อายุวีรชนหนุ่มสาว จากนิยายและโลกจริง

อายุเป็นข้อมูลสำคัญประการหนึ่ง ในการพิจารณาพฤติกรรม กิจกรรม ในวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ แต่สื่อเมืองไทยไม่เห็นสำคัญ

เมื่อเราอ่านเรื่องเด็กหนุ่มสาวสักคน ประสบความสำเร็จสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจ หรือการประดิษฐ์คิดต้น หรือเป็นแชมป์จากการแข่งขันกีฬา ไม่น้อยคนอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่า เด็กหนุ่มสาวคนนั้นอายุเท่าไหร่ ขณะประสบความสำเร็จขนาดนั้น

อาจมีข่าวกีฬาที่ระบุให้รู้บ้าง เนื่องจากกีฬาเห็นอายุเป็นส่วนหนึ่งของความสามารถ ผู้ชนะเทนนิสแกรนด์สแลมซึ่งอายุน้อยที่สุด(เท่านั้นเท่านี้) ผู้ชนะแบดออลอิงแลนด์อายุน้อยที่สุด(เท่านั้นเท่านี้) ผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในลีกฟุตบอลอาชีพ(เท่านั้นเท่านี้)

แต่สำหรับธุรกิจนั้น กระทั่งรายการประเภทวัยรุ่นเงินล้าน หลายครั้งยังไม่สนใจจะบอกเลยว่า วัยรุ่นนั้นอายุเท่าไหร่

Advertisement

ยิ่งเป็นนิตยสารสตรี ยิ่งอ่านแล้วชวนหงุดหงิด เพราะระยะหลังมีเรื่องตัวบุคคลในวงการธุรกิจต่างๆเป็นส่วนมาก แฟชั่นดีไซน์เนอร์ นักออกแบบเครื่องเรือน สถาปนิกสาว ทายาทรุ่นที่สองของเจ้าอสังหา ผู้สานต่อธุรกิจยาอมของครอบครัว ฯลฯ ที่ผู้รายงานให้รายละเอียดยิบตั้งแต่คาบช้อนเงินช้อนทองออกจากท้องแม่ จนกลับจากเมืองนอกมาขยายกิจการพ่อแม่ หรือกัดก้อนเกลือกินล้างหนี้พันล้านของพ่อได้หมดจด จนทำกำไรกลับมาเป็นพันล้าน แต่ที่คนอ่านอยากรู้ข้อเดียว ว่าแต่ละช่วงการเผชิญปัญหานั้น อายุเท่าไหร่ ไม่มีบอก

โดยเฉพาะไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะนักธุรกิจหญิงส่วนมากไม่ค่อยยินดีจะพูดเรื่องอายุหรือเปล่า ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าปัจจุบันยังมีผู้หญิงที่เห็นว่าอายุเป็นเรื่องควรปกปิด ทั้งๆความจริงเป็นตรงกันข้าม คุณอายุขนาดนี้ประสบความสำเร็จขนาดนี้ ไม่น่าภาคภูมิใจหรือ หรือคุณอายุมากขนาดคุณย่าคุณยาย ยังบริหารกิจการขนาดใหญ่อย่างกระตือรือร้นไม่ยอมเหน็ดหนื่อย บอกใครๆไม่ได้หรือ

อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลย แม้แต่ข่าวมรณกรรม ซึ่งผู้อ่านย่อมอยากรู้ว่า ผู้ตายเสียชีวิตในวัยเท่าไหร่ หลายๆครั้งยังไม่บอกอายุให้รู้เลย

Advertisement

อายุจึงเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลบุคคลที่ผู้รับข่าวสารอยากรู้

อย่างที่เรามักสนใจเฉพาะแต่เด็กๆ สามขวบอ่านพระไตรปิฎก เจ็ดขวบพูดได้ห้าภาษา ห้าขวบแก้โจทย์คณิตศาสตร์มัธยมปลายได้ เรียกว่าเด็กอัจฉริยะ แต่พอโตขึ้นมากลับเห็นเป็นธรรมดาไปเสียได้

ทั้งๆที่ด้านลบ อายุก็เป็นตัวระบุคุณภาพที่สำคัญเช่นกัน อย่าง อายุตั้ง 30 แล้ว ยังไม่เป็นโล้เป็นพายอีก เป็นตัวอย่าง

สื่อตะวันตก ไม่ว่าหนังสือพิมพ์รายวันหรือนิตยสาร แม้แต่ข่าวโทรทัศน์ เมื่อขึ้นต้นชื่อคนเป็นข่าวแล้ว ลำดับต่อมาคือบอกอายุทันที แต่สำหรับสื่อไทยแล้ว เห็นได้น้อยมากอย่างที่กล่าวแล้ว

อายุจึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ที่กำหนดสมรรถนะ ความสามารถ และคุณภาพของบุคคล โดยมีสภาพแวดล้อมเป็นตัวแปร

เช่นเด็กห้าขวบในครอบครัวเศรษฐี กับในครอบครัวผู้ใช้แรงงาน หรือเด็กห้าขวบในพื้นที่สงคราม ชีวิตย่อมผิดแผกกันชัดเจน

สมัยก่อนสงครามเวียดนามและระหว่างนั้น เมื่อวิถีคนอเมริกันผ่านการรับรู้เข้ามามากขึ้น ก็มักคุยกันว่า วัยรุ่นอเมริกันพออายุ 15-16 ก็รู้จักหางานทำ หารายได้ให้ตัวเองแล้ว ไม่ได้แบมือขอเงินพ่อแม่จนอายุ 23-25 เหมือนหนุ่มสาวไทยก่อนจะจบปริญญาตรีและยังไม่มีงานทำ

