สถานีคิดเลขที่ 12 : 2 นายกฯ

2 นายกฯ

สถานีคิดเลขที่ 12 : 2 นายกฯ

มีหลากหลายมุมมอง ต่อปรากฏการณ์ที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อพบปะกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ซึ่งกำลังจะอำลาตำแหน่ง ระหว่างนายกฯที่กำลังจะมารับงานกับนายกฯที่กำลังจะวางมือ

ถ้ามองด้วยสายตาของนักต่อสู้ประชาธิปไตยกับเผด็จการ ย่อมไม่เห็นด้วย กับย่างก้าวของนายเศรษฐาในการเข้าไปหา พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงคงรู้สึกตอกย้ำ การจัดตั้งรัฐบาลของเพื่อไทย ที่ไปร่วมกับฝ่ายรัฐบาลเก่า ไปรวมขั้วกับฝ่ายอนุรักษนิยมการเมืองแบบสุดตัว

จนกระแสเสียงของคนฝ่ายนี้ ได้ตัดเพื่อไทยออกไปจากฝ่ายประชาธิปไตย ชี้ว่าเป็นฝ่ายอนุรักษนิยมการเมือง เพียงแต่มีมุมมองทางเศรษฐกิจที่ทันสมัย

Advertisement

แต่ในทางกลับกัน สำหรับสังคมวงกว้าง การพบปะของ 2 นายกรัฐมนตรี ก่อนจะส่งมอบตำแหน่งกัน กลายเป็นภาพที่ทำให้รู้สึกว่า เป็นมิติใหม่ทางการเมือง

แถมบรรยากาศอันชื่นมื่นระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กับนายเศรษฐา ทำให้รู้สึกว่า การเมืองไทยเริ่มคลี่คลาย ลดความร้อนรุ่ม

สอดรับกับที่เพื่อไทยพยายามป่าวร้องว่า กำลังจัดตั้งรัฐบาลพิเศษ สลายขั้ว สลายความขัดแย้งในบ้านเมือง

Advertisement

ทั้งการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งการพบปะของนายเศรษฐากับ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเข้าทำนองปรองดองกันสุดๆ

เพราะเดิมทีต้องนับว่า พล.อ.ประยุทธ์คืออีกขั้วหนึ่งทางการเมือง ขณะที่เพื่อไทยคือขั้วตรงข้าม ต่อสู้ห้ำหั่นกันมายาวนาน จนกระทั่งหัวขบวนของเพื่อไทยคือนายทักษิณ ชินวัตร ต้องกลายเป็นคนต่างแดนอยู่ 17 ปี

แต่เมื่อเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล โดยรวมกับขั้วเดิมได้อย่างแนบสนิท แถมนายทักษิณก็ได้บินกลับไทย มาเข้ากระบวนการยุติธรรม แล้วนายเศรษฐายังเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ถึงทำเนียบรัฐบาลอีก

จึงนับเป็นการปรับเปลี่ยนอำนาจทางการเมืองครั้งใหญ่

กระนั้นก็ตาม มองเฉพาะท่าทีของนายเศรษฐา ที่ตัดสินใจเข้าพบปะกับ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนจะเข้ามานั่งเก้าอี้นายกฯเต็มตัว

น่าเชื่อว่า คงต้องการสร้างนิมิตใหม่ทางการเมือง

คงเป็นแนวคิดที่ต้องการทำให้เห็นว่า ระหว่างนายกฯใหม่กับนายกฯที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง ควรส่งต่อกันด้วยไมตรีมิตรภาพ

ทำให้ภาพรวมทางการเมืองดูคลี่คลายไปในทางที่ดี สร้างความเชื่อมั่น ทำให้ดูสงบราบรื่น ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ดึงดูดการท่องเที่ยว อะไรทำนองนั้น

ทั้งหลายทั้งปวง อาจจะเป็นดั่งปรัชญาทางการเมืองที่เชื่อกันมาตลอดว่า ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร

การเมืองต้องมียืดหยุ่น มีประนีประนอม

แต่ก็นั่นแหละกระแสสังคมไทยในเวลานี้ไม่เป็นเช่นนั้น เสียงวิพากษ์วิจารณ์การเมืองไทยเวลานี้จากผู้คนในสังคม เต็มไปด้วยความเดือดดาล

ผิดหวังที่พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยไม่รวมตัวกันเหนียวแน่นเพื่อสู้กับพรรคฝ่ายสืบทอดอำนาจแบบถึงไหนถึงกัน

ความคิดและมุมมองที่แตกต่าง ต้องรอดูผลกันไปยาวๆ จนกว่าจะถึงเลือกตั้งครั้งหน้า

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image