สกลธี ไม่หวงนโยบายหาได้เข้า กทม. ขายขยะ – เก็บภาษีโรงแรม ถ้าเป็นผู้ว่าฯ ทำทันที!
วันนี้ (17 พฤษภาคม 2565) นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่หาเสียงในช่วงนี้ ว่า ในเวลาที่เหลืออีกไม่กี่วัน ส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทางไปดีเบตในเวทีต่างๆ และแสดงความพร้อมให้กับทุกคนได้ทราบว่าจะเป็นผู้ว่าฯ กทม.ในแบบไหน
“ที่ยืนยันมาตลอดก็คือ การเป็นผู้ว่าฯ กทม.ที่หาเงินได้ ใช้เงินเป็น เพราะ ถ้า กทม.ไม่มีเงิน รอเงินเพียงแต่จากรัฐบาล ก็คงไม่เพียงพอที่จะนำไปพัฒนาในเรื่องต่างๆ ตามนโยบายทั้งหมดได้ ดังนั้น นโยบายของผมจึงไม่ได้พูดแต่เพียงเรื่องจะสร้างต่างสิ่งต่างๆ อย่างเดียว แต่จะเน้นเรื่องการหาเงิน เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ด้วย” นายสกลธี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้เริ่มมีผู้สมัครคนอื่นนำเรื่องของการหาเงินเข้า กทม. มาหาเสียงเช่นเดียวกัน นายสกลธี กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่สงวนลิขสิทธิ์ ถ้าเห็นว่าเป็นแนวทางที่ดี แต่ส่วนตัวจะเห็นได้ว่าพูดเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก เพราะเห็นปัญหาและเข้าใจเรื่องของการจัดการงบประมาณที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาสิ่งต่างๆ โครงการต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร กทม.จึงให้ความสำคัญกับการเรื่องหาเงินด้วยตัวเองมาตั้งแต่แรก
“จะเห็นได้ว่าในสกลธีโมเดล มีเรื่องการบริหารงบประมาณ การหาเงินด้วยตนเองของ กทม. ไม่ว่าจะเป็นแนวนโยบายการจัดการขยะ นำขยะไปขายหรือให้เอกชนมาทำแทน นอกจากจะลดค่าใช้จ่ายก็ยังหารายได้เพิ่มได้ด้วยหรือ การหาเงินจากรายได้การท่องเที่ยวจากภาษีโรงแรม หรือ City Tax ที่จะจัดเก็บจากนักท่องเที่ยวหลังการเปิดประเทศ เรื่องนี้ผมศึกษามานานและยังได้ทีมที่ปรึกษาเป็นอดีตรองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่เข้าใจ จึงเชื่อว่า เป็นนโยบายที่ทำได้อย่างแน่นอน เพราะต้องเข้าใจว่าการ รอเงินเพียงจากการจัดสรรของรัฐบาล คงจะไม่เพียงพอ กับเมืองใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพฯ ที่มีปัญหามากมาย ผมไม่สงวนลิขสิทธิ์ในเรื่องนี้ หากใครคิดว่าดี ก็เอาไปทำ หรือไปเป็นนโยบายหาเสียงได้ แต่จะทำได้จริงหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สำหรับผมแล้วศึกษาเรื่องนี้มานานแล้ว เริ่มนโยบายมาตั้งแต่แรก ดังนั้นจึงมีแผนการทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ได้มาเริ่มใหม่เรารู้ปัญหาและรู้ขั้นตอนวิธีการว่าจะต้องทำอย่างไร รวมไปถึงการศึกษาเรื่องกฎหมาย มีทีมงาน ที่ทำเรื่องนี้มาก่อน มีข้อมูลต่างๆ พร้อม” นายสกลธี กล่าว
ทั้งนี้ นายสกลธี กล่าวย้ำว่า หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.จึงมั่นใจว่าสามารถทำได้ทันที กทม.จะมีเงินเข้ามาใช้ในการทำโครงการต่างๆ กระจายงบจัดสรร ไปในพื้นที่อื่นๆ ที่ไม่ใช่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็วเพราะเราจะมีเงิน มีรายได้เป็นของตัวเอง มั่นใจว่าทำได้อย่างแน่นอน
