สายมูมุงฟัง! ‘สมชาย’ เม้าท์เคล็ด-ชี้เป้าไหว้แก้ชง ‘ปีมังกร’ ย้ำ ให้ขอพรอย่าบน

แห่ฟังรับความปัง! สมชาย ชี้เป้าไหว้แก้ชง ‘มูฯ ปีมังกร’ เผย ‘ยุค 9’ หญิงวัยกลางคน จะออนท็อป

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่บาว คาเฟ่ อาคารซีเจ มอร์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์มติชน ร่วมกับ ซีเจ มอร์ จัดงานเสวนา ‘Bao Book: เม้าท์เรื่องมู ปีมังกรทอง’ นำพูดคุยโดย นายสมชาย แซ่จิว ผู้เชี่ยวชาญวัฒนธรรมจีนและวิทยากร ดำเนินรายการโดย น.ส.อัญชัญ พัฒนประเทศ

เวลา 13.00 น. ผู้บริหารมติชน และผู้บริหาร ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด เดินทางเข้าร่วมฟังเสวนา นำโดย น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการบริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายวีรธรรม เสถียรธรรมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป และผู้บริหารในเครือ อาทิ น.ส.นฤชล อธิธนบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป, นางชวรัตน์ พงศ์สถาพร รองกรรมการผู้จัดการ ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป, ผูกขวัญ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการและณัฐรุจา เปี่ยมสวัสดิ์ ผู้อำนวยการการตลาด เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในงาน มีประชาชนร่วมฟังเสวนาจำนวนมาก โดยเดินทางมายังบาว คาเฟ่ เพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมฟังเสวนาอย่างคักคึก ซึ่งภายในร้านตกแต่งด้วยโคมสีแดงและป้ายรูปมังกร เข้ากับเทศกาลเฉลิมฉลองตรุษจีน โดยช่วงเวลาระหว่างรับเครื่องดื่มและขนม จากบาว คาเฟ่ มีการเปิดให้สแกนคิวอาร์โค้ดสำหรับดาวน์โหลด ‘มติชนบันทึกประเทศไทย 2566’ รูปแบบอีบุ๊ก สำหรับประชาชนฟรี ก่อนที่จะเริ่มเสวนา

Advertisement

ในตอนหนึ่งของการเสวนา นายสมชาย ผู้เชี่ยวชาญวัฒนธรรมจีน กล่าวว่า สำหรับคนที่เข้าสู่ปีชง เพิ่งได้เข้าสู่ปีมังกร เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ ซึ่งบางตำราบอกว่าใส่สีเขียวแล้วจะดี แต่อีกสีที่มาแรงคือ สีแดงและสีม่วง

นายสมชายกล่าวว่า เทศกาลสำคัญสำหรับคนจีน มี 3 เทศกาลคือ ตรุษจีน เชงเม้ง และสารทจีน แต่วันที่สำคัญที่สุดสำหรับคนจีน คือตรุษจีน เนื่องจากมองย้อนกลับไปสังคมโบราณที่ทำเกษตร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ ซึ่งตรุษจีนเป็นจุดเริ่มของการทำเกษตรกรรม

Advertisement

“หากจะถามว่าทำไมต้องตรุษจีน นอกจากการเปลี่ยนปี อันโตนิโอ กรัมชี กล่าวว่า ‘เมื่อสิ่งเก่ายังไม่จากไป สิ่งใหม่ยังเกิดไม่ได้’ คนจีนมีแนวคิดเหมือนกันว่าจะมี ‘เหนียน’ ปีศาจกาลเวลาขึ้นมาจากทะเล ซึ่งมีอาม่าคนเดียวที่รู้วิธีจัดการ 3 อย่าง คือ สีแดง แสงไฟ และเสียงดัง จึงจะเห็นการประดับโคมและจุดประทัด ซึ่งนอกจากการเฉลิมฉลอง ยังสอดแทรกปรัชญาจีนอยู่” นายสมชายเผย

