เดินหน้าชน : ข้อห่วงใย

รัฐบาลยกระดับการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ และขอให้ประชาชนมั่นใจในรัฐบาลว่า จะนำพาให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้

มีการจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามด้วยประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกาศเคอร์ฟิว พร้อมออกมาตรการต่างๆ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังมี “สารจากนายกรัฐมนตรี” ยืนยันว่า รัฐบาลยืนยันจะดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด

ทั้งขอให้ความเชื่อมั่นว่า ทุกคนจะฝ่าฟันวิกฤตต่างๆ ไปได้ด้วยดี

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ยังออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ให้ความมั่นใจกับบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงาน ที่เป็นหัวใจสำคัญในการควบคุมการระบาดและรักษาโรค ว่ารัฐบาลจะสนับสนุนและดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งอุปกรณ์ ความปลอดภัย และสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

พร้อมขอให้ทุกคนอดทน ร่วมกันฟันฝ่าวิกฤต รวมทั้งขอขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายและประชาชนทุกคน

ก่อนตบท้ายด้วยวลีเด็ด “ประเทศไทยต้องชนะ”

Advertisement

วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็มีมติเห็นชอบออก พ.ร.ก.3 ฉบับคือ พ.ร.ก.ให้แบงก์ชาติออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ หรือซอฟต์โลน, พ.ร.ก.การให้อำนาจแบงก์ชาติซื้อตราสารหนี้เอกชนที่ครบกำหนดชำระ และ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน

รวมทั้งยังเห็นชอบมาตรการต่างๆ ที่ช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19

แม้รัฐบาลจะยืนยันว่า จะช่วยเหลือให้ครอบคลุมทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ แต่ก็ยังมีข้อห่วงใยจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะนักการเมือง ที่เกรงว่า การช่วยเหลือจะไม่ทั่วถึง เพราะเกิดผลกระทบในวงกว้างต่อทุกภาคส่วน

มาตรการที่รัฐบาลออกมาอาจจะทำให้คนที่เดือดร้อนบางคน หรือบางกลุ่มไม่ได้รับการช่วยเหลือ หรือได้รับเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท

โดย เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อยากให้มีการตรวจสอบกลุ่มคนที่ไม่อยู่ในระบบข้อมูลของทางราชการ เช่น แรงงานรายวัน แรงงานอิสระ คนตกงาน คนเร่ร่อน ฯลฯ เพื่อให้การช่วยเหลือครบถ้วนและเท่าเทียม เพราะบางคนอาจจะไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว

“อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” โฆษกพรรคเพื่อไทย ก็เรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบข้อมูลประชาชนโดยละเอียด โดยเฉพาะประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มข้อมูลของรัฐบาล เช่น ลูกจ้างอิสระ แรงงานรายวัน หรือคนตกสำรวจ เพื่อให้เงินที่จ่ายนั้นถึงมือคนที่เดือดร้อนหนักๆ จริงๆ

ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอว่า รัฐบาลควรช่วยเหลือแรงงานในระบบที่ยังไม่ถูกเลิกจ้างและไม่ได้ว่างงาน แต่มีรายได้ลดลงจากการถูกตัดชั่วโมงทำงาน ลดเงินเดือน และถูกบังคับให้หยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง

วันชัย สอนศิริ ส.ว. ก็ยังมีคำแนะนำว่า อยากให้เงิน 5,000 บาท ถึงมือ ถึงปาก ถึงท้องคนเดือดร้อนจริงๆ พร้อมตั้งคำถามว่า ควรจะมีมาตรการคัดกรองหรือไม่ ในตำบลและชุมชนแต่ละแห่งว่า มีคนที่ควรจะได้รับการช่วยเหลือมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้การช่วยเหลือถึงตัวคนได้ตรงจุด

ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้ ก็เพื่อให้มาตรการของรัฐบาลครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ไม่ให้เข้าทำนอง “คนเดือดร้อนไม่ได้รับ คนรับไม่เดือดร้อน”

ทรงพร ศรีสุวรรณ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image