นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ร่วมมอบหนังสือมูลค่า 100,000 บาท แก่ห้องสมุดโรงพยาบาลผ่านกิจกรรมแชร์ริตี้ งาน“เฮลท์แคร์ 2021 วัคซีนประเทศไทย” #เราจะฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน โดยมีผู้บริหารระดับสูงของเครือมติชน นำโดย นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการ และ น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน ข่าวสด และประชาชาติธุรกิจ ให้การต้อนรับ ณ อาคารข่าวสด
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่อาคารสำนักงานหนังสือพิมพ์ข่าวสด นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังอาคารสำนักงานหนังสือพิมพ์ข่าวสด เพื่อมอบหนังสือมูลค่า 100,000 บาท แก่ห้องสมุดโรงพยาบาล โดยมีผู้บริหารระดับสูงของเครือมติชน นำโดย นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการ น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน ข่าวสด และประชาชาติธุรกิจ ให้การต้อนรับ
นายพินิจกล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีประชาชนเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ในฐานะประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ จึงต้องการช่วยเหลือประชาชนโดยไม่จำกัดเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้กระจายความช่วยเหลือไปยังหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
นายพินิจกล่าวด้วยว่า เครือมติชนเป็นสื่อที่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน และนำเสนอข่าวสารดังกล่าวอย่างเที่ยงตรงรอบด้าน ประกอบกับเมื่อทราบว่าเครือมติชน จัด “เฮลท์แคร์ 2021 วัคซีนประเทศไทย” #เราจะฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน ซึ่งเป็นมหกรรมสุขภาพออนไลน์ครั้งสำคัญแห่งปี ระหว่างวันที่ 18-22 สิงหาคมนี้ จึงเดินทางมามอบหนังสือมูลค่า 100,000 บาท แก่ห้องสมุดโรงพยาบาล เพื่อส่งเสริมความรู้และการดูแลสุขภาพ เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงโควิดไปได้อย่างแข็งแกร่ง และร่วมกับ ศาสตราจารย์ ซุน เหลย ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยยูนนานประจำประเทศไทย และผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มอบเตียงสนาม จำนวน 200 เตียง และยาเหลียนฮัวชิงเวิน ซึ่งมีสรรพคุณป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ จำนวน 400 กล่อง ผ่านเครือมติชน เพื่อให้เครือมติชนเป็นตัวแทนส่งมอบยังประชาชนที่เดือดร้อนในสถานการณ์โควิด
นายพินิจ จารุสมบัติ นำ ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บมจ.มติชน ชมสิ่งของต่างๆ ที่บริจาค อาทิ หนังสือที่จะมอบแก่ห้องสมุดโรงพยาบาล และ“โควิด แคร์ บ็อกซ์” กล่องสำหรับดูแลผู้ติดเชื้อโควิด จากโครงการ “โควิด แคร์ บ็อกซ์” (Covid Care Box) ช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด
“ทุกวันนี้ไม่ค่อยออกไปไหนเนื่องจากสถานการณ์โควิด เว้นแต่ต้องออกไปช่วยเหลือประชาชน เพราะความกลัวต้องอยู่ใต้ความรับผิดชอบ เราต้องมีความเสียสละต่อประชาชน เพราะยังมีหลายคนต้องการความช่วยเหลือ เมื่อเครือมติชนและผู้บริหารเห็นความเดือดร้อนของประชาชนและจัดงานเฮลท์แคร์ขึ้นมา จึงต้องมาร่วมกับเครือมติชน ถึงตายก็ยอม” นายพินิจกล่าว
นอกจากนี้ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ ยังร่วมกับ นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ ทำโครงการ “โควิด แคร์ บ็อกซ์” (Covid Care Box) ช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด โดยมอบ “โควิด แคร์ บ็อกซ์” ผ่านเครือมติชน เพื่อส่งมอบต่อยังผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออีกด้วย
สิ่งของใน “โควิด แคร์ บ็อกซ์” สำหรับดูแลผู้ติดเชื้อโควิด
นพ.ฆนัท กล่าวถึงรายละเอียดว่า ช่วงนี้ผู้ป่วยโควิดจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าระบบได้ และยังมีชาวต่างชาติ ทั้งชาวจีน ยุโรป และจากประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาทำงานในไทย ที่ยังเข้าไม่ถึงระบบการรักษา จึงจัด “โควิด แคร์ บ็อกซ์” เป็นกล่องสำหรับดูแลผู้ติดเชื้อโควิด ภายในกล่องประกอบด้วย 1. ยา อาทิ ฟ้าทะลายโจร พาราเซตามอล ยาสเตียรอยด์สำหรับลดการอักเสบ 2. เวชภัณฑ์ เช่น ชุดตรวจโควิด ปรอทวัดไข้ เครื่องวัดความเข้มข้นออกซิเจนในเลือด และ 3. ของใช้จำเป็น เช่น หน้ากาก สเปรย์แอลกอฮอล์ ถุงแดงสำหรับขยะติดเชื้อ รวมทั้งหมดใส่ในกล่องเพื่อมอบให้ผู้ป่วยโควิด ซึ่งผู้ป่วยสามารถแอดไลน์ @covidhomecare เพื่อขอรับโควิด แคร์ บ็อกซ์ หรือขอรับคำแนะนำในการรักษาตัวที่บ้าน รวมทั้งขอคำปรึกษาการใช้ยารักษาอาการโควิดจากแพทย์และอาสาสมัครได้ที่ไลน์โอเอดังกล่าว
“เราเริ่มโครงการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา และจัดโควิด แคร์ บ็อกซ์ มอบให้ผู้ป่วยไปแล้ว 2,000-3,000 กล่อง จากจำนวนที่เตรียมไว้ราว 5,000 กล่อง ซึ่งสามารถเพิ่มจำนวนได้ตามสถานการณ์ เมื่อเครือมติชนจัดเฮลท์แคร์ 2021 จึงต้องการนำโควิด แคร์ บ็อกซ์ มาร่วมช่วยเหลือประชาชนด้วย นอกจากนี้ อยากให้สังคมช่วยกันลดความสูญเสีย เช่น ควรหาทางให้ผู้ติดเชื้อโควิดที่เป็นสูงอายุและกลุ่มเสี่ยงได้รับยาภายใน 24 ชั่วโมง และควรโฟกัสที่การทำอย่างไรที่จะลดอัตราการเสียชีวิต ซึ่งจะดีกว่าโฟกัสที่อัตราการติดเชื้อ” นพ.ฆนัทเผย
ด้านนายสันติภาพ เพิ่มมงคลทรัพย์ หัวหน้าทีมอาสาสมัครด้านไอที โครงการ “โควิด แคร์ บ็อกซ์” กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการ มีประชาชนแอดไลน์เข้ามาแล้วเกือบ 29,000 คน โดยมีผู้อยู่ในระบบที่รับกล่องช่วยเหลือและรับคำแนะนำกว่า 8,000 คน ซึ่งเมื่อผู้ป่วยได้พูดคุยกับแพทย์และอาสาสมัครแล้ว ก็ช่วยให้ผู้ป่วยมีสุขภาพจิตใจที่ดีขึ้น เนื่องจากได้รับคำแนะนำในการดูแลตัวเองที่ถูกต้อง
