การเมืองเละ-เศรษฐกิจฟู

การเมืองเละ-เศรษฐกิจฟู

การเมืองเละ-เศรษฐกิจฟู

รัฐบาล 11 พรรคและนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ต้องฝ่ามรสุมการเมืองมากมาย โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหนาสาหัส แต่วันนี้ผ่านทุกขั้นตอนจนเป็นคณะรัฐบาลที่สามารถบริหารงานได้อย่างเต็มตัวแล้ว มีแต่จะต้องเร่งทำงาน สร้างผลงาน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่เป็นจุดแข็ง เป็นเครื่องหมายการค้าของเพื่อไทย และเป็นจุดเด่นของนายกฯเศรษฐา

ทางการเมืองจะโดนข้อกล่าวหาจนเสียหายขนาดไหนก็ตาม แต่เมื่อเป็นรัฐบาล ประเทศต้องเดินหน้าต่อไป ปัญหาประชาชนรออยู่มหาศาล

การประชุม ครม.นัดแรกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ออกมาตรการด้านลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชนแบบชุดใหญ่ ไปจนถึงมาตรการสร้างรายได้นำเงินเข้าประเทศ

Advertisement

เป็นการลงมือทำงานฉับไว อย่างน้อยก็ทำตามที่รับปากประชาชนเอาไว้

ลดค่าไฟฟ้าเหลือ 4.10 บาทต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง จากเดิม 4.45 บาท ลดไป 35 สตางค์ เริ่มรอบบิลเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป

ลดราคาน้ำมันดีเซล 2.5 บาทต่อลิตร ทำให้ราคาต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร เริ่มวันที่ 20 กันยายนนี้ ถึง 31 ธันวาคม

Advertisement

ส่วนเบนซินจะเป็นคิวต่อไป โดยลดค่าการตลาดไม่ให้เกินลิตรละ 2 บาท จะทำให้ราคาเบนซินลดลงได้ในระดับหนึ่ง และจะปรับลดราคาเบนซินให้เฉพาะกลุ่มที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ เช่น มอเตอร์ไซค์รับจ้างและแท็กซี่

พร้อมกับตรึงราคาแก๊สหุงต้ม

นี่คือมติ ครม.เศรษฐานัดแรก เข้าทำนองลดราคาหั่นแหลก เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน

แต่ก็ถือว่าเป็นมาตรการระยะสั้น เพียงแต่จะประคับประคองชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ให้หายใจคล่องขึ้นไปจนถึงสิ้นปีนี้

หวังว่าจากนี้จะมีมาตรการในระยะยาวคลอดออกมาต่อไป

อีกทั้งแค่เป็นมาตรการระยะสั้น เมื่อลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันลงได้ เป็นการลดต้นทุนได้ ดังนั้นผลที่จะยังตามมาอีกอย่างคือ เป็นการเบรกราคาสินค้า จะไม่มีข้ออ้างเพื่อปรับขึ้นราคาได้อีก

ถัดมายังมีมาตรการพักหนี้เกษตรกร รวมทั้งกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กหรือเอสเอ็มอี เป็นเวลา 3 ปี พักทั้งต้นและดอก

ไปจนถึงมติปรับเปลี่ยนการจ่ายเงินเดือนข้าราชการประจำเป็น 2 รอบต่อเดือน คาดว่าเริ่มวันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งก็มีข้าราชการที่ชอบและไม่ชอบ

นอกจากมาตรการลดค่าครองชีพแล้ว มติ ครม.เศรษฐานัดแรก มีมาตรการสร้างรายได้อย่างฉับไวด้วย

นั่นคือ วีซ่าฟรีให้นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน เริ่มตั้งแต่ 25 กันยายนจนถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567

นักท่องเที่ยวจีนนั้น จำนวนมากมายมหาศาลขนาดไหนเข้าใจกันได้ดี ส่วนคาซัคสถานพบว่า เป็นชาติที่กำลังมาแรง

การท่องเที่ยวนี่แหละ ที่รัฐบาลเศรษฐามั่นใจว่า จะปลุกการท่องเที่ยว ฟื้นธุรกิจในบ้านเราได้รวดเร็วรุนแรงที่สุด

แล้วเรื่องใหญ่ที่ประชาชนเฝ้ารอคอยกันทั้งประเทศ พูดกันจนติดปากไปทั่วแล้ว ไม่พ้นดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้กับประชาชนทุกคนอายุ 16 ปีขึ้นไป

นายกฯเศรษฐาบอกว่า เดือนกุมภาพันธ์นี้ได้แน่นอน หวังไว้ใช้จับจ่ายช่วงสงกรานต์

โครงการนี้เป็นเรื่องใหญ่ คนไทยตั้งแต่อายุ 16 ขึ้นไป จับตาและรอคอย อย่าทำให้ผิดหวังเป็นอันขาด

ทั้งหลายทั้งปวงต้องย้ำว่า การเมืองสำหรับรัฐบาลเละไปแล้ว ดังนั้นทางเศรษฐกิจต้องไม่ให้เละ ต้องทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ชาวบ้านดีขึ้นให้ได้

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image