| ผู้เขียน | ทรงพร ศรีสุวรรณ |
|---|
หลายคนรู้สึกผิดหวัง ที่เรียกร้องและแอบเชียร์อยู่ในใจให้ทหารออกมายึดอำนาจ เพื่อเคลียร์ปัญหาม็อบเต็มถนน และยุติความขัดแย้ง
โดยเฉพาะนักการเมืองบางกลุ่มที่ออกหน้าออกตา พาบ่นกันอุบว่า ไม่น่าเลย
ไม่มีใครฉุกคิดว่า คสช.จะอยู่ยาว โดยคิดกันแค่ว่า ขอให้ทหารล้มกระดานแล้วเริ่มเล่นกันใหม่เท่านั้น
การอยู่ยาวของ คสช.ก็ทำให้คนเบื่อ และทำให้นักการเมืองตกงานนานตามไปด้วย
ทั้งยังผิดหวังที่ส่งเสียงเชียร์ให้ คสช.จัดการปัญหาต่างๆ ให้เด็ดขาด อย่าให้ “เสียของ” เหมือนการรัฐประหารที่ผ่านมา
เมื่อมีเสียงเชียร์กระหึ่ม คสช.ก็จัดให้เต็ม
มีการร่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวกับเลือกตั้ง เป็นกติกาใหม่ที่นักการเมืองบ่นกันอุบอีกเช่นกัน
คสช.และรัฐบาลยังจัดให้มีการปฏิรูปด้านต่างๆ พร้อมกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ขณะนี้ ผ่านมาแล้วกว่า 4 ปี ถ้านับถึงวันเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ คสช.ก็อยู่ยาวประมาณ 5 ปี
และเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า คสช.จะอยู่ยาวอีกต่อไป
โดยที่ผ่านมา มีการเตรียมการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการสืบทอดอำนาจต่อให้ คสช.
ทั้งยังมีการตั้งพรรคการเมือง และมีกลุ่มการเมืองที่ประกาศสนับสนุนให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้ง
ทำให้นักการเมืองพากันบ่นอุบอีกครั้ง
เนื่องจากมีการใช้กลไก อำนาจ เสนอผลตอบแทน ข่มขู่ และวิธีการต่างๆ เพื่อให้ตัวเองและพรรคที่สนับสนุนชนะการเลือกตั้ง
มีขบวนการจัดตั้งที่ไม่ธรรมดา เพื่อให้เข้าสู่อำนาจทางการเมืองอีกครั้ง
ขนาด สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ประกาศไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว ยังต้องยอมตระบัดสัตย์ กลับมาเป็นหนึ่งในแกนนำจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย
อีกคนคือ สุภรณ์ อัตถาวงศ์ เจ้าของฉายา “แรมโบ้อีสาน” อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย และแกนนำ
นปช.ที่ขอถอนคำสาบาน เพื่อเข้าร่วมกับกลุ่ม “สามมิตร”
โดย สุภรณ์ อัตถาวงศ์ สาบานกับ “ย่าโม” ว่า จะเลิกเล่นการเมือง หลังถูกเรียกตัวเข้าค่ายเพื่อปรับทัศนคติ
การดูดอดีต ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ ให้เข้ามาสังกัดพรรคการเมืองที่สนับสนุน “บิ๊กตู่” ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง
เป้าหมายหลักคือ นักการเมืองหน้าเก่า เพราะไม่ต้องเสียเวลาทำฐานเสียงใหม่
ส่วนพื้นที่ไหนหรือเขตไหนดูดไม่ได้ ก็จะส่งผู้สมัครลงสู้
ที่่ผ่านมาได้มีการส่ง “ทีม” ลงไปทำการเมืองให้ว่าที่
ผู้สมัคร ส.ส.ในบางพื้นที่แล้ว
ทำให้หัวคะแนนและผู้สนับสนุนอดีต ส.ส.เก่าขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆ กัน
ล่าสุดก็ขยายไปถึงกลุ่มแกนนำ นปช.ในจังหวัดต่างๆ
ขณะเดียวกันก็เหมือนเปิดทางโล่ง ให้กลุ่มที่ได้รับการจัดตั้งเคลื่อนไหว หรือเดินสายเพื่อหาแนวร่วมสนับสนุน “บิ๊กตู่”
มีการเปิดตัว เปิดหน้า ตั้งโต๊ะพูดคุยให้เห็นกันจะจะ
ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ
แตกต่างกับพรรคการเมืองเก่า หรือพรรคการเมืองใหม่ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับฝ่ายทหาร
พรรคการเมืองเหล่านี้โดนล็อก โดย คสช.ยังไม่ปลดล็อกให้ทำกิจกรรมทางการเมือง
การเคลื่อนไหวจึงต้องหลบๆ ซ่อนๆ และเสี่ยงที่จะถูกกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมาย
ทั้งยังมีการจับจ้องและติดตามตลอด
แต่ไม่รู้ว่า เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งจริง ประชาชนจะเห็นดีเห็นงามกับกระบวนการจัดตั้งหรือไม่
