เดินหน้าชน : บิ๊กตู่‘11ใช่ 8ไม่’

ประเทศกำลังเดินไปสู่เส้นทางประชาธิปไตย แม้ระหว่างทางจะมีอุปสรรคอยู่บ้างมีข่าวลือข่าวปล่อยจนหลายคนกลัวว่าประเทศจะเดินไปไม่ถึงวันที่ 24 มีนาคม กลัวจะติดหล่มก้าวข้ามความขัดแย้งไปไม่พ้น

ผมพยายามมองในแง่ดี ยิ่งเห็น “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เปิดตัวตอบรับคำเชิญพรรคพลังประชารัฐที่เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในนามของพรรค ก็อุ่นใจว่า “บิ๊กตู่” เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการประชาธิปไตยแล้ว

ภายใต้รัฐบาล “บิ๊กตู่” หลายคนยังหาคำตอบไม่เจอว่าจะรักหรือจะเกลียดท่านผู้นำท่านนี้ดี จึงขออนุญาตนำข้อมูลของกลุ่มคนที่รักและกลุ่มที่ไม่ชอบบิ๊กตู่ เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจ

สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุถึง 11 เหตุผลที่ต้องเลือก “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี คือ 1.เป็นผู้ที่นำความสงบกลับคืนสู่ประเทศไทย ในช่วงที่ประเทศเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง 2.มีบุคลิกภาพและลักษณะนิสัยที่เป็นผู้นำสูง ซึ่งหายากและเหมาะสมอย่างยิ่งในการเป็นผู้นำประเทศ 3.กล้าตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ หลายเรื่องที่น้อยคนนักจะกล้าในช่วงเวลาเช่นนั้น 4.เป็นคนทำจริง ทำได้ และทำสำเร็จให้เห็นดังผลงานตลอด 4 ปีกว่าที่ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา

Advertisement

5.อาสาเข้ามาบริหารประเทศอย่างแท้จริง ไม่ได้เป็น “นอมินี” หรือ “ร่างทรง” ของใครทั้งสิ้น 6.สิ่งที่ท่านได้ตัดสินใจเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติที่ผ่านมานั้น แสดงให้เห็นว่าท่านมิได้มีผลประโยชน์ซ่อนเร้น 7.สิ่งที่ผมสัมผัสได้จากการทำงานร่วมกับท่านมาตลอดระยะเวลา 3 ปีนั้นผมรับรู้ได้ว่าท่านรักประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง 8.ถึงแม้ท่านจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีบุคลิกที่เป็นผู้นำ แข็งแกร่ง แต่ในอีกด้านท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่ติดดิน ประชาชนเข้าถึงและพึ่งพาท่านได้

9.เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มองการณ์ไกล ดังเห็นได้จากท่านได้วางนโยบาย Thailand 4.0 หรือยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 10.สร้างรากฐานประชาธิปไตยที่แท้จริงให้กับประเทศไทยในระยะยาว และ 11.หนึ่งในบุคลิกภาพที่โดดเด่นของท่านที่พวกเราทุกคนสัมผัสได้คือ การมีอารมณ์และความสามารถแบบศิลปินในด้านการประพันธ์บทกลอนต่างๆ ท่านเข้าถึงจิตใจของประชาชน เราจะเห็นรอยยิ้มที่อบอุ่น จริงใจและอารมณ์ขันของท่านในทุกครั้งที่ท่านได้พบปะกับพี่น้องประชาชน

ขณะที่ น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ ยก 8 เหตุผลที่ประชาชนไทยไม่ควรเลือก “บิ๊กตู่” คือ 1.เป็นผู้นำเผด็จการ ใช้วิธีการกำจัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน 2.บุคลิกภาพและลักษณะนิสัยจากการชี้หน้าผู้สื่อข่าว ขว้างเปลือกกล้วยใส่ศีรษะผู้สื่อข่าว กล่าวถึงเหยื่อชาวต่างชาติที่ถูกข่มขืนเสียชีวิตว่าเป็นเพราะการแต่งตัวของเหยื่อ การออกกฎการแต่งกายของสตรีในเทศกาลสงกรานต์ จะเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนก้าวร้าว เหยียดเพศ ดูถูกสตรี มีความเป็นเผด็จการสูง เป็นผู้ที่ระงับอารมณ์ตนเองไม่ได้ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในการเป็นผู้นำประเทศ

Advertisement

3.กล้าตัดสินใจในเรื่องที่คนอื่นไม่กล้าทำ เพราะมีกฎหมายนิรโทษกรรมตัวเอง บางการตัดสินใจนำมาซึ่งความเสียหายของประเทศ 4.ผลงานตลอด 4 ปีทำดัชนีชี้วัดประเทศร่วงลงทุกด้าน ทั้งความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ความโปร่งใสทางกระบวนการยุติธรรม ความเป็นประชาธิปไตย คุณภาพการศึกษา คุณภาพอากาศของประเทศ 5.ต้องการสืบทอดและเสพติดอำนาจ ทั้งที่การบริหารประเทศที่ผ่านมาทำให้ประชาชนฐานรากทั้งประเทศลำบากยากแค้นแสนสาหัส

6.เป็นนายกฯที่ประชาชนพึ่งพาไม่ได้ ไม่มีวิสัยทัศน์คิดแก้ไขปัญหา ไม่รับฟังปัญหาจากประชาชน 7.เป็นผู้ที่คับแคบ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง ดังเห็นได้จากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ทำไว้เพื่อกีดกันรัฐบาลใดๆ ที่เข้ามาใหม่เพื่อให้ทำตามความต้องการของ คสช.และคณะ และ 8.ได้สร้างค่านิยมเผด็จการปลูกฝังให้สังคมไทย คือ ไม่สามารถฟังความคิดเห็นที่แตกต่างได้ ก้าวร้าวและระงับอารมณ์ไม่ได้เมื่อได้ยินคำถามที่แสดงความคิดเห็นแตกต่าง

ถือเป็นเหตุผล “11ใช่ 8ไม่” เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาว่าสมควรเลือก “บิ๊กตู่” กลับมาเป็นนายกฯอีกรอบหรือไม่

โกนจา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image