‘ชัชชาติ’ ตรวจลึกถึง ‘ห้องน้ำ’ ลั่นจตุจักรต้องท้าทาย บริหารแบบราชการไม่ได้ จ่อตั้งทีม ศก.สร้างสรรค์ ดันสมบัติของกรุงเทพฯ เป็น ‘ตลาดนัดระดับโลก’
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะ พร้อมด้วย นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) และนายสุธน สุวรรณภานนท์ ผู้อำนวยการตลาดนัดจตุจักร ลงพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักร กรุงเทพฯ โดยพูดคุยกับผู้ประกอบการ เริ่มตั้งแต่เมโทรมอลล์ รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีกำแพงเพชร ก่อนเข้ามาภายในตลาดนัดสวนจตุจักรโซนใน
อ่านข่าว : ‘ชัชชาติ’ ลุยจตุจักร ให้กำลังใจผู้ค้า เชื่อฟื้นหลังโควิดสงบ บรรยากาศยังเหงา
‘ผอ.สำนัก ศก.สร้างสรรค์’ ควงชัชชาติ ลุย ‘จตุจักร’ แนะแก้แออัด ตามวิถีใหม่หลังโควิด
บรรยากาศ เวลา 18.00 น. นายชัชชาติ เดินสำรวจตลาดจตุจักรโซนนอก โดยมีพ่อค้าแม่ขาย เข้ามาขอถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีคนแซวว่า ก่อนที่จะมีการรับรอง ผู้ว่าฯกทม.อย่างเป็นทางการ จะได้เห็นชัชชาติลงพื้นที่ครบทุกเขต ก่อนหรือไม่ ?
นายชัชชาติกล่าวว่า อันนี้คือพยายามเก็บข้อมูล ไม่ได้มาสั่งการอะไร วันนี้ไม่ได้มาเจอ ผอ.เขตจตุจักรด้วย จะมาฟังผู้ประกอบการ ถามว่ามาทำไมจตุจักร ความจริงแล้ว กทม. เป็นผู้รับผิดชอบตลาดจตุจักร มติ ครม. ปี 2561 มอบตลาดจตุจักรนี้ ให้ กทม.ดูแล จตุจักรมีความสำคัญเมื่อเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ เรามีอยู่แค่ 8,500 แผง บวกกับต้นไม้อีก 800 แผง ทั้งหมด 9,300 แผง กทม.เก็บแผงละประมาณ 1,800 บาทแต่ก่อน ฉะนั้นค่าเช่าได้ไปประมาณ 24 ล้านบาท/เดือน และต้องจ่ายค่าเช่าให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปีละ 169 ล้าน ก็ได้กำไรนิดหน่อย
“แต่ก่อนจตุจักรมี 100,000 คนต่อวัน แต่พอโควิด-19 มา กระเทือนมาก ตอนนี้กลับมา 30,000 คน ไม่ได้กระทบเฉพาะผู้ขาย ความจริงแล้วมีซัพพลายเชนที่ลึก คนตัดเย็บเสื้อผ้าตามหมู่บ้าน ตามตำบลต่างๆ ลึกลงไปอีกมากมาย จะเห็นพ่อค้าแม่ค้าที่มีอยู่ เป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง มีฐานอีกมากที่ได้รับผลกระทบตรงนี้” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ถามว่าทำไมเศรษฐกิจไม่ดี ส่วนหนึ่งก็มาจากตรงนี้ ที่ร้านค้า-ผู้ผลิตขายไม่ได้ ที่เราเป็นห่วงคือ แล้วจะทำอย่างไรต่อ พอโควิดกลับมาแล้ว ถามว่าร้านค้าได้กลับมาไหม เป็นเหตุผลที่เรามาเดินดูตลาดนัดจตุจักร
“เวลาเดิน เรามาเดินถนนรอบนอก ก็คึกคักนะ แต่รอบนอกมีแค่ประมาณ 800 ร้าน ที่เหลืออยู่ข้างใน ซึ่งปิดไปเยอะมา แต่เดิมควรเก็บได้ 20 ล้าน ตอนนี้เก็บได้เดือนละ 7 ล้าน ผอ.ตลาดฯ กรุณาลดค่าเช่าให้ครึ่งหนึ่ง แต่ก็มีพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากที่ปิดร้าน เดินเข้ามาเหงาเลย” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติ ชี้ว่า ความซบเซาของตลาดนัดจตุจักรมาจาก 2 สาเหตุ มิติที่หนึ่ง คือ 1.นักท่องเที่ยวยังไม่กลับมา 2.คนเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อเป็นออนไลน์หมด แม้โควิดหายคนก็อาจจะไม่กลับมาที่จตุจักรแล้ว
“อนาคต จตุจักรต้องท้าทาย จะบริหารแบบราชการไม่ได้แล้ว ต้องเอามืออาชีพที่เข้าใจการตลาด อาจต้องขายทั้งแบบออนไลน์ และหน้าร้านพร้อมกัน ไปคุยกับร้านแบบนั้น ขายได้เพิ่มขึ้น ตลาดต้องมาช่วยผู้ประกอบการ อาจจะต้องมีแพลตฟอร์มรวมของตลาด กระจายไปทั่วโลก วิธีคิดต้องเปลี่ยน ไม่ใช่ระบบราชการ ต้องมาช่วยผู้ค้าข้างในลึกๆ ผมเองก็ไม่เคยมาเดินข้างใน เราจะเดินอยู่แค่ถนนรอบนอกซึ่งดูคักคัก แต่เข้าไปนิดเดียว ลำบาก เป็นนโยบายที่ท่าน ผอ.ตลาดจตุจักร จะต้องช่วยดู เพราะเป็นฐานเศรษฐกิจใหญ่ มีผู้ค้าจำนวนมากที่ส่งของมาขายที่นี่ เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดูปากท้องของประชาชนในอนาคต” นายชัชชาติกล่าว
เมื่อถามว่า จากการฟังความเห็นผู้ค้า ปัญหาเฉพาะหน้า มีเรื่องอะไรบ้าง ?
