| ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
|---|
กระแสข่าวย้ายพรรค ย้ายขั้ว การเปิดตัวจัดทัพใหม่ หรือข่าวการเตรียมควบรวมบางพรรค กลายเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สำคัญ คือ สัญญาณการเตรียมเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง โดยปฏิทินการเมืองสิ้นสุดรัฐบาล “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในวันที่ 23 มี.ค.66 และวางเข้าคูหากาบัตรไว้ราว 7 พ.ค.66 โดยมีข้อแม้ว่าไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง หรือทหารตบเท้ายึดอำนาจอีกครั้ง !!!
สำหรับแคนดิเดตของแต่ละพรรคนั้น บางพรรคเดินหน้าชูทางเลือกให้ประชาชนตัดสินใจแล้ว บางพรรคก็ยังลังเลว่าเอาไงแน่ มีพรรคไหนบ้าง อาทิ
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หาก “ลุงตู่” เดินหน้าต่อก็จะเป็นนายกฯได้แค่ครึ่งเทอม จึงจำเป็นต้องส่งชื่อ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร.เป็นคู่มัดรวม คนละ 2 ปี แต่ที่น่าลุ้นยิ่งกว่าก่อนสิ้นอายุขัย “รบ.ลุงตู่” พรรค พปชร.ยังคงสภาพแข็งโป๊กเหมือน 4 ปีที่แล้วหรือไม่ ท่ามกลางข่าวลือแพแตก กลุ่ม ก๊วน มุ้งต่างๆ พร้อมตีจาก
ขณะที่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ถึงแม้จะยังไม่มีการแถลงเป็นทางการ แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีข่าวว่า ชื่อเบอร์หนึ่ง คือ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ส่วนอีกชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรค หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และในฐานะลูกสาว “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
แกนนำพรรค พท.ยกเหตุผลในการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ เบื้องต้น 2 ชื่อ เนื่องจากเห็นว่า “เศรษฐา” เป็นผู้มีความเหมาะสมเป็นนายกฯ ในห้วงที่ต้องมีการฟื้นฟูประเทศจากปัญหาโควิดและวิกฤตเศรษฐกิจ ดังนั้น พรรค พท.คงจะส่ง 2 ชื่อนี้แน่ๆ เพียงแต่รอจังหวะ และเดินไปตามกติการะบบพรรคการเมือง
พรรคภูมิใจไทย (ภท.) วาง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ หัวหน้าพรรค ภท.ท้าชิงแคนดิเดตนายกฯ มีลุ้นในโจทย์ที่จับขั้วเดิมหาก “ลุงตู่-ลุงป้อม” เป็นไม่ได้หรืออุบัติเหตุทางการเมือง! ส่วน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะเป็น “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค ปชป. แต่โอกาสค่อนข้างน้อยนิด หากยังอยู่ขั้ว รบ.เดิม ส่วน พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จะส่งชื่อ “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก.เข้าประกวด ด้วยความหวังกระแสพรรคยังไม่ตก ยึดหัวใจคนรุ่นใหม่
พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) แกนนำและสมาชิกสนับสนุน “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ประธานพรรค สอท. ขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯ ชูจุดแข็ง ผู้นำในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ขณะที่ พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) สมาชิกดัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค ทสท. ชิงนายกฯหญิงคนที่ 2 แต่ทั้ง “สอท.-ทสท.” เมื่อมีข่าวจับมือรวมพรรคกัน หากเกิดขึ้นจริงก็ต้องเคลียร์กันว่าจะชูใครกันแน่
ล่าสุด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ได้มีการจัดทัพใหม่ดัน “กรณ์ จาติกวณิช” นั่งหัวหน้าพรรค โดยมี “เทวัญ ลิปตพัลลภ” เป็นเลขาธิการพรรค และมี “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” เป็นประธานพรรค พร้อมส่ง “กรณ์” เข้าประกวดแคนดิเดตนายกฯของพรรค เป็นต้น
หากดูผลสำรวจเรื่องคนที่เหมาะสมเป็นนายกฯไตรมาส 3 เมื่อเดือน ก.ย. “นิด้าโพล” เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 3/2565” เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 24.16 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 21.60 “อุ๊งอิ๊ง” อันดับ 3 ร้อยละ 10.56 “พิธา” อันดับ 4 ร้อยละ 10.12 “ลุงตู่” และอันดับ 5 ร้อยละ 9.12 “คุณหญิงสุดารัตน์”
อย่างไรก็ตาม อำนาจการเลือกคนที่จะมาบริหารประเทศกลับมาอยู่ในมือประชาชนอีกครั้ง มีเวลาราวๆ 6 เดือนก่อนวันกาบัตร ประชาชนยังมีเวลาตัดสินใจว่าจะไว้วางใจพรรคใดและส่งผลให้มาเป็นนายกฯได้หรือไม่ นั่นคืออนาคตประเทศไทยอีก 4 ปี
