| ผู้เขียน | เสกสรรค์ กิตติทวีสิน |
|---|
รัฐธรรมนูญ 2560 ในมาตรา 105 (1) ระบุว่า เมื่อตําแหน่ง ส.ส.ว่างลง ไม่นับกรณีสภาผู้แทนราษฎร ครบเทอม หรือยุบสภา กรณีเป็น ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้ง ต้องจัดเลือกตั้งซ่อม เว้นแต่อายุของสภาจะเหลือไม่ถึง 180 วัน ทำให้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ได้เริ่มนับเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งใหญ่
ก่อนหน้านั้น 3 วัน กกต.กางแผนที่เลือกตั้ง หากสภาอยู่ครบวาระ จะได้หย่อนบัตรในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจยุบสภาในระหว่างนี้ ก็ต้องกำหนดวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ซึ่งภายใน 5 วันนับแต่วันมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา กกต.จะประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป
เมื่อกล่าวถึง “พรรคภูมิใจไทย” ต้องเร่งปั๊มใบสมัครมากกว่าใคร กว่า 30 ส.ส.ต่างค่าย บินไปขอฝากเนื้อฝากตัวที่บุรีรัมย์ ในงานวันเกิด เนวิน ชิดชอบ อายุครบ 64 ปี ช่วง 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ใครไปก่อนก็เหมือนไปจองที่ ครูใหญ่เนวินยังตวัดแส้เสียงดัง “ภูมิใจไทยต้องได้อย่างน้อย 120 ส.ส.”
“อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคก็ยืนยันว่า “เราไม่ได้ล้อเล่น” และยังพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ “พรรคเพื่อไทย” เปิดเกมรุกแลนด์สไลด์ เล่นใหญ่ตลอด มุ่งกวาดอย่างน้อย 250 ส.ส. กินรวบเป็นรัฐบาลพรรคเดียว
ส่วน “พรรคพลังประชารัฐ” ประชุมกันเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2565 น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรค แถลงหลังประชุม อ้าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลั่นในที่ประชุมว่าเลือกตั้งข้างหน้าต้องได้ไม่ต่ำกว่า 150 ส.ส.
ในวันนั้นหรือ 9 เดือนที่แล้ว พรรคสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ แต่ ณ วันนี้เสียงเริ่มแตก มีแกนนำพร้อมหนุน พล.อ.ประวิตร แทน
ข้ามมาฝั่ง “พรรคประชาธิปัตย์” นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งของค่ายพระแม่ธรณีฯ พูดเมื่อ 2 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า มั่นใจได้ ส.ส.เข้าสภา 70-80 คน
“พรรคก้าวไกล” ก็ปักธงไว้ เมื่อ 7 สิงหาคม 2565 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค เปิดแคมเปญ “ก้าวไกล NEXT” ตั้งยุทธศาสตร์เพื่อเป็นรัฐบาล มีเป้าหมายขอชนะ ส.ส.เขต 100 คน
สำหรับทั้ง 5 พรรคการเมือง เมื่อครั้งการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 (ก้าวไกลยังเป็นพรรคอนาคตใหม่) รัฐธรรมนูญกำหนดให้มี ส.ส.เขต 350 คน และบัญชีรายชื่อ 150 คน ต่างได้จำนวน ส.ส.ดังนี้
1.พรรคเพื่อไทย ส.ส.เขต 136 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 0 รวม 136 คน, 2.พรรคพลังประชารัฐ ส.ส.เขต 97 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 19 คน รวม 116 คน 3.พรรคอนาคตใหม่ ส.ส.เขต 31 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 50 คน รวม 81 คน, 4.พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.เขต 33 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 20 คน รวม 53 คน และ 5.พรรคภูมิใจไทย ส.ส.เขต 39 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 12 คน รวม 51 คน
ต่อมา เกิดการกระเพื่อม ส.ส.ในแต่ละพรรค ด้วยเหตุต่างๆ นานา ทำให้ เมื่อ 8 เมษายน 2565 วิกิพีเดียยืนยันจำนวนตัวเลข ส.ส.ใหม่ ดังนี้
1.พรรคเพื่อไทย 133 คน 2.พรรคพลังประชารัฐ 100 คน 3.พรรคภูมิใจไทย 65 คน และ 4.พรรคก้าวไกล กับ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคละ 51 คน จะเห็นว่าภูมิใจไทยได้ ส.ส.เพิ่มอีก 14 คน ส่วนก้าวไกลหายไป 30 คน
ส่วนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้า รัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขใหม่ แบ่งสัดสวน ส.ส.เขตเป็น 400 คน และบัญชีรายชื่อ 100 คน ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ด้วยเงื่อนไขใหม่ ทำให้แต่ละพรรคได้ตั้งยอด ส.ส.เข้าข้างตัวเองให้มากที่สุด
สรุปได้ว่า ทั้ง 5 พรรคการเมืองประเมินเป้าหมายตัวเอง ส.ส. ดังนี้ เพื่อไทย 250 เสียง พลังประชารัฐ 150 เสียง ภูมิใจไทย 120 เสียง ก้าวไกล 100 เสียง และประชาธิปัตย์ 80 เสียง รวมทั้งสิ้น 700 เสียง จากที่มี ส.ส.ในสภาได้ 500 คน โดยยังไม่ได้นับตัวเลขของพรรคอื่นๆ อีก
ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต้องฟังนโยบายหาเสียงแต่ละพรรคให้ชัดแจ้ง จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ดีที่สุดให้ย้อนกลับไปดูตอนหาเสียงเมื่อปี 2562 แล้วจะรู้ว่าใครพูดอะไรไว้ ทำได้แค่ไหน หรือพูดแล้วลืม
