บัณฑิตอักษรจุฬาฯ เข้าวัดจนอินเรื่อง ‘พระ’ ป้ายยา ’ลอกคราบพุทธแท้‘ ชิงทุนเรียนปรัชญารู้แล้วรู้รอด
เมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-7 สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยรัฐ (PUBAT) พร้อมด้วยพันธมิตรสำนักพิมพ์ ร่วมจัดงาน ‘สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 22’ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเวลา 12.00 น. การจัดงานช่วงโค้งสุดท้าย ยังคงมีนักอ่านเนืองแน่นฮอลล์ 5-7 โดยส่วนมากเดินทางด้วยรถยนต์ส่ววตัว และรถไฟฟ้า MRT ลงสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ขณะที่บรรยากาศบูธ ‘สำนักพิมพ์มติชน J47’ มีผู้เลือกเดินทางมาซื้อหนังสือ ทั้งหนังสือการเมือง ประวัติศาสตร์ จิตวิทยา หนังสือแปล และวรรณกรรม อย่างคับคั่ง พร้อมรับรับส่วนลดพิเศษ จากสำนักพิมพ์มติชน
โดยหนังสือออกใหม่ ลด 15% หนังสือขายดี ลด 20% หนังสือเพื่อนสำนักพิมพ์ ลด 10-15 % และหนังสือชุด ลดพิเศษถึง 25-30 % ก่อนนำใบเสร็จไปแลกรับของพรีเมียม ที่ออกแบบโดย นักรบ มูลมานัส ศิลปินคอลลาจชื่อดัง ซึ่งมีทั้งกระเป๋าผ้า กระเป๋าถือขนาดใหญ่ โดยสามารถแลกรับได้ฟรี เมื่อซื้อครบยอดตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป
ต่อมาเวลา 13.00 น. ดร.อาสา คำภา เจ้าของผลงาน ‘ลอกคราบพุทธแท้ : ประวัติศาสตร์พุทธศาสนาชนชั้นกลางไทยร่วมสมัย’ เดินทางมาร่วมกิจกรรมแจกลายเซ็นนักเขียน ท่ามกลางนักอ่าน เข้ามาพบปะพูดคุยเป็นจำนวนมาก
นายภูริทัต หงษ์วิวัฒน์ อักษรศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ความจริงตนมาเลือกซื้อหนังสือที่บูธสำนักพิมพ์มติชนหลายวันแล้ว ซื้อกลับไปหลายเล่ม อาทิ อภิชญานศากุนตลัม กาลิทาส ของ มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่เพื่อนฝากซื้อ, ลอกคราบพุทธแท้ ของอาสา คำภา รวมถึงหนังสือ ‘เสด็จพ่อ ร.5 วีรบุรุษในวัฒนธรรมไทย และประชาชนในรัฐนาฏกรรม’ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์ ซื้อกลับไปหลายเล่มมาก
เมื่อถามถึงความรู้สึกหลังได้อ่านหนังสือ ‘ลอกคราบพุทธแท้‘ ?
นายภูริทัตเผยว่า ต้องบอกก่อนว่า ตนเป็นแฟนหนังสือของอาจารย์อาสา คำภา ตามอ่านงานมาหลายเล่ม ตั้งแต่เล่ม ‘รสไทยไม่แท้’ ’กว่าจะครองอำนาจนำ‘ มาจนถึงเล่มนี้ ก็สนใจมากๆ เพราะไม่นึกว่าอาจารย์จะสนใจเรื่องพระด้วย ก็เลยซื้อมาอ่าน
“ด้วยความที่เราชอบวงการวัดๆ พระๆ ก็เห็นว่า ยังมีรายละเอียดในบางจุดที่ยังสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อีก จึงวิจารณ์ลงไปบนเฟซบุ๊กเล็กน้อย อาจารย์เป็นคนใจกว้างมาก อ่าน และรับฟังเรา อาจารย์บอกว่าจะไปปรับแก้ให้ถ้าได้พิมพ์ครั้งต่อไป วันนี้เลยตั้งใจมาขอลายเซ็นอาจารย์“ นายภูริทัตกล่าว
เมื่อถามถึงเนื้อหาที่ได้วิจารณ์ ?
