มอบรางวัล ‘วรรณศิลป์อุชเชนี’ คัดสรรเข้มข้นจาก 807 ผลงาน ศิลปินแห่งชาติการันตี ปีนี้สุดลึกซึ้ง-สะเทือนอารมณ์

เมื่อวันที่ 12 มกราคม เวลา 13.30 น. ณ ห้องอโนมาแกรนด์ ชั้น 3 โรงแรมอโนมาแกรนด์ ถนนราชดำริ สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย ร่วมกับสภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย คณะภคินีเซนต์ปอล เดอ ชาร์ตร กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย จัดพิธีมอบรางวัล ‘วรรณศิลป์อุชเชนี’ ครั้งที่ 5 ในหัวข้อ ‘หนึ่งชีวิตคำนึง’ โดยมีพิธีรับโล่พระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยคัดสรรและพิจารณาผลงานเขียนที่มีเนื้อหาและลักษณะตามเกณฑ์ที่กำหนด จากผลงานเขียนที่ส่งเข้าประกวดทั่วประเทศ เพื่อพิจารณาตัดสินมอบรางวัลแก่นักเขียนที่มีคุณภาพดี โดยแบ่งงานเขียนเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทกลอนสุภาพ ระดับนักเรียนและประชาชน และประเภทความเรียง ระดับนักเรียนและประชาชน

โดยได้รับเกียรติจากคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานคณะกรรมการอำนวยการ เป็นประธานจัดงาน และพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2536 เป็นประธานกรรมการประเภทกลอนสุภาพ

เวลา 13.35 น. คุณหญิงปัทมา กล่าวรายงานการจัดงานผ่านทางเสียง ความว่ารางวัลวรรณศิลป์อุชเชนีก่อตั้งขึ้นในพ.ศ.2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดเวทีให้แก่ผู้สนใจทั่วไปโดยเฉพาะเยาวชนในการพัฒนาทักษะด้านการเขียนในเชิงคุณภาพให้ดียิ่งขึ้นเพื่อร่วมกันสืบสานมรดกอันล้ำค่าด้านภาษาไทยและเพื่อรำลึกถึงผลงานอันทรงคุณค่าของอุชเชนี ซึ่งเป็นหนึ่งในนามปากกาของท่านอาจารย์ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์กวีนิพนธ์ พ.ศ.2536 โดยในปีนี้มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดทั้งสิ้น 807 ผลงานจากทั่วประเทศ เป็นกลอนสุภาพ 385 ผลงาน และความเรียง 422 ผลงาน” คุณหญิงปัทมากล่าว

Advertisement

เวลา 13.45 น. พลอากาศเอก ชลิต เปิดกรวยดอกไม้และกล่าวเปิดงาน ว่ารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีรับโล่พระราชทานรางวัลวรรณศิลป์อุชเชนี ครั้งที่ 5

“อุชเชนีหรืออาจารย์ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา เป็นเพชรเม็ดงามในแวดวงวรรณศิลป์ของแผ่นดินไทย อุชเชนีดำเนินชีวิตด้วยปรีชาญาณ ความรัก ความศรัทธา ส่งผลให้งานของท่านเสริมสร้างอุดมการณ์ที่ดีงาม ให้แรงบันดาลใจ แก่เพื่อนมนุษย์ซึ่งสามารถนำไปปฏิบัติตนได้อย่างเรียบง่าย เปี่ยมไปด้วยความสุขและคุณค่าแห่งชีวิต ต้องขอขอบคุณผู้จัดงานที่ได้ร่วมกันดำเนินโครงการด้วยอุดมการณ์อย่างต่อเนื่อง” พลอากาศเอกชลิตกล่าว

Advertisement

เวลา 13.50 น. นายเนาวรัตน์  ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2536 เป็นประธานกรรมการประเภทกลอนสุภาพ กล่าวสรุปภาพรวมการประกวดและมอบรางวัลประเภทกลอนสุภาพ
ว่าในปีนี้มีผลงานที่เข้มข้นอาจจะเป็นเพราะโควิดทำให้มีเวลานั่งคิดนานขึ้น ที่จริงแล้วหัวข้อตลอดมาทั้ง 5 ปีนั้นมีความสำคัญเพราะเกี่ยวเนื่องกับผลงานของอาจารย์ประคิณหรืออุชเชนี กวีของกวีที่เรารัก ใช้คำว่ากวีของกวีเพราะหลายท่านที่รักการเขียนกาพย์กลอนต้องยอมรับว่างานของอุชเชนีมีอิทธิพลมาก ปีนี้ก็เช่นกัน และคิดว่าจะมีทุกๆปี เพราะว่างานของอุชเชนีเป็นงานอมตะ เป็นหมุดหมายของกวี เส้นทางกวีไทยตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบันและในอนาคต

สำหรับรางวัล ‘วรรณศิลป์อุชเชนี’ ครั้งที่ 5 ในหัวข้อ ‘หนึ่งชีวิตคำนึง’ รางวัลประเภทกลอนสุภาพ ระดับนักเรียน ได้แก่ ผลงาน ในห้วงคำนึง โดย ศรินยานันท์ จันทร์รุ่ง, ผลงาน ชีวิตของลูกยางนา โดย วริศ ดาราฉาย และผลงาน บทคำนึงเหนือภูขยะ โดย ฮีดายะห์ เบ็ญโกบ และระดับประชาชน ได้แก่ ผลงาน แม่น้ำแห่งชีวิต โดย จามรี ตันไพฑูรย์ดิถี, ผลงาน กลิ่นเข็มในอกแม่ โดย วิศิษฐ์ ปรียานนท์ และผลงาน ห้วงคำนึงของนักแล่นเรือใบ (ขณะผ่านไปพิพิธภัณฑ์ร้างกลางชีวิต) โดย พจนาถ พจนาพิทักษ์
ต่อมามีการอ่านบทกลอนโดยผู้ชนะการประกวดรางวัลสูงสุดในแต่ละระดับ

เวลา 14.25 น. นางชมัยภร ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปีพ.ศ. 2557 เป็นประธานกรรมการประเภทความเรียง กล่าวสรุปภาพรวมการประกวดและมอบรางวัลประเภทความเรียง ว่า อาจเพราะว่าหัวข้อ หนึ่งชีวิตคำนึง เป็นหัวข้อสำหรับการประกวดที่สามารถตีความได้กว้างหรือสามารถโยงเข้าสู่เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ชีวิตได้ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมาก เพราะฉะนั้นผลงานที่ส่งเข้าประกวดในปีนี้จึงมีมิติชีวิตที่ลึกซึ้งกว้างขวางมากและมีความน่าสนใจ ประการแรกคือมีการให้นิยามหรือความหมายของชีวิตเป็นการแสดงในเชิงนามธรรม แสดงความพอดีหรือความไม่พอดีของชีวิต แสดงภาพรวมของชีวิต ในขณะเดียวกันก็ยังมีงานอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจมากคืองานที่แสดงความศรัทธาในศาสนาเพื่อที่จะแก้ปัญหาชีวิตอย่างใดอย่างหนึ่ง

“ในปีนี้คุณภาพ ความลึกซึ้ง และความสะท้านสะเทือนใจของงานอยู่ในระดับที่ดีมากๆ เพราะฉะนั้นท่านก็จะได้รับฟังว่าความสะท้านสะเทือนใจของรางวัลอุชเชนีปีนี้เป็นอย่างไร” นางชมัยภรกล่าว

สำหรับรางวัล ‘วรรณศิลป์อุชเชนี’ ครั้งที่ 5 ในหัวข้อ ‘หนึ่งชีวิตคำนึง’ รางวัลประเภทความเรียง ระดับนักเรียน ได้แก่ ผลงาน รถล้อเข็น โดย แต๋น, ผลงาน ลูกเป็ดขี้เหร่ โดย ธนพร โชคศรีเจริญ และผลงาน คำนึงอันนิรันดร์ โดย ฮีดายะห์ เบ็ญโกบ

ระดับประชาชน ได้แก่ ผลงาน 14 วัน 3 ปี ตลอดไป โดย กิตติศักดิ์ คงคา, ผลงาน เด็กชายผู้หยุดความสูงไว้ที่ระดับหัวใจ โดย ศรัทธา สถาพร และผลงาน ก่อนอัลไซเมอร์มาเยือน (ถ้อยคำนึงสุดท้ายของชายอายุแปดสิบ) โดย พิณพิพัฒน ศรีทวี

ต่อมามีการอ่านความเรียงโดยผู้ชนะการประกวดรางวัลสูงสุดในแต่ละระดับ

เวลา 14.30 น. บาทหลวงอนุชา ไชยเดช กล่าวขอบคุณในช่วงท้ายของงาน ว่า หนึ่งชีวิตคำนึง บางคนก็อาจจะคิดถึงตัวเอง บางคนอาจจะคิดถึงครอบครัว สังคม บางคนอาจจะนึกถึงมนุษยชาติ เมื่อเราคิดเราก็ได้ทบทวน เราคิด เราจะคอมเมนต์ เราจะโพสต์ เราก็คิด ความคิดเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความดีงามอย่างน้อยการไตร่ตรอง นี่คือที่มาที่ไปของการเลือกหัวข้อนี้

“คณะกรรมการในการปรึกษากันก็ไม่คิดว่าจะพามาถึงความรู้สึกที่เข้าไปในจิตใจขนาดนี้ เหมือนกับที่หลายๆคนได้พูด ได้กล่าว ได้อ่าน นั่นคือสิ่งที่รางวัลวรรณศิลป์อุชเชนีได้พยายามทำหน้าที่ตรงนี้
สถานการณ์โควิดก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกหัวข้อนี้ แต่ยังไงก็สุดแล้วแต่เราก็ได้มาร่วมกันในวันนี้ และหวังว่าในปีถัดไปจะเกิดการประกวดแบบนี้ เกิดความร่วมมือแบบนี้ ถ้าถามว่าหนึ่งชีวิตคำนึงผมคิดอะไรอยู่ ผมนึกถึงหัวใจของทุกคนที่ให้ความรัก และถ่ายเทมาจนเกิดกิจกรรมดีๆแบบนี้” บาทหลวงอนุชากล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image