นายชัชชาติเปิดเผยว่า อยากให้มีการจัดกิจกรรมกระตุ้น คนไม่เดินเข้ามาข้างใน มีวิธีอย่างไรเพื่อที่จะกระตุ้นได้หรือไม่ เรื่องค่าเช่า ผอ.เขตก็ลดให้ครึ่งหนึ่ง อาจจะต้องหาลานกิจกรรมตรงกลาง ‘หอนาฬิกา’ ทำอย่างไรให้คนเดินเข้ามา อาจจะหาร้านแมกเน็ต (Magnet) ไม่ต้องจ่ายค่าเช่า เอาร้านมาลงเพื่อให้คนเดินเข้ามา จัดโปรโมชั่นอย่างไรให้คนรู้จักทั่วมากขึ้น
แต่น่าจะฟื้นได้ เพราะมีความต้องการที่ค้างอยู่ในช่วงโควิด ถ้าเกิดนักท่องเที่ยวกลับมา จตุจักรก็จะเป็นเสน่ห์ อย่างเต็นท์พวกนี้ก็ทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยได้หรือไม่ ทำเป็นโดม อย่างเวลาฝนตก มีพายุ อันตราย หรือว่ามีไฟไหม้ แก้ความร้อนของในแต่ละซอก เปลี่ยนพฤติกรรมการเดินของคน
“เรื่องห้องน้ำ มีคนกระซิบผมหลายคน การจัดการจราจร เรื่องพวกนี้ผมว่าไม่เป็นไร เรามีสมบัติที่มีค่ามากๆ อยู่กลางเมือง มีรถไฟฟ้ามาจอด เรามีสมบัติอยู่ในเมืองชื่อเสียงระดับโลก ถ้าทำให้ไม่ดีก็แย่แล้ว ต้องทำให้ดีให้ได้ เรามีสมบัติอยู่ในมือแค่ทำให้มันเปล่งประกาย ออกมาให้ดี อย่าไปกลัว ผมเชื่อ ถ้าได้คนที่ถูกต้องมา เรามีท่านอภิสิทธิ์ ซึ่งทำเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์มาก่อน ทำมาทั้งชีวิต นี่คือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ตัวจริง เอาของมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เดี๋ยวท่านคงมาช่วยดูตรงนี้ด้วย จะทำอย่างไรให้เกิดไอเดียขึ้น เป็นกำลังใจให้พ่อค้าแม่ค้าทุกคน เราไม่ได้กังวลร้านริมมาก กังวลข้างใน และหลายคนก็สู้ ไม่ยอมหนีจตุจักร เราก็จะไม่ทิ้งท่าน
ท่านไม่ทิ้งเรา เราก็ไม่ทิ้งท่าน ต้องช่วยดูกันไป แล้วเดี๋ยวผมว่าเราจะกลับคืนมาเป็นตลาดนัดระดับโลก ระดับท็อปเท็น ต้องเป็นเฟสติวัล ว่าเดือนนี้จะต้องมาเที่ยวจตุจักร แล้วเราต้องคึกคัก ผ้าใบเผยิบๆ แบบนี้ ไม่สมศักดิ์ศรีจตุจักร” นายชัชชาติกล่าว
ก่อนเดินเท้าเข้าไปตรวจภายในห้องน้ำตลาดจตุจักร ทั้ง 5 หลัง เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนมาก
บรรยากาศเวลา 18.05 น. นายชัชชาติเข้าห้องน้ำตลาดนัดจตุจักร โดยเข้าไปตรวจสอบห้องน้ำคนพิการ ในส่วนห้องน้ำหญิง พบว่าสะอาด ส่วนห้องน้ำชาย พบว่าชำรุดเป็นจำนวนมาก
โดยเมื่อเดินเท้าออกจากจตุจักรโซนใน มีสตรีรายหนึ่ง เป็นแม่ค้าจตุจักรโครงการ 16 กล่าวกับนายชัชชาติว่า “แข็งแกร่งมาก” “หัวใจของแม่ค้า คือ ลูกค้า” ทั้งนี้ นายชัชชาติได้แวะซื้อถุงเรนโบว์ พร้อมกล่าวว่า เดี๋ยวจะต้องเตรียมไปงาน Pride Month
จากนั้น นายชัชชาติเดินตามตรอกของตลาด ตามที่พ่อค้าแม่ค้าเรียกร้องให้ไปแวะเวียน ซึ่งต่างชื่นชมให้กำลังใจ พร้อมขอถ่ายรูปกับนายชัชชาติเป็นจำนวนมาก ระหว่างเดินพ่อค้าคนหนึ่งพานายชัชชาติดูกิ่งของต้นไม้ที่โน้มเอียงไปเมื่อ 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายชัชชาติกล่าวว่า จะเรียกรุกขกรจากสวนคุกมาช่วยดูตรงนี้ก่อนเดินทางกลับด้วยรถไฟฟ้า MRT ที่สถานีกำแพงเพชร
เวลา 18.50 น. มีประชาชนรอต่อแถวถ่ายรูปด้วยจำนวนหนึ่ง จากนั้นนายชัชชาติกล่าวขอบคุณ ผอ.ตลาดนัดจตุจักร และตัวแทนผู้ค้าที่ร่วมเดินตลาด
อ่านข่าว : ชัชชาติ ผนึกพรรคการเมือง ร่วมเปิดเทศกาล Pride Month ปักหมุดหนุนความหลากหลายทางเพศ
