(ล่ม)ซักฟอกรัฐบาล

(ล่ม)ซักฟอกรัฐบาล

(ล่ม)ซักฟอกรัฐบาล

28 กุมภาพันธ์นี้ เป็นวันปิดสมัยประชุมสภา จากวันนี้ไปเหลืออีกเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น

จากนั้น 1 มีนาคมไปถึงวันที่ 23 ก็ครบเทอม 4 ปีของสภา

ช่วงปลายของสภาที่เริ่มนับถอยหลัง ส.ส.ไม่มีแก่จิต-แก่ใจที่จะเข้าประชุมสภา

Advertisement

การประชุมพรรค ประชุมกลุ่มและการอยู่ในพื้นที่เพื่อวางแผนการเลือกตั้ง หาพวกพ้องมาเป็นหัวคะแนน การมีเงินใช้ในการเลือกตั้ง เป็นเรื่องสำคัญกว่า!

เมื่อรูปการณ์เป็นดังนี้ ทำให้การเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามปัญหาและเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีตามญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้านตามมาตรา 152 ที่นัดประชุม 15-16 กุมภาพันธ์ มีความไม่แน่นอน

ว่าจะได้อภิปรายกันหรือไม่?!

Advertisement

แม้การอภิปรายของ ส.ส.ฝ่ายค้านจะไม่มีการลงมติเหมือนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

แต่รัฐบาลที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี หรือแม้แต่รัฐมนตรีจากพรรคการเมืองต่างๆ ก็ไม่ชอบและไม่ต้องการได้ยินการ “ซักฟอก”!

หรือภาษาชาวบ้านก็คือ “ด่า”?!

การซักฟอกการบริหารราชการแผ่นดินโดยพรรคร่วมรัฐบาล ภายใต้ยุทธการ “กระชากหน้ากากคนดี” อาจเป็นได้แค่การเงื้อง่าเท่านั้น ไม่สามารถบรรเลงเพลงดาบเพื่อฟาดฟันให้จบกระบวนท่าตามที่ประกาศไว้

เพราะเพียงแค่มี ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเสนอญัตติให้นับองค์ประชุม

หากนับแล้วมี ส.ส.อยู่ในห้องไม่ถึงครึ่งหนึ่งก็ต้องปิดประชุม แยกย้ายกันกลับ

หน้ากากคนดีก็จะยังปิดบังใบหน้ารัฐบาลที่แท้จริงต่อไป

ปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลที่บกพร่อง-ล้มเหลวในทุกด้าน

การทุจริตในวงราชการทั้งพลเรือน ตำรวจ หรือแม้แต่ทหารก็จะไม่ได้ถูกนำมาพูดกัน

ประชาชนก็จะไม่ได้ฟังทั้งการอภิปรายของฝ่ายค้านและการตอบชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์และบรรดารัฐมนตรีที่ถูกซักฟอก

การทำให้ “สภาล่ม” ไม่ได้เป็นเรื่องยากเย็น เพียงแค่ ส.ส.ไม่มาประชุม หรือมาประชุมก็ไม่เข้าห้องประชุมเพื่อเสียบบัตรแสดงตน

ซึ่งได้ทำให้เห็นมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งกี่หน

ฟากฝั่ง ส.ส.รัฐบาลที่หนุน “ลุงตู่” อาจคิด “บ้องตื้น” ว่า ถ้าศึกซักฟอกไม่เกิดขึ้น ลุงตู่ก็จะรอดพ้นการถูก “รุมสกรัม-ชำแหละ” กลางสภาตอกย้ำซ้ำเติมบาดแผลให้เจ็บร้าวลึก

กระทบต่อความนิยมและสะเทือนถึงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั่วไปในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า

รวมทั้ง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์อาจคิดในลักษณะนี้

ความจริง ถ้าคิดให้ลึกและมองการณ์ไกล ควรสนับสนุนให้การซักฟอกดำเนินไปได้

ไม่ต้องแกล้งทำให้สภาล่มโดยเจตนา เพราะเป็นโอกาสที่รัฐบาลจะได้ชี้แจงผลงานที่ได้ทำมาตลอด 4 ปี

จะต้องไม่ “ขลาดกลัว” ในเมื่อการเมืองในระบอบประชาธิปไตย รัฐสภาไทยก็เป็นเช่นนี้
4 ปีที่ผ่านมาก็ผ่านการอภิปรายทั้งลงมติไม่ไว้วางใจ และไม่ต้องลงมติมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
ไม่เห็นมีใครล้มหายตายจากไปสักคน

ตรงกันข้าม หาก “เล่นเกม” ทำให้สภาล่มจะกลายเป็นข้อครหารัฐบาลผสมประยุทธ์ไปตลอดว่า “หนีศึกซักฟอก”?!

มีดแห่งข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านก็จะปักกลางหลังให้เกิดข้อแคลงใจประชาชนไม่มีที่สิ้นสุด

ผลกระทบตามมาอีกอย่างหนึ่งก็คือ หากสภาล่มเกิดขึ้นครั้งนี้ ก็อย่าหวังเลยว่า การประชุมสภาจะมีต่อไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์

สภาผู้แทนฯก็ไม่ควรจะต้องอยู่ไปถึงวันที่ 23 มีนาคม เพราะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์!?

พล.อ.ประยุทธ์จึงต้องคิดให้ดีและอย่าตัดสินใจให้ผิด-ให้พลาด!?!

เทวินทร์ นาคปานเสือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image