เดินหน้าชน : ‘แกตเชื่อมโยง’บิ๊กตู่

หมูราคาแพงก็ให้กินไก่แทน ขอให้ทุกบ้านเลี้ยงไก่ 2 ตัวเพื่อกินไข่

ผักชีแพงก็ให้ทหารหันมาปลูกเอง อาหารทะเลแพงก็ไม่ต้องกิน

มะนาวแพงให้ปลูกเอง หรือใช้มะขามเปียกแทน

ค่าทางด่วนขึ้นราคา บอกให้คนรวยใช้ทางด่วน ส่วนคนจนวิ่งถนนข้างล่าง

Advertisement

รถบรรทุกประท้วงหยุดวิ่ง ก็ให้รถทหารมาบรรทุกแทน

ปัญหาน้ำมันราคาแพงก็ขอให้คนใช้รถเมื่อจำเป็น

หากทั้งหมดนี้เป็นข้อสอบ “แกตเชื่อมโยง” ซึ่งคือข้อสอบที่ใช้วัดทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์ การเขียนเชิงวิเคราะห์ การคิดเชิงวิเคราะห์ และการแก้ปัญหา

Advertisement

เด็กนักเรียนในยุคนี้จะมีคำตอบแบบเชื่อมโยงถึงคนที่คิดและเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาเช่นนี้ว่า คือ คนประเภทใดและควรเกิดอยู่ในยุคไหนกันแน่

ผมไม่ได้ดูแคลนคนแก่ที่ตกยุค หรือคนแก่ประเภท “แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน”

เพราะถ้าลองไปฟังคำให้สัมภาษณ์บางช่วงบางตอนล่าสุดของอดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ก็จะรู้ว่าคนที่มีอายุ 90 ปี ก็ไม่ใช่ว่าระบบคิดจะล้าสมัย ตกยุค หรือตามโลกไม่ทัน

อดีตนายกฯอานันท์ เสนอแนะว่า “รัฐบาลต้องมองถึงอนาคตด้วย คนแก่อย่างผม ต้องรู้ว่า เวลาของเรามันหมดไปแล้ว ความจริงแล้ว คนอย่างรุ่นของผม มันต้องอยู่ข้างนอกเวที ซึ่งเราอาจจะออกความเห็นนอกเวทีได้ แต่คนที่จะบริหารประเทศต้องเป็นคนรุ่นใหม่แล้ว ส่วนคนรุ่นใหม่จะมีอายุเท่าไหร่นั้นก็ตาม แต่จะต้องเป็นคนที่มีความคิดใหม่ๆ จะนำความคิดเก่าๆ มาใช้ไม่ได้แล้ว”

ท่านอดีตนายกฯยังสะท้อนมุมมองและความต่างของคนในเจเนอเรชั่นต่างๆ ของครอบครัว “ปันยารชุน” ไว้อย่างน่าฟังว่า “อย่างผมมีทั้งลูกมีทั้งหลานและมีทั้งเหลน ลูกของเราก็สอนอย่างหนึ่ง คือ มีความเห็นอย่างหนึ่ง หลานอีกอย่างหนึ่ง ส่วนเหลนผม 3 ขวบ สามารถพูดโต้กับคุณทวดได้แล้ว เขามีวิธีคิดของเขาโอเคมาก เนื่องจากเขาเป็นเหลนเราจะทำอะไร อาจจะเป็นสิ่งที่น่ารักน่าดูตลอดไป แต่ถ้าเราบอกว่า เด็กคนนี้ทำอะไรขวาง ไปขวางเขาก็ไม่ได้”

คำพูดหนึ่งที่สะท้อนยุคสมัยว่า “เราต้องหาทางประนีประนอมกัน คือ ต้องคุยกัน แต่ถ้าจะมาตั้งหน้าตั้งตาไม่คุย หรือพูดกันไม่รู้เรื่อง ไม่คุยจะบอกว่าเด็กพวกนี้จะรู้ดีได้อย่างไร มันไม่เคยปกครองประเทศมา จะพูดอย่างนี้ไม่ได้ หรือถ้าเด็กบอกว่าผู้ใหญ่พวกนี้พูดกันไม่รู้เรื่องเลย ทำอะไรก็ไม่เป็น ก็ไม่ได้อีก ทุกคนมีทั้งส่วนดีและส่วนไม่ดี ก็ต้องคุยกัน ซึ่งผมเคยพูดว่าผู้ใหญ่ต้องเห็นใจเด็กมากกว่า หรือคุยกันไม่ใช่กันแบบ 50-50 หลายสิ่งหลายอย่างผู้ใหญ่ต้องให้เด็ก 60 หรือ 70 เพราะคนที่มีอำนาจ คนที่มีอายุอยู่ในฐานะที่จะแสดงความเห็นอกเห็นใจได้ง่ายกว่า แต่คนที่ถูกตัดสิทธิต่างๆ มาโดยตลอด คนที่เกิดมาในสังคมที่มีความเดือดร้อนเอาเปรียบซึ่งกันและกัน เขาเป็นผู้เสียมาตลอดชีวิต”

วันนี้ นักการเมืองรุ่นใหม่อย่าง “พชร นริพทะพันธุ์” กรรมการบริหาร และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ได้ตอบคำถามในแกตเชื่อมโยงนี้ออกมาแล้วว่า “กรอบคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นคนล้าสมัยและตกยุคไปแล้ว ไม่เหมาะสมที่จะบริหารประเทศในภาวะที่โลกกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว”

“จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้รับฟังนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาแนะนำว่า ถึงเวลาที่ต้องให้คนรุ่นใหม่ ไม่ว่าอายุเท่าไรก็ตาม ต้องมีความคิดใหม่ๆ มาบริหารประเทศแล้ว คนแก่ที่มีหลักคิดล้าหลังตกยุคแบบที่พิสูจน์แล้วจากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์เอง ต้องออกไปได้แล้ว มิเช่นนั้นก็จะยังสำคัญตนผิดคิดว่า รักชาติ ตั้งใจดี แต่ความสามารถไม่ถึง หลักคิดไม่ได้ ซึ่งกลับจะยิ่งทำให้ประเทศเสื่อมถอย ประชาชนยิ่งลำบาก เหมือนที่ผ่านมา 7 ปีเป็นเครื่องพิสูจน์แล้ว”

คนรุ่นผมก็เช่นกัน ไม่อยากเห็นยุคสมัยมาพรากความฝันของคนรุ่นใหม่ไปเลย…

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image