| ผู้เขียน | สาโรจน์ มณีรัตน์ |
|---|
เดินไปในเงาฝัน : ห้าสิบหมาดๆ ต่วย’ตูน : โดย สาโรจน์ มณีรัตน์
แม้ในสภาวะวิกฤตของวงการสื่อสิ่งพิมพ์จะทำให้ร้านหนังสือ และสำนักพิมพ์ต่างๆ ทยอยปิดตัวลงจำนวนมาก แต่หนึ่งในจำนวนสื่อสิ่งพิมพ์ที่ยังมอบอักษรแห่งความสุข และเสียงหัวเราะหึหึในลำคอให้กับแฟนานุแฟนหนอนหนังสือมาอย่างยาวนาน นับแต่ปีแรกๆ จนถึงปีที่ 50 กลับยังคงดำเนินการพิมพ์อย่างต่อเนื่อง
แม้จะก้าวขึ้นสู่ปีที่ 50 แล้วก็ตาม
นึกออกไหมครับว่า…ผมกำลังพูดถึงสำนักพิมพ์อะไร ? และหนังสืออะไร ?
สำนักพิมพ์ พี.วาทิน พับลิเคชั่นคือคำตอบ และสำนักพิมพ์แห่งนี้ หรือบริษัทแห่งนี้ยังเป็นเจ้าของหนังสือต่วย’ตูน พ็อคเก็ตแม็กกาซีน สาระ+หรรษา และต่วย’ตูน พิเศษอีกด้วย
ที่มี “ลุงต่วย วาทิน ปิ่นเฉลียว” เป็นผู้ก่อตั้ง
แม้เวลานี้ “ลุงต่วย” จะไปอ่านหนังสือ และเขียนการ์ตูนเพื่อเรียกเสียงหัวร่อกับเหล่าบรรดานักเขียนของค่ายต่วย’ตูนที่ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลายคนด้วยกัน
แต่กระนั้น ต้องยอมรับว่าตลอดเวลาผ่านมานับจาก “ลุงต่วย” นั่งเก้าอี้บรรณาธิการมาตั้งแต่ปี 2514 และถือเอาฤกษ์เดือนกันยายนเป็นเดือนแห่งการขึ้นรอบปีเรื่อยมา แทบจะไม่มีสักครั้งที่ “ลุงต่วย” จะไม่อ่านต้นฉบับนักเขียนด้วยตัวเอง
ตรงข้ามเขากลับยิ่งอ่านมากขึ้น แม้สายตาในช่วงปัจฉิมวัยจะฝ้าฟางไปมาก แต่เขาก็ยังชอบอ่านงานเขียนของนักเขียนอยู่เสมอ โดยเฉพาะนักเขียนใหม่
นักเขียนวัยรุ่น
เพราะ “ลุงต่วย” คิดอยู่เสมอว่า…เราต้องเปิดพื้นที่ให้นักเขียนรุ่นใหม่ ไม่เช่นนั้นต่วย’ตูนจะตายไปพร้อมๆ กับนักเขียนรุ่นเก่า
ซึ่งก็เป็นจริง
ฉะนั้น ถ้าลองเปิดต่วย’ตูน พ็อคเก็ตแม็กกาซีน สาระ+หรรษาในช่วงที่ “ลุงต่วย” ยังมีชีวิตอยู่ และในช่วงที่ “ลุงต่วย” จากไปแล้วในวันนี้ พ็อคเก็ตแม็กกาซีนเล่มนี้จะมีนักเขียนรุ่นใหม่ทยอยปรากฏชื่ออยู่เสมอ
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ “ลุงต่วย” วางรากฐานไว้ จนกระทั่งลูกชาย(ดล) และลูกสาว(เรณุกา) ปิ่นเฉลียว ต่างสานต่อเจตนารมณ์มาจนทุกวันนี้
ทุกวันที่ต่วย’ตูน เดินมาถึงขวบปีที่ 50 ในเดือนกันยายน 2563 ดังนั้น เมื่อถามว่าในขวบปีแห่งการเฉลิมฉลองกึ่งศตวรรษของต่วย’ตูนมีวาระพิเศษอะไรบ้าง
ก็ต้องบอกว่า…มีอย่างแน่นอน
อย่างแรกเลยคือทางกองบรรณาธิการทำการคัดสรรเรื่องในอดีตของเหล่าบรรดานักเขียนชั้นครูทั้งหมด 15 ท่าน มาให้อ่านอีกครั้ง ได้แก่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ, ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช, พล.อ.อ.หะริน หงสกุล, ฮิวเมอริสต์, คำพูน บุญทวี, หลวงเมือง, พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร, อาจินต์ ปัญจพรรค์, ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ฯลฯ
ขณะเดียวกัน ก็จะมีเรื่องจากนักเขียนปัจจุบันอีก 15 ท่าน
รวมทั้งหมด 30 ท่าน
