เดินหน้าชน : บูสต์เที่ยวปุ๊บ-ชนะปั๊บ

เดินหน้าชน : บูสต์เที่ยวปุ๊บ-ชนะปั๊บ

หลัง “เศรษฐา ทวีสิน” ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกฯ ก็นำทีมลุยภูเก็ต-พังงาทันที ไม่รอตั้ง ครม.-รอแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา

เป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลมุ่งเป้าไปที่การท่องเที่ยว เพื่อเร่งปั๊มเศรษฐกิจประเทศ

ด้วยเพราะขณะนี้ เครื่องจักรการส่งออกอ่อนกำลังลงมาก มูลค่าติดลบ 10 เดือนติด จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

Advertisement

ขณะที่การลงทุน เพิ่งรับรู้ความชัดเจนจากการจัดตั้งรัฐบาล ยังต้องใช้เวลาอีกระยะในการตัดสินใจของนักลงทุน

นอกจากนี้ งบประมาณ 2567 ที่ปกติต้องเริ่มเบิกจ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามา ต้องพิจารณาทบทวนอีกครั้ง

กว่าจะมีมติ ครม. กว่าจะเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณให้สภาพิจารณา กว่าจะตั้งคณะกรรมาธิการ ขั้นตอนต่างๆ ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณ 2567 อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

Advertisement

การท่องเที่ยวจึงเป็นเครื่องยนต์หลักช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในขณะนี้

แม้ต่างชาติจะเข้ามาท่องเที่ยวไทยมากขึ้น แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมาย โดยเฉพาะชาวจีน ที่คาดว่าปีนี้จะมา 5 ล้านคน แต่ล่าสุดยังไม่ถึง 2 ล้านคน จึงต้องกระตุ้นให้ต่างชาติเข้ามาไทยเพิ่มขึ้น จะได้มีเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

หนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลคือ เร่งกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่ประชุม ครม.นัดแรกเมื่อวันที่ 13 กันยายนก็มีมติทันทีเปิดวีซ่าฟรีสำหรับชาวจีน และคาซัคสถาน เริ่ม 25 กันยายนนี้ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567

แม้เศรษฐกิจในประเทศจีนมีปัญหา แต่ประชากรจีนกว่า 1.4 พันล้านคน มีไม่น้อยยังมีกำลังทรัพย์พอจะออกไปเที่ยวต่างประเทศ รวมถึงไทย

ส่วนคาซัคสถาน เป็นตลาดใหม่ มีสถิติเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น ช่วงไฮซีซั่นนี้ การท่องเที่ยวไทยคงคึกคักขึ้น

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าปี 2566 จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวที่ 2.38 ล้านล้านบาท เป็นรายได้จากคนไทยเที่ยว 8.8 แสนล้านบาท และต่างชาติ 1.5 ล้านล้านบาท จาก 28-30 ล้านคน

แม้รายได้จากการท่องเที่ยวของไทยจะมีสัดส่วนแค่ 15-16% ของจีดีพี ขณะที่การส่งออกอยู่ที่ 50-60% แต่การส่งออกมีโลคัลคอนเทนต์ หรือสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศไม่มากนัก ยิ่งเป็นสินค้าอุตสาหกรรม วัตถุดิบส่วนใหญ่จะนำเข้าจากต่างประเทศ หักกลบกันแล้วเหลือรายได้ตกถึงไทยจริงๆ ไม่กี่เปอร์เซ็นต์

แต่การท่องเที่ยวมีโลคัลคอนเทนต์ เกือบ 100% ทำให้เศรษฐกิจไทยได้ประโยชน์แบบเนื้อๆ และกระจายไปหลายภาคส่วนอย่างรวดเร็ว เพราะมีห่วงโซ่อุปทานมากมาย ไม่ว่าจะสายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร บริษัททัวร์ ตลาดนัด ร้านค้าชุมชน และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ละห่วงโซ่ล้วนเกี่ยวโยงกับคนจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม วีซ่าฟรี เป็นแค่มาตรการส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีการบ้านอีกมากต้องทำคู่ขนาน ทั้งการโปรโมต เรื่องความปลอดภัย การป้องกันเอารัดเอาเปรียบต่างชาติ

แม้ 3 แกนประสานหลักในการบูสต์ท่องเที่ยวจะหน้าใหม่ ทั้ง “เศรษฐา” ในฐานะนายกฯ แต่อยู่ในแวดวงธุรกิจมานาน มองทะลุว่าจะชูธงนโยบายยังไง

“สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” รมว.การท่องเที่ยวฯป้ายแดง แม้อายุยังน้อย แต่เคยผ่านการบริหารงานเอกชน และเคยช่วยงานพ่อ คือ “กำนันป้อ-วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” เมื่อครั้งเป็น รมช.พาณิชย์ และ รมช.คมนาคม อีกทั้ง ความเป็นรุ่นใหม่จะมีมุมมองใหม่ๆ ช่วยขับเคลื่อนนโยบาย

“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” แม้จะนั่งเป็นผู้ว่าการ ททท.หมาดๆ แต่เป็นลูกหม้อมานาน รู้ทั้งลึกและกว้าง จะช่วยนำนโยบายไปแปรสู่การปฏิบัติให้ได้ผลตามเป้า

เมื่อ “เศรษฐา” ประกาศบูสต์ท่องเที่ยวปุ๊บ ไม่เพียงแค่ Quick Win ที่มีแผนด่วนเห็นผลเร็ว แต่ยัง Instant Win หรือชนะปั๊บ เพราะเอกชนเชื่อมั่น ขยับรับลูก ช่วยให้เศรษฐกิจคึกคักทันที

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image