ดร.บัญชา จรดปากกาเซ็นปก ‘ยกเมฆ’ เล่าเกร็ดเล็กบนท้องฟ้า ไขมุม ‘เทพธอร์’ หนังฮีโร่ค่ายดัง!
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-7 สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย และพันธมิตรร่วมจัดงาน งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 (Book Expo Thailand 2024) ในธีม “อ่านกันยันโลกหน้า” ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮออล์ 5-7 ตั้งแต่วันที่ 10-20 ตุลาคม โดยวันนี้เป็นวันที่ 10 ของการจัดงาน
เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบูธมติชน J02 ว่ามีผู้คนเข้ามาเลือกซื้อหนังสืออย่างต่อเนื่องในวันหยุดสุดสัปดาห์ อีกทั้งยังมีความสนใจหนังสือหลากหลายประเภท ทั้ง ศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสตร์สากล การเมือง วรรณกรรม หนังสือแปล ฯลฯ
ต่อมาเวลา 12.40 น. ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยี ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ MTEC (เอ็มเทค) ผู้เขียนหนังสือ “ยกเมฆ เรื่องเล่าเคล้าวัฒนธรรมก้อนเล็กๆ จากฟากฟ้า” เดินทางมาที่บูธสำนักพิมพ์มติชน เพื่อเลือกซื้อหนังสือ พร้อมพบปะพูดคุยและรับลายเซ็นจาก นายกิตติศักดิ์ คงคา ผู้เขียนหนังสือ “กาสักอังก์ฆาต” และ “โอปปาติกะอำพราง” อย่างใกล้ชิด
จากนั้นเวลา 13.00 น. ดร.บัญชา ผู้เขียนหนังสือ ยกเมฆ “เรื่องเล่าเคล้าวัฒนธรรมก้อนเล็กๆ จากฟากฟ้า” นั่งประจำบูธสำนักพิมพ์มติชน (J02) เพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยและแจกลายเซ็นให้กับแฟนหนังสือ
ดร.บัญชาเปิดเผยว่า ชื่อหนังสือ ‘ยกเมฆ เรื่องเล่าเคล้าวัฒนธรรมก้อนเล็กๆ จากฟากฟ้า’ เราจะเห็นในชื่อหนังสือคำว่า ‘ยกเมฆ’ ซึ่งปัจจุบันหมายถึง การกุเรื่องขึ้นมา แต่สมัยโบราณอย่างน้อย 200 ปีก่อน มันคือชื่อวิชาทำนายทายทัก โดยเฉพาะกษัตริย์ของแต่ละแคว้นเวลาจะสู้รบกัน
“เช่น สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไปชนช้างยุทธหัตถี หรือ ชนช้างกับพระมหาอุปราชา ซึ่งพระนเรศฯ ได้เห็นหมู่เมฆเป็นรูปเศวตฉัตร คนโบราณเขาเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดี และจะได้รับชัยชนะ หรือว่าในไกรทอง ขุนช้างขุนแผน ก็มีเรื่องราวเหล่านี้หมดเลย เพราะก่อนจะเดินทางออกไป ถ้าเกิดเจอเมฆสวยๆ จะถือว่าเป็นเรื่องดี เดินทางปลอดภัย แต่ถ้าเห็นเป็นรูปหัวกะโหลก หรือโลงศพ เดินทางออกไปก็อาจจะเจอเรื่องร้ายๆ” ดร.บัญชาระบุ
