พิมพ์ครั้งที่ 2 ในระยะเวลาอันรวดเร็วมากๆ สำหรับ “ลงเรือแป๊ะ” โดยรองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม
8 นายกรัฐมนตรี 12 รัฐบาล คือสถิติประสบการณ์ของวิษณุ เครืองาม ในตำแหน่งบริหารประเทศ และนี่ไม่ใช่หนังสือเล่มแรกที่เขาเขียนเกี่ยวกับการทำงานในแต่ละรัฐบาล เพราะถ้ายังจำกันได้ ยังมี ‘โลกนี้คือละคร’ ,’เล่าเรื่องผู้นำ’ และ ‘หลังม่านการเมือง’ ที่เคยเขียนเป็นเรื่องเล่าบันทึกการเมืองที่อ่านสนุกมากๆ ด้วยสไตล์การเขียนของรองนายกรัฐมนตรี ที่ทั้งเล่าและร้อยเรื่องเก่งไม่ใช่เล่น – จริงๆ นิยายประวัติศาสตร์อย่างเรื่อง ‘ข้ามสมุทร’ ก็พิสูจน์ฝีมือสำนวนการเขียนได้อยู่ไม่น้อยเลย
ทว่าสิ่งหนึ่งที่ ‘ลงเรือแป๊ะ’ แตกต่างจากสามเล่มก่อนหน้านั้น และทำให้เล่มนี้น่าสนใจอย่างยิ่ง คือเล่มนี้เป็นการเขียนถึงแง่มุมการทำงานของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ในช่วงที่ตนเองก็ยังร่วมรัฐบาล และทำงานอยู่ด้วยในฐานะรองนายกรัฐมนตรี
ชอบรัฐบาลนี้ ควรอ่าน ยิ่งไม่ชอบรัฐบาลนี้ ยิ่งควรอ่าน เพราะนี่คือบทบันทึกประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งแบบอินไซด์ ที่ว่าด้วยเรื่องราวต่างๆ ในแวดวงการเมืองและอำนาจ ขยายความให้เห็นเหตุการณ์บ้านเมือง ตั้งแต่รัฐประหารยึดอำนาจของคสช. ปี 2557 จนถึงการเลือกตั้งในปี 2556 ที่นำไปสู่การกลับมาของรัฐบาลประยุทธ์ 2 … อินไซด์มาก มากแบบ ก.ไก่ ล้านตัว
ถึงบอกไงว่ายิ่งควรอ่าน
จากบรรทัดนี้ไป จะเป็นสปอยล์บางส่วนของหนังสือ ที่เรารู้สึกว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง และเป็นเหมือนจิ๊กซอว์บางอย่างของทั้งประวัติศาสตร์และปัจจุบันของการเมืองไทย ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
5 ปีแล้วหรอเนี่ย
*คสช. และม.44
… เอาเข้าจริงแล้ว ในบรรดาข้อเสนอที่ขอให้ใช้ ม.44 สัก 10 เรื่องจะผ่านด่านกลั่นกรองไปได้ 1-2 เรื่อง คือประมาณ 10% ต่อจากนั้นก็จะเสนอต่อไปยังหัวหน้าคสช. หากหัวหน้าคสช.เห็นด้วยก็จะนำเข้าที่ประชุมคสช. ซึ่งในบรรดา 1-2 เรื่องที่หลุดไปถึงชั้นคสช. ก็จะได้รับความเห็นชอบบ้าง ไม่ผ่านการพิจารณาบ้าง แต่ทุกเรื่องจะมีคำแนะนำให้กลับไปปรับแก้เรื่องโน้นเรื่องนี้เสมอ…
… การใช้อำนาจพิเศษไม่ใช่เรื่องดีนัก เป็นดาบสองคมอยู่เหมือนกัน…
… ดังนั้น การสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องพิเศษเฉพาะกิจเฉพาะกาล เป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่หลักในระบอบประชาธิปไตย และเป็นการใช้เพื่อรักษาหลักนิติธรรมให้คงอยู่ ไม่ใช่ใช้เพื่อทำลายหลักนิติธรรมเสียเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญ…
*โซเชียลมีเดีย
