เดินหน้าชน : ซาอุดรถึงเกาหลี

เดินหน้าชน : ซาอุดรถึงเกาหลี

“เขียนป้ายไปปักไว้ บอกคนทั้งหลายว่าอยากขายที่นา นำทรัพย์สินเงินตรา จากขายที่นาตีตั๋วเครื่องบิน จะไปซาอุ บอกเมียและลูกน้อย คอยพี่หน่อยพ่อหน่อยเถิดหนา อีกไม่นานกลับมาเยี่ยงราชาเงินทองล้นกาย จะมีโทรทัศน์ วิทยุ สเตอริโอ บ้านตึกหลังโตโต โอ้ฮะโอ นั่งกินนอนกิน”

เนื้อเพลงซาอุดรบางตอนของวงคาราบาวที่ผมฟังตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่น

เพลงนี้ผ่านมา 20-30 ปี แต่ประเทศนี้ก็ยังอยู่ในวังวนที่คนยากจน ต้องอาศัยแรงกาย ละทิ้งครอบครัว กลายเป็นนักขุดทองขายแรงงาน

Advertisement

ล่าสุด ข่าวการเสียชีวิตของ “บุญชู ประวะเสนัง” แรงงานไทย ที่ลักลอบเข้าไปทำงานในเกาหลีใต้มาเป็นเวลานับสิบปี เสียชีวิตโดยพบร่างบนเนินเขาหลังฟาร์มหมู ซึ่งนายจ้างถูกกล่าวหาว่าอำพรางศพ สร้างความสะเทือนใจให้กับคนไทยที่ได้รับข่าวสาร

ผมนั่งอ่านรายงานจากบีบีซีไทย เรื่องแรงงานผีน้อย มีหลายอย่างน่าสนใจ ข้อมูลจากสถานทูตไทยในเกาหลีใต้ พบว่า ตั้งแต่ปี 2559 แรงงานลักลอบเข้าผิดกฎหมายชาวไทยในเกาหลีใต้ หรือที่เรียกกันว่า “ผีน้อย” เสียชีวิตหลายร้อยรายในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ส่วนมากเป็นแรงงานที่ไม่มีวีซ่าหรืออยู่อย่างผิดกฎหมาย พบสาเหตุเสียชีวิตไม่ชัดเจนมากเท่ากับการเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย

จากสถิติการเสียชีวิตของคนไทยในเกาหลีใต้ ระหว่างปี 2559 ถึงเดือน ก.ย.2565 จากฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล พบว่า มีแรงงานไทยเสียชีวิตจำนวน 695 ราย เพิ่มขึ้นจากสิ้นสุดปี 2563 ถึง 240 ราย หรือราว 34%

Advertisement

คนไทยที่เสียชีวิต 695 ราย เป็นการเสียชีวิตด้วยสาเหตุไม่ชัดเจน 264 ราย หรือคิดเป็นกว่า 37% ของการเสียชีวิตทั้งหมด นอกเหนือจากนั้นเป็นการเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย 270 ราย อุบัติเหตุ 81 ราย และสาเหตุอื่นๆ

ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็นแรงงานที่ไม่มีวีซ่ากว่า 86% หรือ 602 ราย

ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ระบุว่า กรณีที่เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ส่วนมากเป็นการพบศพคนไทยเสียชีวิตภายในห้องพักโดยการใหลตายและหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งอาจมาจากการทำงานหนักและพักผ่อนน้อย

เหตุผลหลักที่เสี่ยงชีวิตก็เพราะรายได้ที่สูงกว่าเมืองไทยหลายเท่าตัว ยังคงดึงดูดให้คนไทยพาตัวเองไปเสี่ยงลักลอบเข้าไปเป็นแรงงานผิดกฎหมายในเกาหลีใต้

สภาพความเป็นอยู่ของ “บุญชู” ที่มีหน้าที่ดูแลสุกรราว 100 ตัว กินนอนอยู่ในฟาร์ม ที่ตำรวจชี้ว่า สภาพความเป็นอยู่ของบุญชู “แย่ยิ่งกว่าหมูในเล้า” ห้องพักเต็มไปด้วยขวดน้ำ ถุงขยะ ผ้าห่มที่ไม่ได้ซักมานานและเสื้อผ้ากระจัดกระจาย

อดีตแรงงานไทยระบุว่า สภาพแรงงานผีน้อยต้องทำงานหนัก ใช้ร่างกายจนกระทั่งสุขภาพร่างกายรับไม่ไหวในท้ายสุด

เปรียบเปรย “ชีวิตคนไทยในเกาหลี หมาที่ผูกไว้หน้าบ้าน ยังมีค่ากว่าชีวิตคนไทย” เพราะรูปแบบการทำงานและงานที่หนักเกินไป เช่น การทำงานล่วงเวลา คนไทยต้องการเงินจำนวนมากขึ้นจึงจำเป็นต้องทำงานเกินเวลา ทำให้มีผลต่อความเสี่ยงเรื่องสุขภาพ

เมื่อเจ็บป่วยถึงขั้นต้องไปโรงพยาบาล ค่ารักษาพยาบาลของบางรายที่ล้มป่วยด้วยโรครุนแรงอาจจะสูงถึงหลักสิบถึง 300 ล้านวอน (2.6 แสน ถึง 7.9 ล้านบาท)

สถานเอกอัครราชทูตไทยในเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ได้ดำเนินภารกิจคุ้มครองและดูแลคนไทยในส่วนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ป่วยจนเสียชีวิต ได้แก่ การประสานงานตามหาคนไทยที่หายตัวไป เจรจาต่อรองค่ารักษาพยาบาลประสานงานเพื่อขอรับบริจาคให้กับแรงงานผิดกฎหมายที่ไม่มีค่ารักษาพยาบาล การให้กู้ยืมเงินค่ารักษาพยาบาลและประสานงานเพื่อส่งตัวคนไทยกลับไปรักษาที่ไทย

นอกจากนี้ ยังช่วยประสานงานขอรับบริจาคค่าดำเนินการจัดการศพคนไทย เผาศพ การประสานงานกับญาติคนไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งศพหรืออัฐิคนไทยกลับประเทศไทย

เงินค่าทำศพ ค่าฌาปนกิจ และเงินค่าส่งอัฐิกลับประเทศไทย มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นราวๆ 3 ล้านวอน หรือราวๆ 1 แสนบาท “บางคนเวลาตาย เงินค่าทำศพ ค่าเผาก็ไม่มี”

ปัจจุบันมีคนไทยที่เข้าเมืองผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ราว 138,000 คน เมื่อเร็วๆ นี้ ทางเกาหลีดำเนินโครงการการเดินทางออกนอกประเทศโดยสมัครใจแบบพิเศษ เปิดโอกาสให้ผู้ที่พำนักแบบผิดกฎหมายสามารถรายงานตัวกลับโดยสมัครใจ โดยจะได้รับการยกเว้นค่าปรับและระงับการห้ามเดินทางกลับเข้าเกาหลี แต่มีคนไทยขอกลับแค่ 2,601 คน

ผมว่าคนไทยต้องช่วยกันหาคำตอบว่าทำไมประเทศเราการพัฒนาถึงย่ำอยู่เพียงเท่านี้

หากโจทย์การพัฒนาคือเกาหลีใต้ ซึ่งมีประวัติศาสตร์การเมืองและเศรษฐกิจคล้ายประเทศเรามาก แต่ทุกวันนี้ประเทศนี้ก้าวไปไกลกว่าเราหลายช่วงตัว วันนี้คนไทยต้องหาคำตอบกันบ้างแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image