ตู้หนังสือ : สูญถังสิ้นบัลลังก์ซ่ง ไม่ใช่ชายชรากับทะเล

ตู้หนังสือ : สูญถังสิ้นบัลลังก์ซ่ง ไม่ใช่ชายชรากับทะเล

 

สูญถังสิ้นบัลลังก์ซ่ง

ไม่ใช่ชายชรากับทะเล

Advertisement

มิใช่นักเขียนนามอุโฆษระดับรางวัลโนเบลชาวอเมริกัน ผู้ทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการอมปากกระบอกปืนกระดิกไกนาม เออร์เนสท์ เฮมมิงเวย์ เจ้าของงานอมตะ ดิ โอลด์ แมน แอนด์ เดอะ ซี (The Old Man and The Sea) ซึ่งเขียนที่คิวบา ปี 2494 ตีพิมพ์ปี 2495 และสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องเอก ปี 2501 แสดงโดยดาราตุ๊กตาทอง สเปนเซอร์ เทรซี่ ที่ทั้งหนังสือและหนังรู้จักกันในพากย์ไทยว่า เฒ่าผจญทะเล จนถึงปัจจุบัน ยังถูกสร้างเป็นทั้งการ์ตูน หนังสีน้ำ หนังสารคดี รับรางวัลต่อเนื่องกันมานับสิบๆ รางวัล ซึ่งแสดงว่าโลกยังไม่มีวันลืมงานชิ้นนี้

ชีวิตของชายชรา ปลา สภาพแวดล้อม ความคิด ความรู้สึก ซึ่งขับเคี่ยวกันอย่างไม่ลดละกลางมหาสมุทร สะท้อนตรรกะรูปธรรมนามธรรมนานาประการเมื่อยังมีลมหายใจ ที่ยังหาอ่านหาชมอยู่ได้จนเดี๋ยวนี้

Advertisement

แต่ “The Old Man and SEA” เรื่องนี้ เป็นเรื่องของชายที่ไม่ชราไปตามวัย 80 ปีกับอุษาคเนย์ (SEA : South-East Asia) ไม่ใช่ทะเล นั่นคือเรื่องของ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการ ม.ธรรมศาสตร์ ผู้ก่อตั้งโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา (SEAS) คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

เป็นหนังสือน่าอ่าน ชายชรากับอุษาคเนย์ The Old Man and SEA 80 ปีการโต้คลื่นลมชีวิต (ประวัติศาสตร์และความคิด) ของอาจารย์ชาญวิทย์ อันน่าจับต้องศึกษาเรียนรู้อย่างยิ่ง ที่วางแผงให้เห็นมหสัมพันธ์ยาวนานระหว่างคนกับสังคม ระหว่างมนุษย์กับประวัติศาสตร์ และความคิดวิศวกรรมการเมือง (ฟังดูเท่ระเบิด-แต่ที่จริงไม่มีอะไรมากไปกว่า การเรียนรู้ประวัติศาสตร์กลวิธีหาเหตุทำรัฐประหารข่มขืนประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่องเท่านั้นเอง)

เป็นหนังสือดี มีครูบาอาจารย์ชั้นนำมาให้ความคิดมากมาย กระทั่งผู้กำกับหนังก็ยังเขียนถึงแรงบันดาลใจที่ได้รับจากที่พึ่งทางความคิดของนักเรียนนักศึกษาและผู้คนในสังคมนามนี้

● บทเรียนประวัติศาสตร์อีกบทบอกว่า มหาอาณาจักรไม่ว่าจะยิ่งใหญ่รุ่งโรจน์ปานไหน ก็มีวันอับเฉาโรยรา เช่นตัวอย่าง มหาอาณาจักรถังอันเรืองรองในประวัติศาสตร์จีน กินช่วงยาวนานถึง 289 ปี มีนครฉางอานเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของโลก ซึ่งมีประชากรมากถึง 1 ล้านคน รุ่งเรืองทั้งด้านการปกครอง ชีวิตความเป็นอยู่ผู้คน สถาปัตยกรรม ศิลปวรรณกรรมกวี ประดิษฐกรรมนานา แต่ในที่สุดก็พบจุดจบจากการก่อกบฏปลายราชวงศ์นำไปสู่ความเสื่อมทราม

