ศึกชิงผู้ว่าฯกทม.-ว่าที่นายกฯ

มหกรรมขับเคี่ยวเริ่มขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับศึกชิงเก้าอี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

31 มีนาคมนี้ เปิดรับสมัครวันแรก เมื่อผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ได้หมายเลข ทุกคนและทีมงานก็จะเริ่มรณรงค์หาเสียงกันเต็มที่

และไปชี้ขาดด้วยการวัดคะแนนเสียงในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม

สำหรับผู้ที่จะขึ้นสังเวียนกรำศึกเลือกตั้งท้องถิ่นระดับเมืองหลวง ได้แก่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์, สกลที ภัทธิยกุล, วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง, รสนา โตสิตระกูล, น.ต.ศิธา ทิวารี

Advertisement

ด้วยเหตุที่เป็นตำแหน่งสำคัญ ทุกคนต้องพร้อมเปิดตัว “แสดงออก” ให้เห็น “ศักยภาพ” และ “ความสามารถ” ผ่านการสื่อสารต่อสาธารณะ

ไม่ว่าจะเป็นการแถลงนโยบาย การประชันวิสัยทัศน์ การปรากฏตัวในที่ต่างๆ เพื่อเข้าให้ถึงผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง

รวมทั้งการประกาศตัวผู้จะเข้ามาเป็นรองผู้ว่าฯกทม. และทีมที่ปรึกษา

Advertisement

ใครไม่พร้อมด้วยประการทั้งปวง อาทิ กลยุทธ์การหาเสียง ไร้ภาวะผู้นำ ไม่มีกึ๋นเพียงพอ พูดจาปราศรัยหาเสียงไม่น่าฟัง หรือฟังแล้วไม่รู้เรื่อง ใครมีบุคลิกไม่เหมาะสม ไม่ใช่นักบริหารมืออาชีพ แสดงวิสัยทัศน์ไม่โดดเด่น สู้เขาไม่ได้ ขาดความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่น…ก็ต้องถอยไป

หรือจะยอมตายคาเวที ต่อหน้าสื่อในศึก “ดีเบต”

การจะได้ “คะแนน” ถล่มทลายเข้าป้ายไปนั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.มิใช่ “เรื่องง่าย” หรือ “เรื่องบังเอิญ” ?

ที่สำคัญคือการถูกตรวจสอบประวัติ “เบื้องหน้า-เบื้องหลัง” จาก “คู่แข่ง” และจาก “สังคม”!

จะมาโอดครวญไม่ได้!?

การรณรงค์หาเสียงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ จะเป็น “ต้นแบบ” ให้กับคนที่จะถูกเสนอตัวจาก “พรรคการเมือง” ให้เป็น “นายกรัฐมนตรี” ในอีกไม่ช้าไม่นานว่า

ต้องพร้อมจะมาทำเป็นเล่นๆ ไม่ได้!?

ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือใครก็ตามที่อยากจะเป็นนายกฯ ไม่ควรหลบอยู่ “หลังฉาก” แบบ “กล้าๆ กลัวๆ” พร้อมจะถูกตรวจสอบ โดนตั้งคำถาม โดนวิพากษ์วิจารณ์

การเป็นผู้นำประเทศ เป็น “งานอาสา” เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาบ้านเมือง

ไม่มีใครเอา “ปืน” ไปบังคับให้ต้องมาลงสมัครเสียเมื่อไหร่ ?

อีกอย่างหนึ่ง ในอดีตที่ผ่านมาเคยพูดจาหรือทำอะไรไว้ อาจหนีไม่พ้นที่จะถูก “ตั้งคำถาม” และ “โดนคิดบัญชี” เอาตอนนี้

เพื่อเป็น “หลักประกัน” ว่า สิ่งที่ผู้จะเป็นนายกฯก็ดี แกนนำของพรรคการเมืองก็ดี เมื่อพูดอะไรไป จะไป “เบี้ยว”
ในวันหลังเมื่อเข้าดำรงตำแหน่งแล้วไม่ได้

ประเภทเสนอนโยบายจะขึ้น “ค่าแรง” ผู้ใช้แรงงาน “เงินเดือน” ปริญญาตรีเท่าโน้นเท่านี้

แต่กลับทำไม่ได้!

ศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯเมืองหลวงครั้งนี้ “น่าสนใจ” และ “น่าตื่นเต้น-เร้าใจ” อย่างยิ่ง!

เป็นการ “เดิมพัน” ครั้งสำคัญที่มีผลกระทบต่อชาวกรุงเทพฯหลังจากว่างเว้นการเลือกตั้งมานานหลายปี ?

หลังโดน “คณะรัฐประหาร” ฉวยโอกาสเข้ามา “ยึดเก้าอี้” เอาไปให้พวกพ้อง

และจะเกิด “แรงสะเทือน” ไปถึงการเลือกตั้ง “สนามใหญ่” เพื่อช่วงชิงตำแหน่ง “นายกฯ”!

ใครไม่พร้อม ใครไม่กล้า อย่าโผล่หน้ามาให้พรรค การเมืองเสนอชื่อเป็นนายกฯ!?!

ศุกร์ มังกร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image