นายภูริทัตเผยว่า ความจริงวิจารณ์ไปไม่ยาวมาก คร่าวๆ คือ ในตัววิจัย อาจจะมีบางส่วนที่เพิ่มเติมได้เกี่ยวกับเรื่องชนชั้นกลาง
”โดยเฉพาะเกี่บวกับ ชาวไทยเชื้อสายจีน ที่เป็นองค์ประกอบหลักของชนชั้นกลาง ที่หนังสือเล่มนี้ยังไม่ได้พูดถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น ระบุชื่อคนแต่งผิดไปนิดหน่อย ก็ช่วยเก็บให้ครบ“ นายภูริทัตเผย
เมื่อถามถึงความสนใจ เกี่ยวกับประเด็นพระพุทธศาสนา ว่าเริ่มต้นมากจากไหน ?
นายภูริทัตเผยว่า เริ่มสนใจมาตั้งแต่เด็กแล้ว ความจริงชอบวัด ชอบเรื่องเกี่ยวกับพระ เพราะตั้งแต่เด็กคุณยายก็สอนเราสวดมนต์
”โตขึ้นมาหน่อยคุณยายก็พาไปทำบุญ โตมาก็ชอบฟังพุทธทาส เราก็เลยเริ่มอิน จากที่ไหว้พระสวดมนต์เฉยๆ ก็เริ่มเจาะเรื่องวิชาการเยอะขึ้น ตั้งแต่ศึกษาเรื่องนี้ปรึกษาไปเรื่อยๆ จนตอนนี้ก็ยังไม่หยุด ยังอ่านต่อไปเรื่อยๆ“
เมื่อถามว่า ตอนนี้ศึกษาเรื่องพุทธศาสนาโดยตรงเลยหรือไม่?
นายภูริทัตเผยว่า ความจริงแล้ว ตนเรียนจบคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คิดว่าตอนนี้อยากไปเรียนเกี่ยวกับด้านปรัชญา ที่ประเทศจีน ถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับมาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย
เมื่อถามถึงบุคลากรในด้านนี้ ถือว่ามีมากน้อยแค่ไหนในปัจจุบัน?
นายภูริทัตกล่าวว่า ตอนนี้ก็กำลังขาดขาดๆ อยู่บ้าง ถ้าเกิดว่าได้คนมาช่วยเพิ่มเติมก็น่าจะเป็นเรื่องดี
”คิดว่าถ้าตัวเองทำประโยชน์อะไรให้กับประเทศ ใกล้กับสังคมให้กับศาสนาได้บ้าง ก็อยากจะทำ“
อยากเห็นพุทธศาสนาเดินไปในทางไหน?
นายภูริทัตกล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าเราจะพูดได้แค่ไหน (หัวเราะ) ที่ผ่านมาก็มีส่วนที่ดีแล้ว แต่มันยังดีได้มากกว่านี้ในประเทศเรา
นอกจากนี้ นายภูริทัตยังแนะนำหนังสือขอฃสำนักพิมพ์มมติชน ที่อ่านแล้วอยากให้คนอื่นได้ลองอ่านตาม คือหนังสือทุกเล่มของ อาสา คำภา ซึ่งเนื้อหาดีมาก โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเหตุการณ์หลัง พ.ศ.2530 เกี่ยวกับยุคสมัยใหม่ ที่อาจารย์จะมีรายละเอียดค่อนข้างแน่น แล้วรู้สึกว่าตอบโจทย์ชนชั้นกลาง
“ถ้าอ่านแล้วจะช่วยสะท้อน (Reflex) ตัวเองได้มาก อีกเล่มที่แนะนำคือ รวมบทความของอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ ที่เพิ่งออกใหม่ จริงๆ เคยอ่านเรื่องเสด็จพ่อ ร.5 แล้ว แต่เล่มอื่นก็รู้สึกว่าดีมากๆ หลายๆ บทความยังไม่เคยอ่าน ก็ได้มาอ่านที่รวมมาในเล่มนี้ เรียกว่าเขย่าความคิดตัวเอง” นายภูริทัตเผย
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ไม่ได้มาเลือกซื้อภายในงาน ยังสามารถสั่งซื้อหนังสือออนไลน์ได้ที่ www.matichonbook.com พร้อมโปรโมชั่น และของแถมเมื่อซื้อครบ 10,000 บาท รับทันทีกระเป๋า ReadUp Tote 12 ใบครบทั้ง 12 ราศี สำหรับสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์สำนักพิมพ์มติชนเท่านั้น
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเยี่ยมชม บูธสำนักพิมพ์มติชน (J47) จนถึงวันที่ 8 เมษายนนี้ เวลา 10.00 – 21.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-7