จ้าวอี้ เริ่มเรื่อง ตะวันลับแห่งต้าถัง เมื่อ 100 ปีก่อนล่มสลาย วาดภาพให้เห็นเรื่องที่มักเป็นเหตุแห่งความทรุดโทรม ซึ่งไม่มีอะไรมากไปกว่าความโฉดเขลาของผู้ปกครอง ความฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ ไม่สนใจจะใช้คนให้ถูกเรื่อง ปล่อยขุนนางแสวงอำนาจและผลประโยชน์ ละเลยความเป็นอยู่ของราษฎร ที่สุดย่อมพังทลาย และเช่นเคย จากการที่ประชาชนลุกขึ้นมาก่อกบฏ

เรืองชัย รักศรีอักษร แปลเรื่องที่เขียนราวนิยายนี้ให้อ่านสนุก เพื่อเข้าใจว่าการเมืองการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่คนคนเดียวปกครองคนนับล้านๆ เพียงอาศัย ขันที ขุนนาง อำมาตย์ที่หากไม่สัตย์ซื่อ ใช้อำนาจไม่เป็นธรรม ไม่ว่าอาณาจักร หรือจักรวรรดิจะยิ่งใหญ่ปานใด ก็ล้มสลายไปได้ง่ายๆ อย่างไม่อาจฉุดรั้ง

● อ่านเรื่องราชวงศ์ถังแล้วผ่านมหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ลงหลักปักฐานให้ราชวงศ์รุ่งเรืองไปย่อมไม่ได้ วิถีแห่งอำนาจ หลี่ซื่อหมิน ถังไท่จง จากการเขียนของผู้ค้นคว้าวิถีอำนาจระดับบรม เสถียร จันทิมาธร จะยิ่งฉายชัดให้เข้าใจว่า มนุษย์ยิ่งใหญ่ขึ้นได้อย่างไร ปกครองแบบไหนที่ถือว่าครองใจประชาราษฎร์

หนังสือให้ภาพตั้งแต่แผนและขั้นตอนการขึ้นครองบัลลังก์จากการถูกกล่าวหาให้ร้ายอย่างเลื่อนลอย เห็นราษฎรถูกข่มเหงรีดนาทาเร้น กระทั่งเมื่อครองบัลลังก์แล้ว ยังเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม จะต้องใช้ความคิด วิธีการ กุศโลบาย และเป้าหมายการปกครองแบบไหน จึงบริหารแนวทางเหล่านั้นเพื่อยึดกุมอำนาจได้เหนียวแน่น และยังได้รับเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญตามมา

หลักบริหารอำนาจ และจัดการปกครองอายุพันปีเหล่านั้น โดยเฉพาะหลักการความคิดของฮ่องเต้เอง เพียงแค่เรื่องกระจกส่องตนเรื่องเดียว นำมาเปรียบเทียบการบริหารปกครองปัจจุบัน ก็เทียบกันไม่ได้เสียแล้ว อนิจจังอนิจจา…

● และเมื่ออาณาจักรขนาดต้าถังยังล่มได้ เมื่อล่วงยุคราชวงศ์ซ่ง อันเป็นช่วงความแตกแยกที่มืดมน แต่แม้บรรดาผู้ปกครองจะอ่อนแอ ก็เกิดนักคิดและขุนศึกจำนวนมาก หันวิถีการปกครองไปใช้บุ๋นคือวิชาการความคิดนำ ทำให้เศรษฐกิจเริ่มเฟื่องฟู แต่กลับไม่พอเลี้ยงดูบรรดาฮ่องเต้และขุนนางที่ฟุ้งเฟ้อ ราชสำนักเกลื่อนด้วยผู้คนที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง สั่งสมผลประโยชน์ เกิดเสียงเรียกร้องการปฏิรูปขึ้นช่วงสั้นๆ ท้ายที่สุดจึงยังหนีไม่พ้นการล่มระเนนลงอย่างน่าสะเทือนใจ

จ้าวอี้ เขียน สูญสิ้นบัลลังก์ซ่ง ไว้น่าอ่านให้ เรืองชัย รักศรีอักษร แปลอย่างเพลิดเพลินเช่นเคย ประวัติศาสตร์จีนติดต่อกันสองช่วงนี้ให้บทเรียนมากมายที่มนุษยชาติจำนวนน้อยไม่อยากจดจำ โดยเฉพาะบรรดาฝ่ายปกครองที่หมักหมมกิเลส สั่งสมสถานะอันเป็นที่มาของวัตถุ ไม่เห็นอาณาประชาราษฎรอยู่ในสายตา นอกจากเป็นเลือดเนื้อให้สูบกิน

