“คนเราสามารถทำดีได้ทุกวัน”
จากหัวใจแห่งการให้ที่ไม่เคยหวังผลตอบแทน บริษัทกรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด จึงเดินหน้าทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง พร้อมยึดหลักสำคัญ 2 เรื่องในการดูแล ได้แก่ ‘คน’ (people) และ ‘สิ่งแวดล้อม’ (planet)
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ โครงการทุนการศึกษา บริษัทกรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด ได้ร่วมกับมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ลงพื้นที่สนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่เร่ร่อน และครอบครัวไร้บ้านในพื้นที่ กทม.ที่ได้รับความเดือนร้อนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งอนาคตยังสร้างความยั่งยืนในการสร้างคนคืนสังคม ด้วยการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนของมูลนิธิฯให้ได้รับการศึกษาจนถึงระดับชั้นสูงสุด
นอกเหนือจากนั้น ในช่วงเวลาเดียวกันโครงการทุนการศึกษาฯ ยังได้มุ่งมั่นเดินหน้ากิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม สานต่อโครงการ ‘คืนดิน คืนป่า รักษาป่าชายเลน’ ให้มีความต่อเนื่อง โดยได้เข้าไปช่วยเหลือชุมชนในการซ่อมแซม รักษาและปลูกป่าชายเลนเพิ่มเติมอีก 10,000 ต้น
การช่วยเหลือสังคม พันธกิจนี้ไม่มีคำว่า ‘สิ้นสุด’
สำหรับการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่เร่ร่อน และครอบครัวไร้บ้านในพื้นที่ กทม.ที่ได้รับความเดือนร้อนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โครงการทุนการศึกษาฯ และมูลนิธิสร้างสรรค์เด็กได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนใน 3 พื้นที่ ได้แก่ ชุมชนเสือใหญ่อุทิศชุมชน ชุมชนใต้ทางด่วนสุขุมวิทซอย 1 และชุมชนบ่อนไก่
‘ครูจิ๋ว’ ทองพูล บัวศรี ผู้ประสานงานโครงการบ้านอุปถัมภ์เด็ก และโครงการศูนย์เด็กก่อสร้าง มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก เล่าให้ฟังว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เด็กและเยาวชนที่เร่ร่อน รวมครอบครัวไร้บ้านในพื้นที่ กทม.หลายพื้นที่ได้รับความลำบากมาก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ตกสำรวจจากหน่วยงานภาครัฐ ทำให้ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ
โดยบทบาทของโครงการทุนการศึกษาฯ และมูลนิธิสร้างสรรค์เด็กจะมี 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นงานเร่งด่วนในการเข้าไปสนับสนุนปัจจัย 4 ที่ใช้ในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะน้ำดื่มและ อาหารแห้ง ตลอดจนการเข้าไปช่วยเฝ้าระวังไม่ให้เด็กถูกละเมิดสิทธิ์ หรือการถูกระเมิดทางเพศ
ส่วนที่สอง เป็นงานในระยะยาว คือ การมอบโอกาสทางการศึกษาให้แก่กลุ่มเด็กเร่ร่อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสร้างชีวิต สร้างคนให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืนต่อไป
“คืนดิน คืนป่า รักษาป่าชายเลน”
ด้านโครงการ ‘คืนดิน คืนป่า รักษาป่าชายเลน’ ในพื้นที่โรงเรียนธรรมชาติป่าชายเลน จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557 มีจุดประสงค์เพื่อสร้างแนวป่าป้องกันการกัดเกาะเซาะชายฝั่ง โดยการใช้แนวคิดธรรมชาติดูแลธรรมชาติ พร้อมสร้างการส่วนร่วมโดยมีคนในชุมชนเป็นผู้ดูแล
‘ผู้ใหญ่แดง’ วิสูตร นวมศิริ อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ตำบลบางแก้ว พูดถึงที่มาของการปลูกป่าชายเลนให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นเกิดจากปัญหาการกัดเซาะในพื้นที่ที่มีมานานนับ 20 ปี จนชายฝั่งพัง ชาวบ้านต้องย้ายบ้านหนีนับ 10 หลัง พอตนเข้ามาเป็นผู้ใหญ่บ้าน จึงเริ่มศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นรวมถึงการปลูกป่าชายเลน ซึ่งชุมชนก็ได้ร่วมมือร่วมใจกันเป็นอย่างดี
“ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2557 ชาร์ปกรุงไทยการไฟฟ้ามาร่วมสนับสนุนทำงานกับชาวบ้านทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 เราได้ร่วมกันปลูกไปแล้วกว่า 30,000 ต้น จากเป้าหมายทั้งหมด 50,000 ต้น” ผู้ใหญ่แดงกล่าว
สำหรับการเนินงานในปี 2563 แม้ว่าจะเกิดปัญหาภาวะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่โครงการทุนการศึกษาฯ ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าช่วยชุมชน ในการซ่อมแซม สู่การรักษา และปลูกป่าเพิ่มอีก 10,000 ต้น เพื่อให้เป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่มั่นคง ยั่งยืน คืนคุณค่าสู่ชุมชน และท้องทะเลไทย
ติดตามเรื่องราว การทำกิจกรรมตอบแทนสังคมของโครงการทุนการศึกษา บริษัทกรุงไทยการไฟฟ้า จำกัดได้ที่แฟนเพจ โครงการทุนการศึกษา บริษัทกรุงไทยการไฟฟ้า จำกัด https://www.facebook.com/ThaicityScholarship