นายสมชายกล่าวว่า คนจีนจะมีการประดับชุนเหลียน กลอนคู่ติดตามประตู เขาจะคิดคำว่า ‘ฮก’ กลับหัวให้ไปพ้องคำว่า ‘เถาฝู’ ซึ่งหมายถึงให้โชคลาภมาถึง ซึ่งตนเคยไปเมืองไทเปมา ศาลเจ้าเขาจะมีการทำชุนเหลียนแจก โดยส่วนตัวปีที่แล้วติดแล้วโชคดีจริง ซึ่งสมัยก่อนถึงขนาดจะต้องใช้จอหงวนเขียน แต่สำหรับคนทั่วไปซื้อชุนเหลียนที่เยาวราชก็ได้ แต่เอาไปเปิดการใช้งาน (activate) วนกระถางธูปที่ศาลเจ้า

“ส่วนของไหว้ ขนม 5 อย่าง ธูป 5 ดอก และเทียน ซึ่งเป็นเรื่องความสะดวกของแต่ละบ้าน เช่น คนที่อยู่คอนโดเรา ไม่สะดวกเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ไม่เผาก็ไม่เป็นไร เอาไปทิ้งไว้ศาลเจ้าก็ได้ เข้ากับแนวคิดรักษ์โลกด้วย จากวันหลงซาน ที่ไต้หวัน ไม่มีจากจุดธูปแล้ว หรือจุดน้อยลง เป็นการจุดดอกเดียวยาว” นายสมชายระบุ

นายสมชายกล่าวว่า เวลาไหว้เทพเจ้าจีน ‘อย่าบน’ ไม่ว่าจะเป็นไทย ไต้หวัน จีน แต่ให้เป็นการขอ หากสำเร็จตามหวังค่อยกลับไปไหว้ขอบคุณท่าน ซึ่งมีหลักการไหว่อย่างง่ายคือ ไหว้เทพฟ้าดิน การแนะนำตัว บอกวันเกิด สามารถพูดเป็นภาษาไทยก็ได้

นายสมชายกล่าวอีกว่า ย้อนกลับมาที่เรื่องตรุษจีน นอกจากติดชุนเหลียนแล้ว อาหารที่เราต้องกิน ได้แก่ ปลา ป่อเปี๊ยะ ผลไม้มงคล ขนมเหนียนเกา ขนมเข่ง ขนมเทียน บะหมี่

สิ่งที่ไม่ควรทำในตรุษจีน คือ อย่ากริ้วโกรธ เขาถือว่าหากเราด่าใครจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งตลอดทั้งปี วันที่ 10 กุมภาพันธ์อย่ากริ้ว วันที่ 11 ค่อยกริ้ว หรือเขาห้ามใช้มีด กรรไกร หรือเข็ม มันจะเป็นการตัดโชคตัดลาภ

อย่านอนกลางวัน เพราะถือว่าจะขี้เกียจตลอดปี มื้อเช้าของวันนั้นอย่ากินโจ๊ก หรือข้าวต้ม ในมื้อเช้าวันนั้น เขาถือว่าเป็นอาหารของคน จะจนทั้งปี และอย่าให้เงินแต๊ะเอียเป็นเลขคี่ ซึ่งการให้เลขคู่หมายถึงความกลมเกลียว” นายสมชายชี้

นายสมชายกล่าวว่า เรื่องการถกเถียงปีชงที่เกิดขึ้น ไม่มีในพุทธศาสนา แน่นอนเพราะเป็นเรื่องของ ‘เต๋า’ ซึ่งเป็นเรื่องของดวงดาวและสถิติ โดยไท้ส่วยเอี๊ยแต่ละปีที่แตกต่างกัน เวลาคนจีนไปไหว้ หรือ แก้ชง เป็นการไปดีลกับไท้ส่วยประจำปี ให้เพลาลง ใจดีกับเราบ้าง