● และไม่เพียงมหาอาณาจักรตะวันออกอันยิ่งใหญ่เท่านั้น ทิศอัสดงก็มีอาณาจักรมากมายที่ล่มล้ม นิยายที่เกิดขึ้นช่วงต้นศตวรรษที่ 15 เรื่องนี้ คราแผ่นดินสิ้นกษัตริย์ ของนักเขียนรางวัลโนเบลชาวเดนมาร์กปี 2487 โยฮันเนส วี. เยนเซน ซึ่งนิวยอร์ก ไทม์ส กล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2476 ว่า หนังสือเล่มนี้ “กล่าวถึงช่วงเวลาแห่งการสิ้นสลายอย่างมีชีวิตชีวา และน่าอัศจรรย์ สมรรถนะแห่งถ้อยคำและภาษาดังบทกวี เป็นสิ่งดึงดูดให้ไปสู่จุดหมายอย่างมีพลัง”

เขียนจากเหตุการณ์นองเลือดในสตอกโฮล์มเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2063 (สมัยพระเชษฐาธิราช กรุงศรีอยุธยา พ.ศ.2034-2072) หลังพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์ คริสเตียนที่ 2 ของสหภาพคาลมาร์ (เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน) แขกในงานเลี้ยงรับมงกุฎได้รับเชิญให้เข้าร่วมที่ปราสาทของอาร์ค บิชอป อัครมุขนายกเวลานั้น คนเกือบร้อยถูกจับเรียงแถวเข้าหลักประหารตามลำดับยศ ตำแหน่ง รวมถึงบรรดาขุนนาง ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ คือที่มาของหนังสือชิ้นเอกเล่มนี้

หนังสือเรื่องนี้เป็นงานชิ้นสำคัญที่ถูกโหวตลงมติถึง 2 ครั้ง ให้เป็นงานประวัติศาสตร์ซึ่งดีที่สุดของสแกนดิเนเวียน จากนักวิจารณ์ สำนักพิมพ์ และนักอ่านทั่วไป จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยมินเนโซตา เพรส ผู้พิมพ์หนังสือเล่มนี้เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นต้นฉบับแปลไทยโดย นิรัติศัย หล่ออรุโณทัย วางแผงเมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้เอง หลังจากตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2443 และสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมินเนโซตา สหรัฐ นำมาพิมพ์ใหม่ในอเมริกากับอังกฤษ เมื่อเร็วๆ นี้

เป็นหนังสือนิยายประวัติศาสตร์ที่ถือว่าบอกเล่าประวัติศาสตร์ได้ดีเยี่ยม ไม่น่าพลาดงานซึ่งตะวันตกถือเป็นมหากาพย์ของเหตุการณ์จริงอันน่าศึกษานี้

● ไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา เกาหลีใต้กลายเป็นอีกประเทศที่เรารับเรื่องและวัฒนธรรมเข้ามาเต็มๆ ได้เงินบาทจากเราไปมากมายจากการเดินทางไปท่องเที่ยว เพลง ดนตรี และหนังชุด เผลอๆ อาจรู้ประวัติศาสตร์เกาหลีหลายช่วงตอนเสียยิ่งกว่าประวัติศาสตร์ไทยซึ่งมีแต่รบกับพม่าอย่างเดียวจากหนังชุดโบราณหลายเรื่องด้วยซ้ำ

ดังนั้น จะมากจะน้อย ยามที่รัฐบาลอเมริกันกำลังยั่วยุมหาอำนาจตะวันออกในหนทางต่างๆ เพราะกำลังเพลี่ยงพล้ำทั้งอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองในวงกว้าง จากการเสื่อมถอยความน่าเชื่อถือลงเรื่อยๆ อันเนื่องจากการเข้าไปวุ่นวายกับบ้านเมืองต่างๆ หาเรื่องรบรากับเขามานานาลักษณะ และพยายามปิดล้อมตะวันออกที่เห็นเป็นคู่ปรปักษ์ เราจึงควรรู้จักเกาหลีให้มากขึ้นหน่อย ว่ายามหน้าสิ่วหน้าขวานนี้ เกาหลีใต้ที่อยู่ติดเกาหลีเหนือกับจีนเป็นอย่างไร

