนายกฯเอาไว้ก่อนด้วยหรือไม่
ถ้าไม่รับพิจารณา ตีตกไปเลย ย่อมส่งผลต่อการกำหนดวันประชุมโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
โดย ประธานวันนอร์ จะนัดประชุมรัฐสภาในวันที่ 4 สิงหาคม รอรับผลมติศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ซึ่งอาจจะมีวาระโหวตนายกฯได้ทันที
ดังนั้น วันที่ 4 สิงหาคม จะเป็นอีกวันที่ทั้งสังคมต้องจับตามองอย่างจดจ่อ
ชื่อนายกฯที่เตรียมเสนอให้ที่ประชุม 2 สภาพิจารณา มาถึงคิว นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย หลังจากพรรคก้าวไกลส่งมอบภารกิจให้
อาจจะได้ลุ้นกันในวันที่ 4 สิงหาคมว่า เราจะได้นายกฯหมายเลข 30 หรือไม่
ชื่อแคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย จะต้องควบคู่ไปกับการจับขั้วทางการเมือง เพื่อเตรียมตั้งรัฐบาล
เพราะ ส.ว.ตั้งเงื่อนไขว่า ต้องไม่มีก้าวไกลร่วมในรัฐบาล จึงจะโหวตให้ เพราะ ส.ส.พรรครัฐบาลเดิม ที่จะดึงมาเติมเสียงสนับสนุนชื่อนายกฯ ตั้งเงื่อนไขเดียวกัน
การเจรจากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการโหวตชื่อนายกฯ คงต้องเข้มข้นให้ได้บทสรุปเร็วที่สุด จะเอาพรรคไหนมาเพิ่ม หรือจะต้องเอาพรรคไหนออก เพื่อให้ได้เสียงโหวตเกิน 375 เสียง หรือกึ่งหนึ่งของ 2 สภา
ปัญหาใหญ่ของเพื่อไทยก็คือ เงื่อนไขจาก ส.ว.และจากพรรคอื่นๆ ที่จะเอาเสียง ส.ส.เข้ามาเพิ่ม จะทำอย่างไร พร้อมๆ กับต้องไม่ให้เกิดแรงต่อต้านจากประชาชน เจ้าของเสียงในคูหาวันเลือกตั้ง
สิ่งสำคัญที่สุด เพื่อไทยต้องตัดสินใจร่วมกับก้าวไกลให้ดี ด้วยบรรยากาศมิตรภาพ เห็นพ้องต้องกันอย่างดี
บรรยากาศช่วงสัปดาห์ก่อน ที่เพื่อไทยทำพลาด เปิดพูดคุยกับ 5 พรรครัฐบาลเดิมอย่างโครมคราม เหมือนไม่ไยดีกับก้าวไกล ทำให้เกิดความไม่พอใจจากประชาชนอย่างร้อนแรง
น่าจะเป็นบทเรียนเล่มใหญ่ให้กับเพื่อไทย
ดังนั้นในการเจรจาเพื่อให้การโหวตชื่อเศรษฐา ผ่านได้ลุล่วง จะต้องพูดคุยกับก้าวไกลให้ดีด้วย
จะไปต่อด้วยกันหรือไม่ ต้องตัดสินใจร่วมกัน
ถ้าเพื่อไทยรับฟังเงื่อนไขจาก ส.ว.และจากพรรครัฐบาลเก่า ก็ต้องรับฟังเงื่อนไขจากก้าวไกลด้วยเช่นกัน
อย่างเช่น 5 พรรคขั้วรัฐบาลชุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เคยเชิญมาพูดคุยจนเกิดกระแสวิจารณ์อื้ออึงนั้น คงไม่นำมาร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคกระมัง
การจับขั้วรัฐบาลใหม่เพื่อให้ชื่อเศรษฐาได้รับความเห็นชอบจาก 2 สภา จึงต้องเจรจากันอย่างละเอียดรอบคอบ และสามารถสร้างสมดุลให้ทุกฝ่ายพอใจ
ถ้าทำได้จริง คือ ทำให้ก้าวไกลรู้สึกสบายใจด้วย ทำให้ฝ่าย ส.ว.และพรรคอื่นๆ พอใจด้วย
แบบนี้จะทำให้การโหวตชื่อเศรษฐา ราบรื่นแน่นอน
กว่าจะถึงวันโหวตนายกฯคนใหม่ ต้องลุ้นระทึกกันต่อไป
ต้องลุ้นทั้งวันที่ 3 สิงหาคม และอาจจะลุ้นวันที่ 4 สิงหาคม ถ้าสามารถเปิดโหวตนายกฯได้จริง และ 10 สิงหาคม ก็เป็นอีกวันที่ต้องลุ้นด้วย
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
