เดินหน้าชน : ภารกิจกู้ ปชป.

เดินหน้าชน : ภารกิจกู้ ปชป.

เละไม่เป็นท่า สำหรับพรรคเก่าแก่ อย่าง “ประชาธิปัตย์” ที่จัดการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2566 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ ตามข้อบังคับพรรคการเมือง ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่ เมื่อวันที่ 9 ก.ค.

ภายหลัง “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

โดยการเลือก “หน.ปชป.” ใหม่รอบนี้ นับว่ามีความสำคัญ จะเป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้งว่า พรรค ปชป.จะกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้งหรือไม่ ใครจะมาเป็นผู้นำ? แต่ท้ายสุดการประชุมก็จบลง เพราะองค์ประชุมล่ม สมาชิกไม่ถึง 3 ใน 5 หรือเหลือสมาชิกแค่ 201 คน จะด้วยพักรับประทานอาหารกลางวันล่าช้า และสมาชิกบางคนอยู่โรงแรมใกล้เคียง กลับไปเก็บกระเป๋า หรือ “แทคติค”

Advertisement

คำถามว่า เกิดอะไรขึ้น?

เบื้องหลังเกมการชิง “ผู้นำพรรค ปชป.” การงัดข้อระหว่าง 2 ขั้วที่เกิดขึ้น เพื่อชิงเก้าอี้ระหว่างขั้วของ “นายหัว” ชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ที่ปัดฝุ่น “มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ให้รีเทิร์นมานำทัพ “พรรคแม่พระธรณีบีบมวยผม” อีกครั้ง หลังรอบที่แล้ว “มาร์ค” ต้องลาจาก ส.ส.เปิดทางให้ พรรค ปชป.ร่วมรัฐบาลกับ “3 ป.”

โดยมีภารกิจกู้ชีพ พรรค ปชป.ให้กลับมายิ่งใหญ่ หลังจากไม่ประสบความสำเร็จ หรือ “คอการเมือง” ถึงขั้นบอกว่า ล้มเหลว จากผลการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2562 ที่คว้าได้ 52 ที่นั่ง โดยเฉพาะล่าสุดปี 2566 ได้แค่ 25 เสียง

Advertisement

ส่วนอีกขั้ว คือ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ปชป. ส่ง “เสี่ยตุ้ม” นราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค ปชป. เข้าประกวด “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รักษาการรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ วางตัวเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ เรียกได้ว่านำโซนภาคเหนือ ผนึกกำลังกับโซนใต้ โดยนับ ส.ส.ในมือแล้วประมาณ 18-20 คน ก็น่าจะโหวต “เสี่ยตุ้ม” หน.พรรคคนใหม่ได้ไม่ยาก

เนื่องจากยึดตามข้อบังคับพรรคที่ 87 โดยสัดส่วนคะแนน 70 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับ 25 ส.ส. ส่วนน้ำหนักคะแนนอีก 30 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับอดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี อดีตผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ

โดย “เสี่ยตี๋” สาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรค ปชป. ชงให้ยกเลิกข้อบังคับพรรคที่ 87 ในการเลือก กก.บห.ชุดใหม่ แต่ท้ายสุดก็ถูกตีตก

ดังนั้น เมื่อแนวโน้มโอกาสที่ “ขั้วนายหัว-มาร์ค” อาจเพลี่ยงพล้ำ เป็นรอง ถึงแม้ยังไม่ถึงคิวเสนอชื่อว่าจะมีใครชิง หัวหน้าพรรค ปชป.ก็ตาม

ทำให้ต้องกดปุ่มแก้เกม สมาชิกออกจากห้องประชุมจนในที่สุดองค์ล่ม เลือก กก.บห.และหัวหน้าพรรคไม่ได้ในที่สุด…

จนถูกวิจารณ์ว่า พรรค ปชป.แตกเป็นเสี่ยงๆ

“เจตนาผมอยากเข้ามาบริหารปรับเปลี่ยนโครงสร้างข้อบังคับต่างๆ ในพรรค ผนวกผู้อาวุโสกับคนรุ่นใหม่เข้าด้วยกัน ทั้งแนวความคิดและยุทธวิธีของคนรุ่นใหม่ ซึ่งคิดว่าอาจจะอยู่ในตำแหน่ง 1 ปีครึ่ง ไม่เกิน 2 ปี เพื่อคืนอำนาจให้สมาชิกได้พิจารณาอีกครั้ง เพราะที่ประชุมได้พูดคุยกันว่าสัดส่วน 70:30 ไม่เป็นธรรม วันนี้จึงถือเป็นโอกาสที่เราได้มาพูดคุยกันเพื่อให้กฎระเบียบกติกาเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่หากยังเป็นแบบนี้ก็ถือว่าแพ้ภัยตัวเอง ฉะนั้นการสื่อสารภายในองค์กรถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ใช้เวลาตัดสินใจระยะหนึ่งที่เข้ามาเสนอตัวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งคิดไว้อยู่แล้ว แต่มีผู้ใหญ่มาทาบทามเสนอมุมมอง หาใครสักคนที่เป็นกลาง ที่สามารถพูดคุยกับทุกฝ่ายได้เพื่อให้เรารวมกันเป็นหนึ่ง” นราพัฒน์ระบุ

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ ฝั่งที่เป็นรอง “นายหัว-มาร์ค” ต้องเร่งล็อบบี้เสียงเพิ่มก่อนวันประชุม เพื่อชิงปิดสวิตช์ 70:30

คงต้องติดตามว่า ประชุมพรรค ปชป.ครั้งต่อไป จะจบลงอย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image