ดังนั้น(อีกครั้ง) อายุจึงเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของชีวิต ที่จะระบุสมรรถนะ ความสามารถ และคุณภาพบุคคล โดยมีสภาพแวดล้อมเป็นตัวแปร ประกอบการพิจารณาเพื่อเข้าใจความเป็นมาเป็นไปของบุคคลนั้นๆ

สำหรับนักอ่านนิยายจีนกำลังภายในแล้ว แรกๆอาจนึกไม่ออกว่า ทำไมตัวละครถึงวัยเยาว์อย่างที่กำหนด

ตัวเอกที่เป็นชายเสียส่วนมาก ซึ่งแบกความแค้นของการสังหารบิดามารดา การถูกล้มล้างครอบครัวหรือค่ายสำนัก พบอาจารย์เลิศล้ำตั้งแต่อายุห้าหกขวบ มักจะสำเร็จยอดวิชาลงจากภูเขาหลังจากนั้นอย่างน้อยสิบปี ในวัยสิบห้าสิบหก ออกแสดงฝีมือขจัดคนพาล อภิบาลคนดี พบกุลธิดาบู๊ลิ้ม ผ่านด่านนางงามด้วยขันติ เพราะภาระยังไม่ลุล่วง

อ่านแรกๆอาจมีที่ยังไม่ใส่ใจนัก ว่าอายุน้อยขนาดนั้น แบกพันธะขนาดนั้น ฝึกฝนตัวเองให้จิตใจแข็งแกร่งอย่างนั้น ทำได้จริงหรือ ทำได้อย่างไร แต่ผู้เขียนก็มักย้ำถึงการฝึกฝน การตักเตือนของครูอาจารย์ ใช้พันธะนั้นเองเป็นตัวกำกับความคิดให้หนักแน่น

ตัวละคร(เรียกได้ว่า)แทบทุกเรื่องจะอยู่ในวัยนี้ น้อยเรื่องมากที่ตัวละครเอกชายหญิงจะมีวัยขึ้น 20 ปี

ต่อมา นิยายจีนกำลังภายในยุคใหม่หันเข้าอิงฉากประวัติศาสตร์ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นของเนื้อหาขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจัง ประวัติศาสตร์จีนเต็มไปด้วยฉากการรบพุ่ง การช่วงชิงอำนาจ การป้องกันอาณาจักรจากชนเผ่านักรบทางเหนือ อายุตัวละครยิ่งเน้นย้ำชัดแจ้ง ว่าวัยระยะสิบหกสิบเจ็ดก็เข้าเป็นทหารในกองทัพแล้ว ยังไม่ถึงยี่สิบก็ไต่เต้าขึ้นเป็นแม่ทัพนายกอง

ระหว่างนั้นก็มีเหตุให้เกี่ยวพันกับสตรีนานา ไม่ว่าเรื่องไหนก็อยู่ในวัยดังกล่าวนี้ ราวกับเป็นวิถีชีวิต

ยิ่งอ่านมากเรื่องเข้า ก็ยิ่งถูกชักจูงให้คล้อยตามลึกลงไปได้ทุกที ว่าตั้งแต่วัยขนาดนี้แหละที่ต้องเริ่มก่อร่างสร้างตัว ไม่เรียนหนังสือเป็นฝ่ายบุ๋นไปสอบจอหงวน ก็ต้องฝึกฝีมือไปแข่งขันคัดเลือกเป็นขุนนางฝ่ายบู๊

ไม่ใช่การดำเนินชีวิตมาเริ่มเอาเมื่อเรียนจบปริญญาตรี วัยเกิน 20 อย่างสมัยนี้

ที่ทำให้อายุของตัวละครน่าเชื่อถือ มาจากรายละเอียดของเนื้อหา ซึ่งผ่านการค้นคว้าอย่างมากของผู้เขียนเหล่านั้น ที่บรรยายให้เห็นสังคมอันยากลำบากแทบทุกยุคทุกสมัย จากราชสำนักที่อ่อนแอ ขุนนางฉ้อฉล ขูดรีดภาษีจากชาวบ้าน ไม่ว่ายามสงบหรือโดยเฉพาะยามสงคราม จนทำให้ผู้คนไม่ว่าใหญ่น้อยต้องดิ้นรนทำมาหากิน เรียนรู้ความยากลำบากแต่เล็ก อายุสิบห้าก็เป็นผู้ใหญ่เหมือนหนุ่มสาววัยยี่สิบห้าสมัยนี้แล้ว ดังนั้น จึงเป็นธรรมดามากที่ชายยังไม่ถึงยี่สิบก็เริ่มมีบทบาททั้งในสนามรบและราชสำนัก

อาจเรียกได้ว่า สภาพแวดล้อมกำหนดวิถีชีวิตให้ต้องเติบโตรวดเร็ว เช่นเดียวกับสภาพแวดล้อมสมัยปัจจุบัน ที่ทำให้คนหนุ่มสาวส่วนหนึ่งเติบโตช้า – ใช่หรือไม่

ขณะที่ลูกหลานคนรากหญ้าต่างต้องโตเร็วไม่แพ้บุตรธิดาบู๊ลิ้มในนิยาย ไม่งั้นอดตาย

มโนสาธยายมาถึงตอนนี้ น่าจะเห็นได้แล้วว่า อายุเป็นข้อมูลสำคัญขนาดไหน ที่สื่อไทยทำตกหล่นไปไม่ให้ราคา.

__________________

อารักษ์

__________________

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image