… เนื่องจากคณะรัฐมนตรี ผู้ร่วมงาน และเครือข่ายทุกคนสามารถเข้าถึงด้วยการส่งไลน์ถึงได้ตลอดเวลา จะว่าท่าน ( นายกรัฐมนตรี) บริหารราชการแผ่นดินแบบ 4.0 คือสั่งราชการ สอบถามข้อราชการ และติดตามงาน ติดตามข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นทั่วราชอาณาจักรหรือทั่วโลกทางโซเชียลมีเดียหรือสื่อออนไลน์ก็ว่าได้ จึงทราบข่าวต่างๆได้โดยไว โดยไม่ต้องรอฝ่ายข่าวกรอง สันติบาล ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) หรือรายงานข้อราชการใดๆ แต่ไม่ใช่คนเสพติดชนิดขาดไม่ได้หรือนั่งปุ๊บเปิดโซเชียลมีเดียปั๊บ เพียงแต่ดูผ่านๆ ถ้าไม่มีสาระก็ผ่านไป ถ้าน่าสนใจก็เช็คข่าวโดยละเอียดทันที …
… คณะรัฐมนตรีเองก็มักได้รับการบ้าน ข้อสั่งการ คำแนะนำทางไลน์บุคคล ไลน์กลุ่ม หรือไลน์หมู่คณะแทบทุกวัน ทั้งสามารถตอบหรือชี้แจงระหว่างกันเอง หรือแจ้งกลับไปยังนายกรัฐมนตรีได้อย่างทันท่วงที…
*ผู้นำ กับลักษณะความเป็นผู้นำ
… ว่าไปแล้วผมก็ไม่ได้หลับหูหลับตาตามใจแป๊ะไปหมด ไม่ได้บริการทุกระดับประทับใจ ทุกรัฐบาลที่ผมทำงาน
ด้วย รวม 8 นายกรัฐมนตรี 12 รัฐบาล คงเป็นพยานได้ว่าบางเรื่องที่มอบหมายมา แต่ผมตอบว่าทำไม่เป็น หรือไม่ยอมทำ หรือที่บอกตรงๆ ว่าทำไม่ได้ ไม่ควรทำ อย่าทำเลยครับ เสี่ยงมากก็มีไม่น้อย…
… บางทีก็ไปแอบปรึกษาคนอื่นแทนแล้วทำกันเอง แถมกระซิบกันด้วยว่าไม่ต้องบอกวิษณุ อย่างนี้ก็มี
เหมือนกัน แล้วลงท้ายบางเรื่องก็เป็นคดีฟ้องร้องดังที่ติดพันกันยาวยืดอยู่จนบัดนี้หลายเรื่อง ผมก็ได้แต่ถอนใจว่า “ว่าแล้วเชียว!” กรรมใดใครก่อ วัวใครก็เข้าคอกคนนั้น
*เรือเทียบท่า
… การจับขั้วมีมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งแล้ว และมาชัดขึ้นภายหลังการเลือกตั้ง แม้ยังไม่ทันประกาศผลเป็นทางการ ที่น่าใจหายใจคว่ำคือแต่ละขั้วมีพรรคที่เข้าร่วมกัน และได้จำนวนเสียงในสภาผู้แทนราษฎรสนับสนุนพอฟัดพอเหวี่ยงกัน แปลว่าถ้าขั้วหนึ่งได้เสียงข้างมากและเป็นรัฐบาลก็จะมีเสียงสนับสนุนอย่างฉิวเฉียด กับขั้วฝ่ายค้านอันนับเป็นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดและน่ากระอักกระอ่วนใจทั้งแก่ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล พอดีพอร้ายการเป็นนายกฯ อาจไม่ยากเพราะอาศัยเสียงวุฒิสมาชิกร่วมลงมติด้วย แต่พอได้เป็นนายกฯ แล้วการจัดตั้งรัฐบาลและดำรงคงอยู่ซึ่งสถานะรัฐบาลหมิ่นเหม่มาก …
…
นี่แค่น้ำจิ้มเบาๆ เท่านั้น บอกเลยว่าอ่านระหว่างบรรทัดสนุกมาก
อยากอ่าน ‘ลงเรือแป๊ะ’ นอกจากที่ร้านหนังสือแล้ว อย่าลืมไปงานมหกรรมหนังสือ ชาเลนเจอร์ 2 เมืองทองธานี แล้วตรงไปที่บูทสนพ.มติชน T 06 งานจะจบวันอาทิตย์นี้แล้ว
อ้อ ถ้าอยากได้ลายเซ็นนักเขียนท่านนี้ ต้องไปไปวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. นี้นะ เพราะรองนายกรัฐมนตรี จะมาแจกลายเซ็นตั้งแต่เวลา 14.00- 15.00 น. ส่วนเวลา 15.00 – 16.00 น. ปิยบุตร แสงกนกนกุล จะมาแจกลายเซ็นที่บูทมติชนเช่นกัน กับหนังสือเล่มใหม่ การเมืองแห่งความหวัง คิวต่อกันเป๊ะ
ตรงไปงานมหกรรมหนังสือได้เลย
…………….
สิรนันท์ ห่อหุ้ม
