ศาลสั่งปรับ ‘เพนกวิน-บอล’ คนละ 2 พัน แขวนพริกเกลือที่ทำเนียบไล่ ‘บิ๊กตู่’

ศาลสั่งปรับ “เพนกวิน-บอล” คนละ 2 พัน แขวนพริกเกลือที่ทำเนียบไล่ “บิ๊กตู่” เจ้าตัววอนสภาแก้ไข พ.ร.บ.ชุมนุม ชี้ไร้คำนิยาม

วันที่ 21 ส.ค. ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ 370/2562 ที่
พนักงานอัยการคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) เป็นโจทก์ฟ้องนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายธนวัฒน์ วงค์ไชย อดีตประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาตรา 10 ผู้ใดประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะ ให้แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่มการชุมนุมไม่น้อย 24 ชั่วโมง ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

กรณีเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา จำเลยทั้งสองพร้อมกลุ่มเพื่อนนักศึกษาเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล หลังจากจำเลยที่ 1 ออกมาโพสต์เชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษา และพี่น้องประชาชนร่วมเดินขบวนเชิญให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เสรี สุจริต และเป็นธรรม หลังจากนั้นจำเลยทั้งสองเดินมายังประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนฝากพริก เกลือ กระเทียม แขวนไว้บริเวณรั้วทำเนียบรัฐบาล โดยจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัวโดยไม่ใช้หลักทรัพย์

วันนี้ นายพริษฐ์และนายธนวัฒน์เดินทางมาฟังคำพิพากษา ซึ่งศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ให้ปรับคนละ 2,000 บาท

Advertisement

โดยนายพริษฐ์เปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาว่า ที่ผ่านมาการต่อสู้คดีนี้และทำกิจกรรมทางการเมืองโดยเปิดเผยในที่สาธารณะ เป็นการชุมนุมเพียง 3-4 คน แต่กฎหมายฉบับนี้ไม่มีบทนิยามคำว่าการชุมนุมในที่สาธารณะเป็นอย่างไร ทั้งที่พวกตนนัดหมายกันมาคุยเพียง 3-4 คนเท่านั้น

ศาลมองว่าตนไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้าว่าจะมีการชุมนุม และในการชุมนุมของตนไม่ได้จัดให้มีการปิดกั้นเพื่อให้คนไม่เกี่ยวข้องร่วมชุมนุมด้วย ซึ่งเป็นดุลพินิจของศาล ตนเคารพในคำตัดสิน เพราะศาลตัดสินตามตัวบทกฎหมาย แต่สิ่งที่ตนไม่เห็นด้วยคือ พ.ร.บ.ฉบับนี้ ที่ออกโดย สนช. ลูกไล่ของ คสช. เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน

นายพริษฐ์กล่าวด้วยว่า ดังนั้นในวันนี้ ขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองต่างๆ หรือผู้ชนะการเลือกตั้งแล้วเข้าไปอยู่ในสภาที่ยังมีหัวใจเป็นประชาธิปไตย ได้โปรดออกมาทบทวนแก้ไข เพื่อให้เกิดเสรีภาพแก่ประชาชน ส่วนคดีนี้ตนจะปรึกษาทนายความเพื่ออุทธรณ์หรือไม่ต่อไป และกิจกรรมการเมืองยังมีต่อไป

Advertisement

“ต่อไปนี้เวลาผมจะพูดคุยกับเพื่อนๆ ซัก 4 คน ก็อาจจะผิดตามกฎหมายนี้ไปหมด เพราะ พ.ร.บ.ชุมนุม นี้ไม่มีนิยาม” นายพริษฐ์กล่าว

ด้าน น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง กล่าวเสริมว่า เห็นใจน้องทั้งสองที่ออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองอย่างถูกต้อง สงบ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์แขวนพริกเกลือ ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ พ้นตำแหน่งก่อนเลือกตั้งเท่านั้นเอง ขอให้กำลังใจต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image