| ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
|---|
เดินหน้าชน : ครม.นิวนอร์มอล
บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ส่งสัญญาณชัดเจนถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าเกิดขึ้นได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เมื่อใดก็เมื่อนั้น
ภายหลังรัฐมนตรี กลุ่ม 4 กุมาร ออกมาแถลง ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
สรุปความได้ว่า ภารกิจในพรรคถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว จะขอทำงานในส่วนของรัฐมนตรีต่อไป
ส่วนจะถูกปรับ ครม.หรือไม่เป็นอำนาจของนายกฯ
แน่นอนการปรับ ครม.ถือเป็นวิถีปกติทางการเมืองเมื่อนายกฯ ในฐานะผู้นำสูงสุดของฝ่ายบริหาร
หากเห็นว่า ครม.ที่ปฏิบัติหน้าที่ไปสักระยะเวลาหนึ่ง อาจจะ 6 เดือน หรือ 1 ปี ทำงานไม่ตรงตามประสิทธิภาพที่วางเอาไว้
ย่อมปรับเปลี่ยนหาคนดี มีฝีมือ เข้ามาทำงานแทน แต่การปรับ ครม.ประยุทธ์ 2/2 รอบนี้นั้นไม่ง่าย
เพราะปัญหาที่รออยู่โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งอดีตนายกฯ อดีตรัฐมนตรี นักธุรกิจ นักวิชาการ ต่างฟันธงไปในทิศทางเดียวกันว่า
จะต้องเจอกับ โจทย์ยาก กว่าทุกยุค ทุกสมัย
อีกทั้งวิกฤตเศรษฐกิจในรอบนี้ อาจเรียกได้ว่าระดับ มหาวิกฤตเศรษฐกิจ
ดังคำเตือนและเสียงแนะนำของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ว่า สถานการณ์ในขณะนี้ถือว่าเป็นสถานการณ์พิเศษ
จำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ต้องเร่งขจัดปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองให้หมดว่า ใครจะรับผิดชอบอะไร
เพื่อที่จะได้รู้ทิศทางที่ชัดเจน การปรับ ครม.ต้องเอาคนที่มีความรู้ ความสามารถ มีความสุจริต เข้ามาแล้วสามารถทำงานได้
โจทย์วันนี้ยากกว่าในทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา จำเป็นต้องเอาคนที่มีความพร้อมจริงๆ และสร้างความเชื่อมั่นได้
เช่นเดียวกับ หมอเลี้ยบ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี สมาชิกกลุ่มแคร์และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
สะท้อนมุมมองการปรับ ครม.โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาลว่า
ไม่ได้คาดหวังกับ ครม.เศรษฐกิจที่จะเข้ามาใหม่
สุดท้ายแล้วอนาคตเศรษฐกิจของไทยจะเป็นอย่างไร อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ
เพราะประกาศชัดเจนว่าเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ
ในเรื่องการเตรียมรับมือกับมหาวิกฤตเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้
เป็นเรื่องที่ไม่เหมือนกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งก่อนๆ
ครั้งนี้เป็นวิกฤตเศรษฐกิจที่ผูกพันกับวิกฤตสุขภาพ
ประเด็นสำคัญ คือ ต้องจัดความสมดุลของการจัดการเรื่องโควิด-19 กับการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดี
ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของนายกฯ
ส่วนตัวคิดว่าน่าจะปรับ ครม.ตั้งนานแล้ว เพราะปัญหาเศรษฐกิจหรือแม้แต่ปัญหาอื่นๆ มันหนักมาก
ต้องยอมรับว่า แม้แต่ทีมเศรษฐกิจที่อยู่ในปัจจุบัน ชื่อชั้นทางเศรษฐกิจก็ไม่ธรรมดา
แต่การรับมือเศรษฐกิจในช่วง 2-3 ปี ยังไม่สามารถจะทำได้อย่างที่อยากจะเห็น
ฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงมือเศรษฐกิจที่จะเข้ามา
หากมีชื่อชั้นด้อยกว่าและประสบการณ์น้อยกว่า การมารับผิดชอบเศรษฐกิจในช่วงต่อไปคงจะสำเร็จได้ยากมาก
การปรับ ครม.ครั้งนี้จะเป็นตามที่ บิ๊กตู่ ย้ำกับทุกภาคส่วนว่าต้องปรับบทบาทหน้าที่ให้เป็น
นิว นอร์มอล ได้หรือไม่
หากไม่เป็นดังคำพูด รัฐนาวา พล.อ.ประยุทธ์ คงถึงเวลานับถอยหลัง