สงครามเย็นในแดนโสม วิกฤตที่ยังไม่สิ้น ของ อนุช อาภาภิรม ด้วยการรวบรวมบทวิเคราะห์ของผู้เขียนจากคอลัมน์ “วิกฤตศตวรรษที่ 21” ใน มติชนสุดสัปดาห์ ของผู้เขียน มาให้เห็นเกาหลีใต้ในหลายมิติยิ่งขึ้น ตั้งแต่การเกิดขึ้นของประวัติศาสตร์ชาติเกาหลี ภูมิศาสตร์ รกราก และถิ่นฐาน ตลอดจนความขัดแย้งในปัจจุบัน ซึ่งซับซ้อนและเต็มไปด้วยความสูญเสียนานัปการ

● มาถึงงานสำคัญของอาจารย์ เชษฐ์ ติงสัญชลี ที่ขาดตลาดไปนานถึง 13 ปี ลวดลายในศิลปะทวารวดี ที่มีลวดลายในยุคร่วมสมัยเดียวกันนั้นครบถ้วนที่สุด ด้วยการเปรียบเทียบกับประเทศต้นแบบ หรือที่มาของต้นวัฒนธรรมดังกล่าวจากอินเดีย ไม่ว่าสมัยคุปตะหรือวกาฏกะ ด้วยการเก็บข้อมูลมาถี่ถ้วนจากรัฐมัธยประเทศ พิหาร และมหาราษฎร์ ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงที่มาที่ไป

ซึ่งการศึกษาพบว่า ลวดลายมีหลายประเภท เช่น ลายกนกผักกูด ลายประจำยามก้ามปู ลายก้านขด เป็นต้น ที่เมื่อวิจัยแล้วก็พบว่า ลวดลายเหล่านั้นได้รับอิทธิพลจากถ้ำอชันตะอันเลื่องชื่อ ยิ่งกว่าจะได้รับจากศิลปสมัยคุปตะ

นำมาพิมพ์ใหม่ด้วยกระดาษอาร์ตสีอย่างดี ประณีต จึงงดงามน่าอ่านน่าชมทั้งเล่ม

● การดูฤกษ์ดูยาม วิชาโหราศาสตร์ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตมนุษย์มายาวนาน คงตั้งแต่ยุคสมัยนับถือผี นับถือไฟ นับถือศิโรราบต่อสิ่งอธิบายไม่ได้ กระทั่งเรียนรู้วิถีดวงดาว คำนวณหน้าตาลักษณะผู้คนจนสามารถรวบรวมเป็นสถิติเป็นศาสตร์มายาวนานนับร้อยปีพันปี ไม่ว่าจะทางตะวันตกหรือทางตะวันออก จนแม้แต่ไทยเอง

การเรียนรู้โหราศาสตร์จึงเป็นอีกวิชาซึ่งสามารถทำมาหากินได้ดีทีเดียว

ประมวลตำราโหราศาสตร์และการให้ฤกษ์ ของ พันตรีหลวงวุฒิรณพัสดุ์ (วุฒิ วิเศษจินดา) ฉบับรวมเล่มครั้งแรกไม่กี่วันนี้เอง พิมพ์ปกแข็งสันโค้งเย็บกี่อย่างดี เป็นตำราสำคัญควรแก่การศึกษา ไม่ว่ามืออาชีพหรือสมัครเล่นที่เรียนรู้เอาเพลิดเพลิน ประกอบด้วย วิชาโหราศาสตร์หลายหมวด เช่น การหาฤกษ์งามยามดี วิธีให้ฤกษ์ ยามวิเศษจินดา กาลจักรจรวิภาค ตำรากาลจักรลัคน์จร ตำราอินทภาษบาทจันทร์ ดวงหัตถศาสตร์ และวิธีสะเดาะเคราะห์ด้วยตนเอง (แจ่มมม)

แต่ละหมวดมีหลายบท หลายสิบเรื่อง รวมทั้งปฏิทิน 100 ปีเทียบศักราช อ่านดูแล้วจะเห็นว่า เป็นตำราวิชาการศึกษา มิใช่เรื่องไสยศาสตร์นึกเองเออเอง

● และจากนักเขียนซึ่งแปลไทยอย่างน่าอ่านมากมาแล้ว 2 เล่มคือ ยาพิษคือโอสถ กับ อะไรทำให้คุณไม่ใช่พุทธ ที่ช่วยให้หลายคนตื่นความคิดขึ้นมา

