‘เผือกร้อน-ระเบิดเวลา’ ใน‘เขาวงกต’

‘เผือกร้อน-ระเบิดเวลา’ ใน‘เขาวงกต’

‘เผือกร้อน-ระเบิดเวลา’
ใน‘เขาวงกต’

ท่ามกลางความไม่ชัดเจน ความคลุมเครือ ความไม่แน่นอน-ไร้เสถียรภาพ และระบบการเมืองที่เละเทะ จนบ้านเมืองดูเหมือนเดินหน้าไปไหนไม่ไกล

ทว่า หากมองอีกมุมหนึ่ง การเมืองไทยหลังเลือกตั้ง 2566 ก็เคลื่อนหน้าผ่านรายละเอียด-ความซับซ้อนเยอะแยะมากมาย

เราอาจไล่ไทม์ไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ก้าวไกลชนะเลือกตั้งอย่างเหนือความคาดหมาย ห้วงเวลาที่ก้าวไกลพยายามเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล ก่อนที่กลไกตามรัฐธรรมนูญ 2560 และกระบวนการนิติสงครามต่างๆ จะเข้ามาขัดขวางก้าวไกลและ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หลังจากนั้น ก้าวไกลจึงส่งมอบบทบาทการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้แก่เพื่อไทย แล้วเพื่อไทยก็เริ่มเดินหน้าเจรจาพูดคุยกับพรรคการเมืองในขั้วรัฐบาลชุดเดิม พร้อมๆ กับมีกระแสข่าวเรื่องการกลับบ้านของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร

Advertisement

ก่อนที่เพื่อไทยจะแถลง “เขี่ย” ก้าวไกลออกจากการเป็นพันธมิตรในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล

กระนั้นก็ตาม การจัดตั้งรัฐบาลกลับยังมิได้ดำเนินไปอย่างง่ายดาย เครื่องหมายคำถามต่างๆ ยังผุดขึ้น และสภาวะสุญญากาศจะยังคงดำรงอยู่ไปถึงกลางเดือนสิงหาคม เป็นอย่างน้อย

เมื่อพิจารณารายละเอียดข้างต้น จะพบว่าหลังวันที่ 14 พฤษภาคม สังคมการเมืองไทยมีสถานการณ์ใหม่ๆ ผุดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงแต่สถานการณ์เหล่านั้นกลับชักนำทุกคนเข้าสู่ “เขาวงกต” ที่ยังหา “ทางออก” ไม่เจอ

Advertisement

ทั้งๆ ที่ถ้าประเทศนี้ปกครองกันด้วย “ความเป็นปกติ” โดยเชื่อมั่นเสียงประชาชนมากกว่านี้ เลือกสัญจรไปบนเส้นทางที่คดเคี้ยวน้อยกว่านี้ เราก็จะต้องไม่ผ่านสถานการณ์สับสนยิบย่อยขนาดนี้ และไม่ต้องใช้เวลาเนิ่นนานขนาดนี้ ในการแสวงหารัฐบาลและผู้นำใหม่

เอาเข้าจริง ต่อให้ก้าวไกลตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ และได้ทุกอย่างในทางการเมืองอย่างที่พรรคอันดับหนึ่งพึงได้รับ (เช่น เก้าอี้ประธานรัฐสภา) ก็น่าเชื่อว่า “รัฐบาลก้าวไกล” จะเจอกระแสน้ำเชี่ยวกรากตั้งแต่วันแรกๆ และอุปสรรคยากเย็นต่างๆ จะถั่งโถมเข้ามาตั้งแต่ต้น จนไม่มีช่วงเวลา “ฮันนีมูนพีเรียด”

อย่างไรก็ตาม เมื่อหลายฝ่ายร่วมกันตัดก้าวไกลออกจากสมการการจัดตั้งรัฐบาล แล้วพร้อมใจกันถีบส่งพรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งขึ้น “ลานประหาร” (แต่อีกด้านหนึ่ง คุณอาจกำลังช่วยเชิดชูให้ก้าวไกลกลายสภาพเป็น “มรณสักขี” หรือชุบชีวิตก้าวไกลให้กลายเป็นฮีโร่ตนใหม่ที่ทวีคะแนนนิยมมากขึ้นไปอีก และต่อให้กวาดล้างก้าวไกลจนเหี้ยน ประชาชนเกินสิบล้านคนก็จะช่วยกันเสาะแสวงหา “ตัวแทนใหม่” ของพวกตนได้สำเร็จอยู่ดี)

ก็ใช่ว่า “เผือกร้อน/ระเบิดเวลา” ทางการเมืองจะปลาสนาการไปเฉยๆ ตรงกันข้าม มันกลับถูกโยนไปยังตัวแสดงอื่นๆ ต่ออย่างไม่รู้จบ (หรือหลายคนก็โดดเข้ามารับ “เผือกร้อน” เสียเอง)

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เราจึงได้เห็น “คนรับเผือกร้อน” หมุนเวียนกันออกสื่อรายแล้วรายเล่า ตั้งแต่ “ท่านประธานวันนอร์” “อดีต ผบ.ตร.เสรีพิศุทธ์” พรรคเพื่อไทยแทบทั้งพรรค (มีแค่ ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ที่รอดไปได้ด้วยจุดยืนอันมั่นคงสม่ำเสมอ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสองแคนดิเดตนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร และ เศรษฐา ทวีสิน ไล่ไปถึงอดีตดาวสภาอย่าง สุทิน คลังแสง ที่สูญเสียเครดิตไปไม่น้อยใน “รายการจอมขวัญ”

ถามว่า “ระเบิดเวลา/เผือกร้อน” นี้มีศักยภาพเพียงแค่ทำลายล้างขั้วฝ่ายค้านเดิมหรือพันธมิตร 8 พรรคเท่านั้นหรือ?

คำตอบ คือ เปล่าเลย! เพราะมันจะถูกโยนไปยังฝ่ายอื่นๆ ต่อไปเรื่อยๆ ภายใน “เขาวงกตการเมืองอันบิดเบี้ยวอัปลักษณ์”

“อำนาจ-ผลประโยชน์-ตำแหน่งแห่งที่” ที่พวกคุณได้รับต่อจากนี้ จะถูกส่งมอบไปพร้อมๆ กับ “เผือกร้อน-ระเบิดเวลา” ลูกใหญ่ด้วย

ปราปต์ บุนปาน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image