โดยบอร์ด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เห็นชอบประกาศ หนุนนโยบายยกระดับบัตรทองปี 2565 ขยายบริการผู้ป่วยในไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัวทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกลดปัญหาและอุปสรรคในการเข้ารับบริการให้กับประชาชน
ก่อนหน้านี้ การยกเลิกใช้ใบส่งตัวใน เพื่อเข้ารักษาที่โรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยใน หรือ แอ๊ดมิท(Admit) ที่โรงพยาบาล เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่ขอให้มีการปรับปรุง เนื่องด้วยทำให้เกิดความยุ่งยากต่อผู้ป่วยหรือญาติ ซึ่งต้องเสียทั้งค่าใช้จ่ายเดินทางและเวลาเพื่อกลับไปรับใบส่งตัวที่หน่วยบริการประจำ ไม่เช่นนั้นจะถูกเรียกเก็บค่ารักษา และต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง
จากข้อมูลดังกล่าว ในปี 2565 นี้ สปสช. จึงขยายการบริการผู้ป่วยในไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัวทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้มีสิทธิเข้ารับบริการผู้ป่วยในทั่วไปทุกรายการ ทั้งกรณีเข้ารับบริการที่หน่วยบริการในเขตหรือข้ามเขต โดยที่ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ที่เป็นความจำเป็นของผู้มีสิทธิในหน่วยบริการอื่นนอกจากหน่วยบริการประจำของตน หรือหน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่ายหน่วยบริการที่เกี่ยวข้อง
แต่ทั้งนี้การใช้ใบส่งตัวผู้ป่วย มี 2 เหตุผล ด้วยกันครับ คือ
- ดูข้อมูลประวัติการตรวจและรักษาของผู้ป่วย เพื่อที่แพทย์รับส่งต่อจะให้การรักษาได้ต่อเนื่อง
- ใช้เป็นหลักฐานเพื่อเก็บค่ารักษา ซึ่งเดิมที่ผู้ป่วยที่ถูกส่งต่อรักษา หน่วยบริการที่ส่งต่อผู้ป่วย จะต้องตามจ่ายค่ารักษาให้กับ รพ.ที่รับส่งต่อ โดยหลักเกณฑ์รับบริการผู้ป่วยในไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว ไปฟังจาก นพ.ธนกฤษณ์ คงขำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านสนับสนุนบริการโรงพยาบาลปทุมธานี
– ความเห็นต่อการบริการผู้ป่วยในไม่ต้องใช้ใบส่งตัว
– หลังมีนโยบายนี้ ทาง รพ.ปทุมธานีได้มีการดำเนินการและจัดเตรียมระบบอย่างไร
– เริ่มบริการผู้ป่วยในไม่ต้องใช้ใบส่งตัวเมื่อไหร่
– ผลการบริการเป็นอย่างไรบ้าง (จำนวนบริการ)
– ปัญหาและอุปสรรค ความยุ่งยากในการเบิกจ่ายแตกต่างจากเดิมหรือไม่
– การเชื่อมต่อข้อมูลผู้ป่วยในการรักษาพยาบาลระหว่าง รพ.ปทุมธานี และหน่วยบริการที่ส่งต่อ
– ขั้นตอนและหลักเกณณ์การรับบริการและในส่วนผู้ป่วยเองต้องทำอย่างไร
– ความพึ่งพอใจของผู้ป่วยต่อบริการผู้ป่วยในไม่ต้องใช้ใบส่งตัว
– ข้อเสนอแนะที่อยากให้มีการปรับปรุง
(แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการปรับระบบใหม่ สปสช. จะทําหน้าที่เป็นเคลียร์ลิ่งเฮ้าท์ในการจ่ายชดเชยค่ารักษา ประกอบกับกระทรวงสาธารณสุขมีการพัฒนาระบบการเชื่อมต่อข้อมูลผู้ป่วยผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างหน่วยบริการที่มีความปลอดภัยทางข้อมูล โดยได้รับความยินยอมข้อมูลจากผู้ป่วย ความสําคัญในการ ใช้ใบส่งตัวนี้จึงลดลงและไม่จําเป็นต้องใช้
นโยบายนี้ไม่ได้ห้ามการใช้ใบส่งตัวแต่อย่างใด ในกรณีที่เป็นประโยชน์เพื่อใช้สื่อสารทางการแพทย์และประโยชน์ต่อผู้ป่วยในการรับการรักษาก็ยังใช้ใบส่งตัวได้ รวมถึงในบางหน่วยบริการที่ระบบเชื่อมต่อข้อมูลอาจไม่สมบูรณ์ 100% การใช้ใบส่งตัวนี้ก็ยังจำเป็น ผู้ป่วยหรือญาติก็อาจถูกขอให้กลับไปรับใบส่งตัวได้ “แต่จะไม่มีกรณีที่ถูกเรียกให้กลับไปรับใบส่งตัวเพื่อใช้ประโยชน์ในการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล” อีกต่อไป ทั้งนี้เป็นการลดปัญหาการถูกเรียกเก็บค่ารักษา ลดภาระผู้ป่วยในการกลับไปรับใบส่งตัว เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องโดยใช้สิทธิบัตรทอง
หากใครที่ถูกเรียกให้กลับไปรับใบส่งตัว ท่านสามารถติดต่อสายด่วน สปสช.1330 ศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพในหน่วยบริการ สปสช.เขตทุกแห่ง และหน่วยรับเรื่องร้องเรียนอื่นที่เป็นอิสระจากผู้ถูกร้องเรียน ตาม ม. 50 (5) พ.ร.บ.หลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook: สํานักงานหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand
