ตู้หนังสือ : ประวัติศาสตร์เดินหน้า ไทย ‘แบ๊ก ทู เดอะ ฟิวเจอร์’

ตู้หนังสือ : ประวัติศาสตร์เดินหน้า ไทย ‘แบ๊ก ทู เดอะ ฟิวเจอร์’

ประวัติศาสตร์เดินหน้า

ไทย ‘แบ๊ก ทู เดอะ ฟิวเจอร์’

ในหนังชุดสนุกสนานสามภาค กลับสู่อนาคต (Back to The Future 2528-2533) พระเอก มาร์ตี้ แมคฟลาย (ไมเคิล เจ.ฟอกซ์) กับศาสตราจารย์ (คริสโตเฟอร์ ลอยด์) แต่งพาหนะความเร็วสูงคืนอดีต ดังนั้น ต้องหาทางกลับอนาคต

Advertisement

แต่การเรียนการสอนประวัติศาสตร์สยามในปัจจุบัน อดีตชัดเจนเพียงเรื่องราวในศูนย์กลางการปกครองส่วนเดียว องค์ประกอบสำคัญอื่นๆ ของภาพเต็มหายไป หรือถูกทำให้หายไป ดังนั้น ประวัติศาสตร์ต้องหาทางคืนสู่อนาคต

ฉะนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ใฝ่รู้ นักเรียนนักศึกษาประชาชนทั้งหลาย หากต้องการศึกษาค้นคว้าความจริงในประวัติศาสตร์ตัวเอง เพื่อนำทางไปสู่ความเข้าใจเรื่องอื่นๆ ซึ่งเลือนรางอยู่ในตำรา หรือความรู้ในห้องเรียน จึงต้องไม่พลาดอ่าน “ประวัติศาสตร์ไทยเขียนไม่ได้ หากไม่เข้าใจลุ่มแม่น้ำโขง ถ้าเขียนได้คือโกหก” ในมติชนรายวัน เสาร์ที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งถ่ายทอดต่อจากรายการ ขรรค์ชัย-สุจิตต์ ทอดน่องท่องเที่ยว ตอน “พลังลาว ชาวอีสาน ตำนานพญานาค” ที่สวนสันติชัยปราการ เขตพระนคร กทม. ซึ่งหาชมในมติชนออนไลน์ได้เช่นกัน จะได้พบข้อมูลเท็จจริงน่าทึ่งที่โรงเรียนไม่เคยสอน ตำราไม่เคยเขียน

“จำไว้ว่า คนที่มาสร้างกรุงเทพฯ ส่วนหนึ่งคือลาว”

Advertisement

● หนังสือเล่มโตซึ่งเหมาะเหม็งกับนักเรียนไทยที่สนใจจีน ซึ่งคืนสู่สถานะมหาอำนาจปัจจุบัน หลังจากเป็นคนป่วยแห่งเอเชียอยู่เกือบศตวรรษ และเหมาะกับบรรดานักเรียนไทยในจีน หรือสถาบันการศึกษาต่างๆ เพราะนี่เป็นหนังสือซึ่งแปลและเรียบเรียง จากตำราของกระทรวงศึกษาสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งค้นคว้าประกอบเพิ่มเติมอีกมากมายโดย คล่อง กับ คมกริช ศิรประภาธรรม

ผู้ที่ ทองแถม นาถจำนง แห่งสยามรัฐกล่าวว่า อาจารย์คล่องเคยเดินทางไปทั่วจีน ความรู้ทางประวัติศาสตร์จึงไม่ใช่เพียงข้อมูลจากหนังสือ แต่เคยนำคณะทัวร์ชมถิ่นประวัติศาสตร์ทั้งหมดมาแล้ว หนังสือนี้เป็นความใฝ่ฝันที่ตนอยากทำ เมื่ออาจารย์คล่องทำสำเร็จ ก็ดีใจ วงการจีนศึกษามีหนังสือวิชาการดีๆ เพิ่มขึ้นอีก

ยังมีรองอธิการบดี ม.รังสิต อานันท์ หาญพาณิชย์พันธ์ กล่าวว่า เมื่อสิบปีที่แล้ว ท่องเที่ยวประเทศจีน ของอาจารย์คล่อง ช่วยย่นย่อเรื่องจีนให้เราเข้าใจง่ายๆ โดยผสมผสานข้อมูลพื้นฐาน ภูมิศาสตร์การท่องเที่ยว และความรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เข้าด้วยกันอย่างมีชีวิตชีวา วันนี้ อาจารย์คล่องยังเพียรทำเรื่องที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ด้วยการเรียบเรียง “ประวัติศาสตร์จีน” อย่างละเอียด ตั้งแต่มนุษย์ยุคบรรพกาล จนถึงปัจจุบัน

ดังนั้น ประวัติศาสตร์จีน ฉบับมาตรฐาน หนา 504 หน้าเล่มนี้ จึงสมบูรณ์ อ่านง่าย ข้อมูลเปี่ยมสีสันด้วยชีวิตแท้จริงมากหลายทั้งแผ่นดินนอกกำแพงราชสำนัก ฉายภาพอารยธรรมเก่าแก่ชัดเจน ทั้งเจาะลึกการรุกราน เบียดเบียน จากจักรวรรดินิยม กดขี่ขูดรีดประชากรจีนและประชากรทั่วโลกอย่างรอบด้าน

ยังทันสมัยด้วยเอกสารแนบท้าย 8 เรื่องในกระแสการเมืองสากลคือ เรื่องเขตปกครองตนเองซีจ้าง-ทิเบต, ทะไลลามะองค์ที่ 1-14, ซินเจียงกับชนเผ่าเวยอู้เอ่อ, กรณีเทียนอันเหมินหลังคอมมิวนิสต์ปกครองประเทศ, จีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวัน, หนังสือปกขาว เกาะเตี้ยวหยีเต่าเป็นดินแดนดั้งเดิมของจีน, ชีวประวัติ 10 จอมพล, ทำไมเลือกระบอบสังคมนิยม มีแต่พรรคคอมมิวนิสต์ที่เป็นพรรคนำ

นี่จึงเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ฉบับสาระบันเทิงคับเล่มที่พลาดไม่ได้

● แต่ที่พลาดไม่ได้เลยอีกเล่ม ซึ่งแสดงทั้งภูมิปัญญาบรรพบุรุษ กับความห่วงใยในอนาคตลูกหลานอย่างถูกมรรคถูกวิธี ก็คือหนึ่งในหนังสือ 100 เล่มที่คนไทยควรอ่านจาก “โครงการวิจัยเพื่อคัดเลือกและแนะนำหนังสือดีในรอบศตวรรษ” ทั้งเป็นหนังสือซึ่งเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหนังสือร้อยเล่มที่ถูกคัดเลือกมา

นั่นคือ หนังสือแสดงกิจจานุกิจ ของเจ้าพระยาทิพากรวงษ์ มหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) เจ้าพระยาพระคลังครั้งรัชกาลที่ 4 และผู้สำเร็จราชการในกิจการต่างประเทศสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งแปลจำหน่ายในกรุงลอนดอนปี 2413 มาแล้ว

หนังสือเล่มนี้ อดีตรัฐมนตรีศึกษาและนักการศึกษาคนสำคัญ สุกิจ นิมมานเหมินท์ นำมาพิมพ์ซ้ำในปี 2518 ขายดีจนต้องพิมพ์ซ้ำหลายครั้ง เขียนคำนำถึงเจตนาเจ้าพระยาผู้เขียนว่า “…ท่านเลือกสรรเอาแต่สิ่งซึ่งขณะนั้นยังไม่เป็นที่ทราบกันทั่วไป เช่น ทางวิทยาศาสตร์ ทางภูมิศาสตร์ ทางศาสนาเปรียบเทียบ โดยที่ขณะนั้น พวกนักสอนศาสนาต่างประเทศเริ่มแสดงความหักหาญ โจมตีพุทธศาสนาว่าเป็นศาสนาล้าหลัง เหมาะสำหรับชนชาติด้อยพัฒนา

“ท่านเจ้าพระยาผู้นี้ จึงรวบรวมแก่นพุทธศาสนาและเหตุผลมาหักล้างข้อกล่าวหา คารมที่ท่านตอบพวกหมอศาสนา ทั้งที่เป็นชาวเยอรมันและอเมริกัน ทำให้พวกเขาต้องยอมจำนนต่อคำชี้แจงและเหตุผลของท่านหลายข้อ เมื่อท่านรวบรวมข้อความต่างๆ ของท่านเสร็จเรียบร้อย บรรดาโรงพิมพ์ต่างๆ ซึ่งส่วนมากเป็นของพวกมิชชันนารีต่างก็รังเกียจ เห็นว่าหนังสือของท่านขัดขวางต่อวิธีการเผยแผ่ศาสนา และหาคนไทยเข้ารีตของเขา จึงรวมหัวกันไม่ยอมรับพิมพ์ โดยอ้างว่าเป็นหนังสือไม่เหมาะ ขัดหลักการและวัตถุประสงค์ของโรงพิมพ์เขา…”

เจ้าพระยาจึงต้องตั้งโรงพิมพ์ขึ้นเอง เป็นโรงพิมพ์หิน ใช้หินอ่อนสลักเป็นแม่พิมพ์ 390 หน้า พิมพ์ออกมาขาย 200 เล่ม ในราคาไม่หวังกำไร คนชอบก็หาอ่าน คนที่ไม่ชอบยิ่งต้องหาอ่าน นักเขียนฝรั่งบางคนนำความเรื่องพุทธศาสนาในสยามจากเล่มนี้ไปอ้างถึงอีกด้วย

เห็นไหมว่า คนไทยแต่ก่อนกลัวฝรั่งเสียที่ไหน ไม่เหมือนคนไทยทุกวันนี้

ยิ่งอ่านคำนำของเจ้าพระยาที่ห่วงใยความรู้ลูกหลานยิ่งซาบซึ้ง ยิ่งเห็นว่าวิถีการศึกษาเรียนรู้ของไทยขาดการต่อเนื่องอย่างสำคัญ ด้วยเหตุจากการแย่งชิงอำนาจการนำของบรรดาเผด็จการทหารที่ไร้ความคิดในการปกครอง ได้แต่จำกัดการพัฒนาสติปัญญาของสังคมอย่างสายตาสั้น

ท่านแต่ก่อนมีความรู้ ใช้ความรู้ที่มีถกเถียงโต้แย้งต่างชาติด้วยภูมิปัญญาตนอย่างองอาจ ทั้งเข้าใจพระศาสนา ต่างกับคนปัจจุบันที่เกาะกระพี้ปกป้องพระศาสนาอย่างเถลือกไถล เอาสีข้างถูจนแดงเถือกไปหมด ชนิดไม่รู้จักศีลไม่เข้าใจธรรม จึงไม่มีปัญญาอะไรไปสู้รบปรบมือฝรั่ง ไม่ว่าเรื่องใดๆ

● ความเจริญทางวัตถุผ่านการคิดค้น วิทยาศาสตร์ การแพทย์ ฯลฯ จากการทดลองนานาประการ จนถึงยุคเทคโนโลยีสื่อสารที่กระโดดไปในอนาคต วันนี้ บางเวลา เราอาจต้องเหลียวหลังไปทบทวนอดีตว่า เราผ่านวันเหล่านั้นมาอย่างไร

นักวิทย์ (คิด) เปลี่ยนโลก กับสิ่งประดิษฐ์ชิ้นแรก จากการค้นคว้ารวบรวมโดย กานท์ สิมมาเขต บอกความเป็นมาของนักวิทยาศาสตร์นักประดิษฐ์ลือชื่อทั่วโลก กับงานชิ้นสำคัญที่เปลี่ยนวิถีชีวิตมนุษย์ ผ่านอุปสรรคนานา การค้นพบ และเกร็ดความรู้ต่างๆ บนเส้นทางการค้นคว้าเหล่านั้นมาอย่างไร

จากการมาถึงของรถไฟฟ้า การสื่อสารชั่วกะพริบตาทางอินเตอร์เน็ต เทคโนโลยีที่เดินทางในจักรวาล ย้อนไปถึงการข้ามโลกด้วยเครื่องบิน ไฟฟ้า จนถึงการเกิดล้อ กระทั่งการกะเทาะหินเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ มนุษย์ผ่านเส้นทางคิดค้นมายาวนานนับแสนปี และวันนี้ เรายังเสพสิ่งอะไรอยู่บ้าง

กระดาษ (ไช่หลุน) กล้องจุลทรรศน์ (อันโตนี ฟัน เลเวินฮุก) กล้องโทรทรรศน์ (ฮันซ์ ลิปเปอร์ ฮาย) กางเกงยีนส์ (ลีวาย สเตราส์) การถ่ายทอดลักษณะพันธุกรรม (เกรเกอร์ โยฮัน เมนเดล) คลื่นวิทยุ (ไฮน์ริช รูดอล์ฟ เฮิรตซ์) คอมพิวเตอร์ (จอห์น ดับบลิว เมาชลี) เครื่องกำเนิดไฟฟ้า-แบตเตอรี่ (อเลซานโดร โวลตา) เครื่องคำนวณบวกเลขลบเลข (เบลส ปาสคาล) เครื่องซักผ้า (อัลวา จอห์น ฟิสเซอร์) ฯลฯ กับสิ่งประดิษฐ์อีกมากที่เราใช้สะดวกสบายอยู่ในปัจจุบัน

● เรื่องราวซึ่งถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ที่เปี่ยมความหมาย อบอุ่น จากประสบการณ์เรียบง่าย แต่รุนแรงจนต้องหลั่งน้ำตา หัวใจ ใบชา ความรัก (Every Day a Good Day-2561) นำเนื้อหามาจากบทความเรียนรู้ชีวิตผ่านพิธีชงชาอันประณีต ละเมียดละไม ผ่านฤดูกาลกับธรรมชาติที่งดงาม จนกลายเป็นบทเรียนของ ทุกวันเป็นวันที่ดี : ความสุข 15 ประการที่การชงชาสอนฉัน ของผู้สื่อข่าวและนักเขียนบทความ โมริชิตะ โนริโกะ ผู้เรียนชงชามากว่า 25 ปี แปลโดย ศิริพร คดชาคร จนแทบได้กลิ่นชารวยรินผ่านอักษรออกมา

จากการเรียนด้วยความรู้สึกต่อต้านและคลางแคลง หลังถูกแม่คะยั้นคะยอให้ไปเรียนกับป้าทาเคดะซึ่งคุณแม่ชื่นชม เพราะเห็นเป็นศิลปจากวัฒนธรรมโบราณคร่ำครึ ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์มากมายและพิธีรีตองหยุมหยิมไร้เหตุผล ซ้ำคุณป้าก็บอกเพียงขั้นตอนปฏิบัติอย่างเคร่งครัดโดยไม่มีอรรถาธิบาย

มิหนำ เมื่อฤดูกาลเปลี่ยน ทั้งอุปกรณ์และขั้นตอนการปฏิบัติก็เปลี่ยนตามไปหมด ต้องเริ่มเรียนทุกอย่างใหม่ ยากจะจดจำและทำความเข้าใจโดยไม่สับสนได้

ครั้นเวลาผ่านไป ตั้งแต่เรียนจบไม่มีงาน มีความรักและเลิกรา การงานที่วุ่นวาย แยกจากครอบครัวมาอยู่ลำพัง ดิ้นรนหาทางเดินชีวิต คนที่รักจากไป ฯลฯ จากทุกวันเสาร์ที่เรียนชงชากับคุณป้าจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เธอกลับพบความเข้าใจวิถีการดำเนินชีวิตผ่านการชงชา เกิดหนังสือประโลมใจเล่มนี้ขึ้นมา

● ราชานิยายเขย่าขวัญยังขยันเขียนหนังสือไม่รามือ ประมาณว่างานเขียนทั้งหมดขายได้ทั่วโลกแล้วกว่า 400 ล้านเล่ม จนเมื่อสามปีก่อนก็มีอีกเรื่องที่ชวนให้นักอ่านปวดเศียรเวียนเกล้า ว่าวางโครงเรื่องแบบนี้ จะเฉลยออกมาแบบไหน

ดิ เอาต์ไซเดอร์ (The Outsider) คนนอก – แต่มิใช่ คนนอก อันลือลั่นของ อัลแบร์ กามูส์ ยอดนักเขียนฝรั่งเศส เป็นคนนอกของ สตีเฟน คิงส์ (กรณีนี้ น่าปรารภไว้ในที่นี้หน่อยว่า ย้อนเวลาวงวรรณกรรม
สัก 3 ทศวรรษลงไป เมื่อก่อนจะระวังกันมากเรื่องการตั้งชื่อเรื่อง หรือนามปากกา ไม่ให้ซ้ำหรือพ้องกับที่มีผู้ใช้มาก่อนแล้ว เป็นการเคารพหรือให้เกียรติกัน ครั้งล่าสุด (ก็ร่วมสี่ห้าสิบปีแล้ว) ที่เป็นข่าวอยู่หลายวันคือชื่อหนังสือ หัวใจที่มีตีน ของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ กับชื่อ หัวใจมีตีน ของ พ.ต.ต.ประชา พูนวิวัฒน์ นักเขียน
บรรทัดละ 8 บาท ซึ่งความหมายเดียวกัน แต่คำต่างกันเพียงพยางค์เดียว – ปัจจุบันดูว่าจะไม่ใส่ใจกันกับเรื่องนี้แล้ว – ไม่รู้ว่าเพราะไม่รู้ หรือไม่คิด หรือไม่ให้ความสำคัญ)

นิยายซึ่งแปลโดย อนุตรา มหาเดชน์ เล่มนี้ เป็นเรื่องของเด็กชายวัยสิบเอ็ดปี ที่เสียชีวิตในสวนสาธารณะโดยมีร่องรอยถูกกระทำชำเรา ผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมอย่างรวดเร็ว เพราะมีหลักฐาน ลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ และพยานผู้รู้เห็นชัดเจนแน่นหนา แต่ผู้ต้องสงสัยกลับมีหลักฐานแก้ต่างยืนยันอย่างโต้แย้งไม่ได้เช่นเดียวกัน ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นผู้กระทำ ที่จะอยู่สองสถานที่ในเวลาเดียวกัน

ถ้าอยากรู้ก็ต้องหาอ่านให้กระจ่างใจเองแล้ว

● นักเขียนเรื่องระทึกขวัญ สืบสวนสอบสวน อาชญนิยายเลื่องชื่อ โดยเฉพาะชุดนักสืบ “อเล็กซ์ ครอส” ที่นักอ่านเรื่องแปลไทยรู้จักก็ร่วม 20 เล่มเข้าไปแล้ว ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกแทบไม่อยากนับ เจมส์ แพตเตอร์สัน เป็นนักเขียนคนแรกที่ขายอี-บุ๊กได้มากกว่า 1 ล้านเล่ม และมีรายได้จากงานเขียน งานที่ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ หนังชุด ไปทำเกม ฯลฯ มากกว่า 2,700 ล้านบาท

จะเกิดอะไรขึ้น หากแพตเตอร์สันจับมือเขียนหนังสือร่วมกับอดีตประธานาธิบดีคนที่ 42 ของสหรัฐ (2536-2544) ซึ่งคนรู้จักทั่วโลก บิล คลินตัน

ที่เกิดขึ้นก็คือนิยายเขย่าขวัญซึ่งพลาดไม่ได้ ประธานาธิบดีหายไปไหน (The President is Missing – 2561) เมื่อผู้นำซึ่งเคยพำนักในทำเนียบขาว รู้เส้นสนกลในของเรื่องราว และสถานที่สำคัญต่างๆ ราวเส้นสายในฝ่ามือ ทั้งคิดร่วมและถ่ายทอดข้อมูล สร้างเรื่องราวร่วมกับนักเขียนเจ้าของโครงเรื่องกับเนื้อหาลึกลับซับซ้อน หลอกล่อให้ผู้อ่านติดตามมาได้นานหลายทศวรรษ จึงย่อมพิสดารสุดสุด

อนุตรา มหาเดชน์ เป็นผู้แปลเล่มนี้อีกเรื่อง

● หนังสือสำคัญของโลกอีกเล่ม ซึ่งมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้เรื่องเพศอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะเนื้อหาซึ่งสืบสาวย้อนกลับไปได้ถึงเกือบ 3 พันปี กามสูตร ของ วาตสยายน แปลโดย หนุมาน กรรมฐาน ปกแข็ง พิมพ์ล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว

เนื้อหาคำสอนทางกามศาสตร์ของ “นนทิ” นี้ ถูกบอกเล่าต่อๆ กันมาตั้งแต่ 800 ปีก่อนคริสตกาล กระจัดกระจายแยกออกไปตามแต่ละหัวข้อ และผู้บอกเล่าที่ถ่ายทอดแต่ละหัวข้อเหล่านั้น จนเมื่อถึง 400 ปีก่อนคริสตกาล “วาตสยายน” ได้รวบรวมความทั้งสิ้นที่ปรากฏ ทั้งประกอบความเห็นของตนลงไป เรื่องเหล่านั้นจึงกลายเป็น “กามสูตร” ซึ่งถือเป็นวรรณกรรมแสดงสัมพันธ์ทางเพศของมนุษย์อันเก่าแก่ที่สุดจากอารยธรรมเท่าที่มีอยู่ขณะนี้

ในยุคคอมพิวเตอร์ซึ่งมีห้องแสดงภาพเคลื่อนไหวของปฏิกรรมทางเพศนับร้อยนับพัน หนังสือเล่มนี้ยังมีความลึกซึ้งกว่าการแสดงท่าผาดโผนเร้าใจอย่างผิวเผินชนิดเทียบความละเอียดอ่อนไม่ได้
ต้องลองเรียนรู้ดู เพราะนี่คือภูมิปัญญาแขนงหนึ่งของมนุษยชาติ

บรรณาลักษณ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image