ที่สำคัญ ยังมี ขรรค์ชัย บุนปาน ผู้บริหารมติชน กรุ๊ป ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปิยมิตรของ “ลุงต่วย” มาช่วยเขียนโคลงในชื่อเรื่องว่า…ห้าสิบหมาดๆ ให้อีกด้วย
ดังความปรากฏว่า
เติบใหญ่วัยห้าสิบ ดั่งสูรย์ ส่องนอ
ศักดิ์ดุจราชาการ์ตูน ต่วย’ตั้ง
สาระวิทยาพูน สนุกเพียบ
เส้นอักษรผ่อนรั้ง อ่านแล้วใจเจริญ
นอกจากนั้น ยังมีความพิเศษตามมาอีกคือปกของหนังสือเล่มนี้ เพราะนอกจากจะได้ 2 ศิลปินที่ชื่อ เด่นชัย ธรรมฐิติพงศ์ มาวาดการ์ตูนด้านหน้า หากยังมี อิฏฐสิทธิ์ ทองระอา มาช่วยวาดแบ๊กกราวน์บนปกหนังสืออีกด้วย
สำคัญไปกว่านั้น เพราะ ประลองพล เพี้ยงบางยาง บรรณาธิการคนปัจจุบันเล่าให้ผมฟังว่า…ต่วย’ตูน เล่มพิเศษนี้ยังจัดพิมพ์ในจำนวนจำกัด เพราะมีความหนาถึง 400 หน้า
แต่ราคาขายเหมียนเดิมคือ 150 บาทเท่านั้นเอง
ดังนั้น จึงถือว่าเป็นการพิมพ์ฉบับลิมิเต็ด อิดิชั่นอย่างแท้จริง และถ้าใครไม่สามารถหาซื้อตามแผงหนังสือทั่วไปได้ มีทางเดียวเท่านั้นคือต้องติดต่อสำนักพิมพ์ด้วยตัวเอง
เพราะขนาดผมเองนั่งพิมพ์คอลัมน์ยังรู้สึกอยากได้เลย
และท่านผู้อ่านล่ะครับไม่อยากได้กระนั้นหรือ
ยิ่งเมื่ออ่านคอลัมน์บอกกล่าว เล่าความที่ “ประลองพล” เขียนขยายความเพิ่มเติมบอกว่า…สิ่งสำคัญที่เรายึดมั่นมาตลอดคือเราต้องการขอเป็นเพื่อนกับนักอ่าน เพื่อนำสาระ และความหรรษาจากนักเขียน นักเล่า นักกลอน นักวาดมาสร้างความสุขให้ผู้อ่านทุกแห่งหน
“หากนับจำนวนเล่มที่เคยพิมพ์ทั้งหมดก็หลายสิบล้านเล่ม หนังสือเหล่านี้คงช่วยแฟนานุแฟนยิ้ม และหัวเราะได้หลายร้อยล้านครั้ง ซึ่งนั่นก็คือความสุขของพวกเราเช่นกันครับ เพราะฉะนั้น ในวาระขึ้นปีที่ 50 ต่วย’ตูน พ็อคเก็ตแม็กกาซีน ผมขอมอบความสุขให้แฟนานุแฟนอีกครั้ง ด้วยสาระ และหรรษาที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ทั้งจากนักเขียนยุคปัจจุบัน และจากนักเขียนชั้นครูในอดีต”
“แม้จะเป็นเรื่องเก่าที่เคยจัดพิมพ์มาแล้ว แต่ก็ยังเข้มข้นด้วยสำนวน และอารมณ์ขันคลาสสิก เนื่องจากมีข้อมูลลึกๆ ที่พวกเรายุคนี้อาจไม่เคยรู้มาก่อน หรือแม้แต่ท่านผู้อาวุโสที่เคยร่วมยุคสมัยก็อาจหลงลืมกันไปแล้ว ดังนั้น การคัดเลือกเรื่องยุคอดีตมาจัดพิมพ์ใหม่ในครั้งนี้ จึงสร้างความลำบากใจให้พวกเรามากครับ เพราะนักเขียนของเรามีอยู่มาก”
“อันดับแรกเราจึงคัดเลือกเฉพาะเรื่องของท่านที่จากพวกเราไปแล้ว เนื่องจากท่านไม่สามารถเขียนเรื่องใหม่มาให้อ่านกันได้อีก ถึงกระนั้น ก็ยังมีรายชื่อนักเขียนอยู่อีกเป็นจำนวนมาก จึงต้องตัดใจคัดเลือกมาเฉพาะบางท่านเท่านั้น โดยพยายามให้มีแนวเรื่องหลากหลาย”
“แต่ก็ให้น้ำหนักเรื่องที่อ่านแล้วเห็นภาพอดีตเป็นพิเศษ เพื่อรำลึกถึงช่วงเวลาอันยาวนานที่ ‘ลุงต่วย’ ก่อตั้งนิตยสารฉบับนี้ขึ้นมา”
ก็ยิ่งทำให้ผมอยากอ่านหนังสือเล่มนี้มากขึ้นอีก
แต่ไม่รู้ว่าจะทันแฟนานุแฟนหนอนหนังสือต่วย’ตูนหรือเปล่า
คงต้องแย่งกันหน่อยล่ะครับ(ฮา)