ซองซาร์ จัมยัง เคียนเซ เจ้าอาวาสวัดซองซา ซึ่งเกิดที่ภูฏาน มีหน้าที่รับผิดชอบและให้การศึกษากับภิกษุสงฆ์ในภูฏานกว่า 1,600 รูป มีหนังสือเล่มใหม่ให้คนไทยต้องอ่านต่อมาอีกเล่ม ที่ว่าต้องอ่านก็เพราะ คนไทยไม่น้อยในปัจจุบันที่ตั้งใจเดินทางไปอินเดียเพื่อสักการะสังเวชนียสถาน ซึ่งเป็นส่วนมากหรือทั้งหมดทีเดียว ที่ย่อมไปสักการะเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัว ขอพร ขอคุณพระรัตนตรัยได้ปกปักรักษา ฯลฯ น่าสงสัยไต่ถามอยู่ว่า มีไหมที่ไปเพื่อขอบคุณพระพุทธองค์ ด้วยกตัญญูและกตเวทิตาที่ทรงชี้แนะทางสว่างในการดำเนินชีวิตไว้แก่ชาวโลก และตนเอง

แต่นั่นมิใช่ข้อสงสัยไต่ถามในหนังสือเล่มนี้ จาริกในรอยบุญ สิ่งควรรู้ก่อนไปเยือนสังเวชนียสถาน ที่แปลโดย พินทุสร ติวุตานนท์ ย่อมเป็นประโยชน์กับผู้แสวงบุญทุกรูปนาม ช่วยให้เข้าใจวิธีทำบุญและได้บุญเต็มเปี่ยม โดยไม่ต้องอาศัยหรือใช้เงินทองกองโต-ว่าอย่างนั้น

ทั้งนี้ โดยผู้เขียนอธิบายว่า อะไรทำให้บุคคลหรือสถานที่มีความ “ศักดิ์สิทธิ์” อะไรคือการจาริกแสวงบุญ และเราควรปฏิบัติอย่างไรเมื่อไปเยือนสังเวชนียสถานทั้ง 4 ลุมพินี, พุทธคยา, สารนาถ, กุสินารา ทั้งในอินเดียและเนปาล หรือแม้แต่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ

อ่านเพื่อแสวงความเข้าใจในการแสวงบุญที่ถูกแท้

● นิตยสารการเมืองฉบับครอบครัว อ่านสนุกนั่งลุกสบาย มติชนสุดสัปดาห์ ผู้ที่เบื่อหน่าย รำคาญ เกมยื้ออำนาจซ้ำซากทางการเมืองวันนี้ เก็บไว้อ่านทีหลังยังได้ ย้อนอ่านบทสัมภาษณ์สุดท้ายของพระเอกตลอดกาลผู้ล่วงลับในวัย 85 ปีเมื่อไม่กี่วันก่อน สมบัติ เมทะนี ที่พูดถึงเด็กรุ่นใหม่อย่างน่าฟัง อ่านรายงานพิเศษรอยรั่วของภัทราวดี มีชูธน ที่ยอมรับว่าชีวิตจริงเคยเป็นนางร้าย และอ่านการทำโพลของ “เลิฟฮันนี่” ร้านขายเซ็กซ์ทอยชื่อดัง ที่เปิดเผยว่า เดือนไหนหนุ่มสาวอังกฤษมีอะไรกันบ่อยที่สุด โดยพิษณุ นิลกลัด

อ่านฮ่องกงแจกสุนทรพจน์ “สีจิ้นผิง” ที่กำลังเผชิญหน้ามหาอำนาจตะวันตกทั้งเข้มทั้งสุขุม ให้ครูโรงเรียนต่างๆ ได้เข้าใจ ศึกษา และเรียนรู้ แล้วอ่านการเคลื่อนไหวเรื่องเครื่องแบบอีกครั้ง ที่อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ บอกว่า ครั้งนี้เรื่องเครื่องแบบของนักเรียนนักศึกษามีสิ่งที่น่าสนใจด้านโลกทัศน์และชีวทัศน์ของผู้เคลื่อนไหวให้เห็นด้วย ฯลฯ ยังมีเรื่องประเทืองปัญญาและอารมณ์อีกหลายเรื่องในเล่ม ให้ผ่านสัปดาห์นี้ไปพบสัปดาห์หน้าว่าจะยุบหรือไม่ยุบ

หรือนักวิศวกรรมการเมือง (ยึดอำนาจ) จะมีเทคนิคอะไรหลอกล่อชาวบ้านให้ดูพิสดารกว่าหนัง “มาร์เวล” อีก

เจริญนคร โยม

บรรณาลักษณ์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image