“เรามักจะพูดว่าชง 25 50 75 100 ไม่มี คนจีนมีแต่ชงตรง กับ ชงเฉียด เช่น ปีนี้ชงโดยตรง มะโรง จอ ฉลู เถาะ ซึ่งการชงมันหมายถึง มันขัดกันอยู่ อยากจะบอกว่าเราแก้ชงไม่ได้ แต่กันชงได้ หมายถึงหลีกเลี่ยง สำรวม ระวัง เช่น ปีจอ ชงโดยตรง พลังชีพอ่อนมีการเลี่ยงโดยไม่ไปเยี่ยมโรงพยาบาล งานศพ หรือวิธีแก้ชงที่ดีที่สุดคือการใช้ชีวิตแบบคุณภาพ และคุณธรรม ดวงอาจจะเอาชนะปีชงได้” นายสมชายเผย

นายสมชายกล่าวว่า ส่วนการไปวัด ศาลเจ้าไหว้ เป็นเรื่องของความสบายใจ แต่วิธีที่ดีที่สุดคือปัดอวิชชาออกไป เลี่ยงการโกรธกริ้วสิ่งไม่ดี ซึ่งหากคุณอายุ 50-60 ปี จะรู้ว่าแต่ก่อนไม่มีการปัดชง

นายสมชายกล่าวอีกว่า สิ่งที่สำคัญมากสำหรับปีนี้ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง คือโบราณจะแบ่งยุคละ 20 ปี 9 ยุค รวม 180 ซึ่งปีนี้เป็น ‘จิ่วอวิ๋น’ เป็นการเปลี่ยนจากยุค 8 เข้าสู่ยุค 9 ตกอยู่ในยุคธาตุไฟ ซึ่งฮวงจุ้ยต่อจากนี้ 20 ปีจะเกี่ยวกับความสว่างไสว ยุคความรู้ใหม่ เช่น AI และ โลกออนไลน์ กำลังจะมาแรง

ยุค 9 เป็นยุคแห่งผู้หญิงวัยกลางคน ประมาณ 30-55 ปี ซึ่งจะขึ้นมาบทบาทในทุกวงการ เขาบอกว่าธุรกิจที่จะมาแรงอีก 20 ปี คือ ธุรกิจความงามจะมา ธุรกิจคลายความเหงา เช่น สัตว์เลี้ยง จิตแพทย์ และด้านศิลปวัฒนธรรม คนจะเริ่มกลับไปแสวงหาสิ่งที่อยู่ในจิตคน และอาวุธ” นายสมชายระบุ

นายสมชายกล่าวว่า คำแนะนำสำหรับสถานที่การไหว้ นาจา เห้งเจีย เชื่อว่าท่านจะให้สติ เรื่องการงานไหว้ กวนอู เทพแห่งความซื่อสัตย์ เฮียงเทียนเซียงตี่ (เจ้าพ่อเสือ) มักจะมีการไหว้ขอเรื่องลูก ส่วนการไหว้ ฮั่วฮะหน่อเซียง เรื่องความรักและความกลมเกลียว

“โจวซือกง ย่านตลาดน้อย ขอเรื่องสุขภาพ รวมถึงวัดธรรมกตัญญู (เสียนหลอไต้เทียนกง) สามารถขอได้ทุกเรื่อง เพิ่งเปิดคนยังไม่ค่อยรู้จัก แต่ขลังมาก ซึ่งกำลังมติชนเปิดทัวร์พาชมอยู่ ที่จะพาไปมูทั้งวัน” นายสมชายกล่าวเสริม

นายสมชายกล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งที่พูดคุยทั้งหมด อย่างที่บอกว่า เทพเป็นบ่าว คนเป็นนาย คนจีนมักจะมีคำพูด เลข 7 กับ เลข 3 กล่าวคือ ลิขิตฟ้าแค่ 30 แต่อีก 70 เราต้องลงมือทำเอง เราควรยึดหลักคุณธรรมที่ท่านทำมากกว่า เช่น เจ้าพ่อกวนอู เทพแห่งความซื่อสัตย์ เอาสิ่งที่เทพทำมาปฏิบัติตาม แล้วจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น

ทั้งนี้ ช่วงท้ายของการเสวนา มีการเปิดให้ร่วมถาม-ตอบ พร้อมแจกของมงคลที่ระลึกจากไทเป อาทิ เจ้าแม่ทับทิม และ โจวซือกง ให้แก่ผู้ร่วมฟังเสวนาอีกด้วย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image