| ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
|---|
เดินหน้าชน : เกมอันตราย
ช่วงสถานการณ์การเมืองที่ดูแล้วน่าอึดอัด ขัดใจอย่างยิ่ง สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลและดันชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกส่งไม้ต่อมาให้พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้ฟอร์มทีม เมื่อต้องเผชิญกับความคาดหวัง ทั้งติ่งของตัวเองและด้อมส้ม ดังนั้น ไม่ว่าจะตัดสินใจอะไรล้วนแล้วน่าหนักใจ โดยเฉพาะเมื่อมีสัญญา สัจจะ ค้ำคอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมหากดูเนื้อหาหลังการประชุม 8 พรรค โดยที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรค พท. ตั้งโต๊ะแถลง วาง 3 แนวเพื่อตั้งรัฐบาลให้ได้หาเสียง ส.ว., ขอเสียง ส.ส. และอื่นๆ นั้น
เพียงแค่ข้ามวัน พรรค พท. เปิดฉาก เดินเกมต้อนรับขั้วรัฐบาลเดิมที่เรียงคิวกันตบเท้าเข้าที่ทำการพรรค พท. ตั้งแต่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และปิดท้ายที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมเสิร์ฟช็อกโกแลตมิ้นต์ (มิ้นต์ช็อก) เครื่องดื่มยอดฮิตประจำพรรค พท. บนโต๊ะหารือ จนถูกคอการเมืองแซวว่า “หวานเจี๊ยบทุกช็อต” โดยบทสรุปของ 5 พรรค คือ ไม่หนุนพรรคแก้ มาตรา 112 ตามเดิม
ว่ากันว่า พรรค พท.เล่นไปตามบทละคร สอนมวยการเมืองคือการเจรจา มีแข็งมีอ่อน เล่นเกมที่อึดอัดบีบพรรค ก.ก.ว่าจะทนได้หรือไม่ เพียงแต่อาจขัดใจ ไม่ใช่แค่ด้อมส้ม รวมทั้งแฟนคลับแดง และคนในพรรคตนเอง เป็นเกมอันตราย ที่บีบหัวใจก็ว่าได้
ถึงขั้น เซียนการเมืองฟันธงว่า ภาพที่ปรากฏการตบเท้า เข้าหารือที่ชื่นมื่นนี้ บางทีอาจถูกเซตกันตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 ตรงตามกระแสข่าวลือ “ดีลลับ” ถึงแม้จะออกมาปฏิเสธพัลวันก็ตาม ถึงขนาดเป็น “ดีลรัก” เพียงแต่พรรค พท.ต้องได้ ส.ส.แลนด์สไลด์ แต่เมื่อหลังเลือกตั้ง สมการตัวเลขเปลี่ยน!
พรรคส้ม หรือพรรค ก.ก. ดันพรวดได้เก้าอี้ ส.ส.เป็นที่ 1 ซะงั้น เกิดอาฟเตอร์ช็อกไปชั่วขณะ แต่เมื่อชีพจรการเมืองเดินมาสู่ปัจจุบัน จังหวะ สถานการณ์เวลา ภาพที่เห็นจึงปรากฏ จริงเท็จประการใด ให้สังคมตัดสิน ส่วนสูตรรัฐบาลจะมีกี่พรรค เอาใครเข้า เอาใครออกต้องติดตาม
อย่างไรก็ดี นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นการคุยเพื่อตั้งรัฐบาล เป็นเพียงมาสอบถามความคิดเห็น ข้อติดขัดต่างๆ เท่านั้น และถึงขั้นตัดพ้อว่า “ทางเลือกอื่นที่มีคนเสนออีก เช่น พรรค พท.เป็นพรรคอันดับสอง ที่ได้รับมอบหมายจากพรรคอันดับหนึ่ง เมื่อพรรค พท.จัดไม่ได้ ในเมื่อเราหมดปัญญาแล้ว ทำไมไม่ส่งต่อให้คนอื่น คือพรรคอันดับสาม”
จุดพลุว่าหวยแกนนำตั้งรัฐบาล อาจจะมาออกที่ พรรค ภท. ซึ่งในกติกา มีความเป็นไปได้ แต่อยู่ที่พรรค พท.จะยอมทิ้ง 8 พรรคไปร่วมหรือไม่เท่านั้น มิเช่นนั้นแล้ว พรรค ภท.จะรวมอย่างไรก็ไม่ครบ หรือตั้งได้จะเป็นแค่รัฐบาลเสียงข้างน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ดี การประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี วันนี้หรือวันที่ 27 กรกฎาคม น่าจะถูกเลื่อนออกไปก่อนภายหลังผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความปมการเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเห็นชอบเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีถือเป็นญัตติ ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 41 ซึ่งกำหนดว่าญัตติใดที่ตกไปแล้ว ห้ามนำญัตติซึ่งมีหลักการเช่นเดียวกันขึ้นเสนออีกในสมัยประชุมเดียวกัน เป็นการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพ และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุติการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีข้อวินิจฉัยในเรื่องนี้ออกมา
แต่ถ้าหากยังไม่มีคำตัดสินต้องลุ้นว่ารัฐสภาจะโหวตเห็นชอบนายกฯตามที่พรรค พท.เสนอหรือไม่ และที่ต้องลุ้นยิ่งกว่าหากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า ปมข้อบังคับที่ 41 ขัดแย้งรัฐธรรมนูญ งานนี้คงวุ่นวายแน่ๆ
อย่างไรก็ตาม อนาคต 8 พรรคจะจับมือกันให้แน่นจนตั้งรัฐบาลสำเร็จ หรือใครปล่อยมือใครก่อน ทิ้งใครลงจากเรือ อีกไม่นานคงได้คำตอบ …
