งาช้าง-ปากสุนัข : โดย โกนจา

หากควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 สัมฤทธิผลงานหนักที่รออยู่ตรงหน้าคือการปลุกชีพจรเศรษฐกิจให้ฟื้นกลับคืนมา

แต่เปิดแฟ้มดูผลงานทีมเศรษฐกิจชุดนี้ที่ทำงานมา 5-6 ปีอยู่ในภาวะลูกผีลูกคน คงต้องลุ้นกันเหนื่อยว่าเราจะหลุดจากวิกฤตครั้งนี้ไปได้หรือไม่

ที่เหนื่อยยิ่งกว่า คือ รอยร้าวทางการเมือง วันนี้หลายพรรคเกิดภาวะฝุ่นตลบโดยมิได้นัดหมาย

พรรคพลังประชารัฐ ความคุกรุ่นในช่วงนี้ก็แค่สงบลงชั่วคราว ทีมสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ 4 กุมารยังหายใจไม่ทั่วท้อง รอเวลาเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ วันที่ 3 ก.ค. หัวโขนกรรมการบริหารพรรคคงถูกถอดออกแน่ๆ

Advertisement

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มีโอกาสกลับมาทวงคืนอำนาจ คิวต่อไป คือ การปรับ ครม. จะกระเพื่อมมากน้อยแค่ไหน ต้องจับตาดูว่าอาการสั่นไหวจะถึงเก้าอี้นายกฯหรือไม่ก็อย่าประมาท

พรรคร่วมรัฐบาลอย่างประชาธิปัตย์ก็ไม่น้อยหน้า ลูกพรรคก่อหวอดล้มอำนาจ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ลงจากหัวหน้าพรรคยกเหตุบริหารพรรคล้มเหลว ตกต่ำ แม้เสียงผู้มากบารมีอย่าง ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะออกมาปราม แต่พรรคนี้เมื่อถึงคราต้องเปิดศึกภายในก็ไม่มีใครยอมใคร พรรคแตกมาแล้วก็หลายครั้ง เลือดไหลทะลักมาก็หลายหน แผลในใจเกิดขึ้นคงยากจะสมานกลับมา รอโอกาสทวงหนี้แค้นกันในเร็วๆ นี้

ส่วนซีกฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย กลุ่มนายเก่า เสี่ยอ้วนŽ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน แยกตัวไปตั้งกลุ่มแคร์ คนวงในรู้ว่า ภูมิธรรม กับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ขบเหลี่ยมงัดข้อกันมาตลอด วันนี้เอกภาพในพรรคไม่เหมือนเดิมแล้ว การแพ้เลือกตั้งซ่อมหลายครั้งที่ผ่านมา และสุดท้ายสนามลำปางที่หักกันจนนาทีสุดท้าย บ่งบอกถึงความตกต่ำได้ดี

Advertisement

ยิ่งมาฟังกระแสข่าวปล่อยการจับขั้วใหม่ 2 พรรคใหญ่พลังประชารัฐŽ จับมือ เพื่อไทยŽ เปิดดีลรัฐบาลผสม 2 พรรคใหญ่เสียงท่วมท้น มาสอดรับ พล.อ.ประวิตรŽ เตรียมนั่งแท่นตำแหน่งใหญ่ในพรรค ส่วนตำแหน่งอื่นที่ใหญ่กว่าก็อย่าได้ปรามาสไป

เพราะชื่อของ สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง จ่อยึดเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก็เคยอยู่ในดูไบ
คอนเนกชั่น แน่นปึ้กกับ นายหญิงŽ จันทร์ส่องหล้า

วันนี้ภาพการเมืองไทยเดินหน้าไปไม่ถึงไหน ไปๆ มาๆ ดูแล้วจะถอยหลังลงคลองเสียด้วยซ้ำ พรรคและนักการเมืองเกาะกลุ่มกันโดยมีผลประโยชน์ส่วนตัวพวกพ้องเป็นตัวตั้ง แต่มองผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นเรื่องรอง

ยิ่งหันไปฟังคำพูดของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ยิ่งน่าสนใจและหดหู่มากขึ้น ที่ออกมาระบุว่า
เพราะการเมืองทำให้คนดีๆ อยู่ไม่ได้Ž

ต้องขอย้อนความไปในวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 โดยมีข้ออ้างว่า ต้องการปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการเมือง หากนับวันนี้เมื่อปี 2557 จนถึงปัจจุบัน มีการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปขึ้นมามากมาย ทั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่มีจำนวน 250 คน มี เทียนฉาย กีระนันทน์ เป็นประธาน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มี ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ เป็นประธาน คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน ยิ่งปฏิรูปก็ยิ่งเลอะเทอะ ยิ่งล้มลุกคลุกคลาน

ข้ออ้างที่ว่าปฏิรูปก่อนเลือกตั้งนั้น 2 สภาปฏิรูปใช้เงินไปกว่า 1.7 พันล้านบาท ตั้งกรรมการปฏิรูป 11 คณะ เบิกเบี้ยประชุมกันกว่า 300 ล้านบาท

คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญชุดของ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ นั่งเป็นประธาน ร่างออกมาแล้วถูกโหวตคว่ำ ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า 85 ล้านบาท

ขณะที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชุดของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน ทางสำนักงบประมาณ จัดสรรงบให้กว่า 106 ล้านบาทจนออกมาเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560

ผลลัพธ์ของการปฏิรูปการเมืองที่ได้ในวันนี้ คือ ระบบการเมืองที่ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า คนดีไม่กล้าเข้ามาทำงานการเมือง

ภาษีของประชาชนเสียไป ส่วนหนึ่งไปใช้ในการปฏิรูปการเมืองกว่าพันล้านบาท แต่กลับได้ระบบการเมืองที่บิดๆ เบี้ยวๆ อย่างนี้

ผมขอใช้คำพูดของ วันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานสภาที่บอกว่า ไม่เชื่อว่าคนที่ไม่มีประชาธิปไตยจะยื่นประชาธิปไตยให้ประชาชน เหมือนสุภาษิตไทยที่ว่า ไม่มีวันที่งาช้าง จะงอกออกจากปากสุนัขŽ

โกนจา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image