ดร.บัญชากล่าวว่า หนังสือเล่มนี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ หรือ การกำเนินวิชาอุตุนิยมวิทยา เช่น สมัย 2,000 ปีก่อน ยุคกรีก-โรมัน เขาคิดได้ละเอียดละออจากการสังเกต และสมมุติฐานดีมากในสมัยนั้น รวมถึงภาพการการทรงกลดโบราณ ภาษา หรือ วรรณกรรม เช่น เมฆพูด อีกด้วย
“ยกเมฆเล่มนี้ มันเป็นการผสานทั้งประวัติศาสตร์ ภาษา วรรณกรรม เข้ากับวิทยาศาสตร์ โดยผ่านก้อนเมฆและท้องฟ้า หัวใจมันอยู่ตรงนี้ ซึ่งผมค่อนข้างเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะอ่านได้ เพราะว่า มันไม่ใช่วิทยาศาสตร์ หรือประวัติศาสตร์อย่างเดียว แต่มันคละกันไปในทุกบท” ดร.บัญชาเผย
ดร.บัญชากล่าวว่า คนที่เคยดูหนังจากค่ายมาร์เวล (Marvel) จะคุ้นกับตัวละครเทพธอร์ ซึ่งเป็นเทพของพวกนอร์ส มีค้อนเป็นอาวุธ แต่ตามจริงแล้วต้องมีสายฟ้าเป็นอาวุธ ซึ่งพอนักวรรณคดีเปรียบเทียบเขาไปศึกษาเรื่องนี้ พบว่า พวกเทพต่างๆ ทั่วพื้นที่อินโด-ยูโรเปียน เช่น กรีก นอร์ส หรือ อินเดีย เขามีเทพที่มีสายฟ้าเป็นอาวุธหมดเลย ไม่ว่าจะเรียกว่า ‘ซูส’ ทางกรีก หรือ พระอินทร์ ทางอินเดียเป็นองค์เดียวกัน เพียงแต่ว่าไปอยู่คนละวัฒนธรรม จึงเปลี่ยนชื่อต่างกันออกไป แต่แก่นของเรื่องยังคงคล้ายๆ กัน
“หลายความเชื่อโบราณที่ฝังอยู่ในหลายอยู่ในหลายอารยธรรม บางทีมันก็เป็นเรื่องเดียวกันนะ ดังนั้นถ้าสมมติฐานนี้เป็นจริง หมายความว่า คราวหน้าถ้าเราดูหนังของมาร์เวล เฮ้ย นี่อาจจะเป็นพระอินทร์ของฝรั่ง ซึ่งเล่มนี้ก็จะให้มุมมองในแนวนี้ ที่ไม่ค่อยมีคนเขียนสักเท่าไหร่” ดร.บัญชาเผย
ดร.บัญชากล่าวว่า ผลตอบรับจากนักอ่านเขาก็จะบอกตรงกันว่า ปกสวยมาก หรือคนอีกจำนวนหนึ่งก็จะบอกว่าเนื้อหาน่าทึ่งมาก อ่านเพลิน ทั้งที่ปกติเขาไม่ค่อยอ่านแนวความรู้หรือวัฒนธรรมแบบนี้
“ยุคนี้หนังสือที่เป็นเล่มมันมีเสน่ห์ เราสามารถคว้าไปอ่านบนรถเมล์ รถไฟ หรือ เครื่องบน มันมีกลิ่น บางทีมันให้ประสบการณ์ที่ครบรส หรือบางคนก็ซื้อหนังสือเพราะความสวยงามของปก ไว้เก็บสะสมอยู่ ซึ่งตรงนี้การอ่านดิจิทัลมันยังให้ไม่ได้” ดร.บัญชากล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเลือกซื้อหนังสือจากสำนักพิมพ์มติชนที่บูธ J02 งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 (Book Expo Thailand 2024) ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮออล์ 5-7 ตั้งแต่วันที่ 10-20 ตุลาคม เวลา 10.00-21.00 น.
- อ่านข่าว : เสาร์แซ่บ! 4 นักเขียนรอเช็กอินบูธมติชน ล้อมวงฟัง ‘เรื่องจิตวายป่วง’ เย็นนี้
- เกือบหมดสต๊อก! ‘กิตติศักดิ์’ ชื่นใจเจอแฟนคลับ มองวรรณกรรม คือเครื่องมือเรียนรู้คน