บทเรียน-รธน.2566

ผมไม่อยากจะคาดหวังอะไรกับการมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.มาจัดทำรัฐธรรมนูญ (รธน.) ฉบับใหม่เพื่อใช้เป็นกฎหมายสูงสุดแทนฉบับปัจจุบัน

ในเมื่อตลอดระยะเวลา 5 ปีกว่านับแต่ถูกบังคับให้ใช้ รธน. 2560 หาความจริงใจจากพรรคร่วมรัฐบาล วุฒิสภาและคณะรัฐมนตรีไม่ได้เลย

เยาวชนคนหนุ่มสาวและประชาชนวงการต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหว รณรงค์ให้มีการแก้ไข รธน.ให้เป็นประชาธิปไตย โดยเฉพาะการแก้ รธน.มาตรา 256 ด้วยรูปแบบต่างๆ

แต่ภาคส่วนเหล่านี้ ตลอดทั้งองคาพยพแห่งการสืบทอดอำนาจ คสช.ก็พยายามขัดขวางอย่างสุดกำลัง

Advertisement

ประหนึ่งว่า “รธน.ข้า…มวลประชาอย่าแตะ”!?

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติด้วยเสียงส่วนใหญ่ให้ประชาชนออกเสียงประชามติต่อการจัดทำ รธน.ใหม่ ซึ่งจะส่งมตินี้ไปยังคณะรัฐมนตรี

น่าประหลาดใจ ส.ส.มี 500 คน ลงมติเห็นชอบแค่ 324 เสียง หายไปไหนเกือบ 200 คน

Advertisement

ที่อนาถใจก็คือ การลงมติครั้งนี้ มีงดออกเสียงและไม่ออกเสียงด้วย

ทำไมท่านผู้ทรงเกียรติตัดสินใจไม่ถูกหรือว่า อะไร “ดี-เลว” กว่ากันระหว่างการส่งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการเพื่อออกเสียงประชามติถามความเห็นประชาชนว่าควรจะให้มี ส.ส.ร.มาจัดทำ รธน.หรือไม่?

อย่าลืมว่า รธน.เป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวด!?

โดยเฉพาะ รธน.ที่เป็นประชาธิปไตย ประชาชนมีส่วนร่วมและมีความเป็นเจ้าของ รธน.

ตามขั้นตอน วุฒิสภาต้องประชุมเพื่อพิจารณาว่า จะมีมติไปในทางเดียวกันกับสภาผู้แทนฯหรือไม่?

ถ้าวุฒิสภาเสียงส่วนใหญ่ลงมติ “คว่ำ” ไม่ให้ส่งเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี

ก็เป็นอันจบเห่!?

เท่าที่เราๆ ท่านๆ ติดตามบทบาทวุฒิสภาชุดนี้มานับแต่ก่อกำเนิด “เป็นตัว-เป็นตน” ตั้งแต่ 11 พฤษภาคม 2562 จนถึงปัจจุบัน เกือบ 3 ปีครึ่ง ไม่เห็นมีเรื่องใดที่จะแสดงถึงการ “ควบคุม-ตรวจสอบ” รัฐบาลอย่างจริงๆ จังๆ ตามอำนาจหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ

หลงลืมไปหรือเปล่าว่า ส.ว.เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย!

สิ่งที่ปรากฏ มีแต่ “ปกป้อง-คุ้มครอง” พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา

บุญคุณ-ตอบแทนประยุทธ์ที่แต่งตั้ง ส.ว.เมื่อไหร่ “จะหมด-จะสิ้น” เสียที?!

การแก้ไข รธน.ให้มี ส.ส.ร.มาจัดทำ รธน.ฉบับใหม่ก็ถูก “สกัดกั้น-ขัดขวาง” โดยไม่รู้สึกละอายหรือเกรงใจประชาชนบ้างเลย

สมแล้วที่มีกระแสเสียงจากหลายฝ่ายต้องการ “ปิดสวิตช์ ส.ว.”!

แต่ “เจ็บปวด” ที่สุดก็ตรงที่ “พรรคร่วมรัฐบาล” ไม่มีพรรคไหนกระตือรือร้นที่จะให้มี ส.ส.ร.

คอยดูเถอะ พอถึงฤดูหาเสียงเลือกตั้ง พรรคร่วมรัฐบาลจะดาหน้ากันสลอนว่า สนับสนุนให้มี ส.ส.ร.?!

พี่น้องเอ้ย…ถึงตอนนั้นก็อย่าไปเชื่อเพราะจะเจ็บกระดองใจซ้ำซาก!

ใช่ว่า “ตีตนไปก่อนไข้” เพราะโบราณว่าเป็นสิ่งไม่ดี เหตุการณ์ข้างหน้าอาจไม่เป็นไปตามที่วิตกกังวลหรือหวาดกลัวก็ได้

แต่จาก “บทเรียน” ที่ผ่านมาเราเคยหวังอะไรได้บ้างล่ะ!?!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image