ปชช.แห่สมัครคึกคัก “จิตอาสาเฉพาะกิจงานพระบรมศพ” คนแรกมาตี 2

ตามที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้ประชาชนทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมถวายความอาลัยรัก น้อมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในห้วงเดือนตุลาคมนี้ และเพื่อเป็นการสานต่อพระราชดำริของโครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดตั้ง “จิตอาสาเฉพาะกิจงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ” ขึ้น เพื่อเป็นการรวมพลังความรัก และน้ำใจของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่จะน้อมถวายแด่รัชกาลที่ 9 โดยเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1 – 30 กันยายน

เมื่อวันที่ 1 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดรับสมัครเป็นจิตอาสาเฉพาะกิจเป็นวันแรก ณ อาคาร 601 สำนักพระราชวัง สนามเสือป่า มีประชาชนจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เดิม พร้อมด้วยประชาชนหน้าใหม่หลากช่วงวัย หลายร้อยคนแต่งกายด้วยชุดสุภาพสีดำ และแต่งกายด้วยเครื่องแบบพระราชทานจิตอาสา เดินทางมาปักหลักค้างคืนรอลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 02.00 น. ครั้นพอใกล้เวลาเปิดรับสมัครในเวลา 08.00 น. ประชาชนต่างทยอยเดินทางมาจำนวนมาก จนแถวต่อล้นออกไปด้านนอกอาคารหลายร้อยเมตร ขณะที่สำนักพระราชวังแจกบัตรคิวจำนวน 2,500 คิว เพื่อรับลงทะเบียนในวันนี้ แต่เนื่องจากมีประชาชนมาจำนวนมาก สำนักพระราชวังต้องแจกบัตรคิวเพิ่มอีก 300 คิว เพื่อรองรับประชาชนที่มาต่อแถวในช่วงเช้าทั้งหมด ทำให้วันนี้แจกทั้งหมด 2,800 คิว แต่บัตรคิวก็หมดตั้งแต่เวลา 10.00 น. ทำให้ผู้ที่มาที่หลังและไม่ได้บัตรคิวต้องมาลงทะเบียนในวันถัดไป ตั้งแต่เวลา 05.30 น.แทน ซึ่งในส่วนจุดรับสมัครสำนักพระราชวัง สนามเสือป่า จะเปิดรับสมัคร 2,500 คนต่อวัน

Advertisement

ขณะที่ประชาชนที่ได้ลงทะเบียนเป็นจิตอาสาเฉพาะกิจแล้ว ต่างมีสีหน้าดีใจ

นางสาวมณฑา สมทรัพย์ อายุ 71 ปี ชาวกรุงเทพฯ มาปักหลักค้างคืนรอตั้งแต่เวลา 02.00 น. ได้บัตรคิวลำดับที่ 1 พร้อมเพื่อนๆ นางสาวนาทนภา มีลาภสม อายุ 57 ปี ชาวเขตบางเขน ได้บัตรคิวลำดับที่ 2 และนางสาวกัณจนา มาลัยทอง อายุ 61 ปี ชาวอ.เมืองจ.ลำปาง ได้บัตรคิวลำดับที่ 3 เล่าด้วยรอยยิ้มร่วมว่า จริงๆ พวกเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มารู้จักหลังร่วมเป็นจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ ซึ่งที่ผ่านมาพวกเราไปร่วมทำจิตอาสาทุกที่ ทำตั้งแต่วันแรก โดยรับหน้าที่ประกอบอาหาร บรรจุอาหาร และแจกอาหาร ส่วนจิตอาสาเฉพาะกิจครั้งนี้ สมัครเป็นจิตอาสาทำดอกไม้จันทน์ ทั้งนี้ รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงร.9 ดีใจที่ได้ร่วมโครงการของในหลวงร.10 ผ่านมาทุกวันพวกตนต้องตื่นตั้งแต่ 03.00 น. เพื่อเดินทางมาเป็นจิตอาสา ทำอย่างนี้ทุกวัน แต่ไม่เหนื่อยเลย เพราะเรามาด้วยความเต็มใจ ไม่หวังอะไร สิ่งที่ได้กลับมาคือความแข็งแรงของร่างกายที่พวกเราไม่มีโรคภัยไข้เจ็บรบกวนเลย

(จากขวา) นางสาวมณฑา สมทรัพย์ นางสาวนาทนภา มีลาภสม และนางสาวกัณจนา มาลัยทอง

“ขอเชิญชวนคนไทยมาร่วมสมัครเป็นจิตอาสาเฉพาะกิจในครั้งนี้ ตามจุดที่เปิดรับสมัคร มาทำเพื่อในหลวงร.9 เป็นครั้งสุดท้าย และเริ่มต้นทำเพื่อในหลวงร.10 จะบอกว่าการเป็นจิตอาสาไม่เหนื่อยเลย แต่ได้ทั้งความสุขกาย ความสุขใจ แม้ไม่รับประทานอะไรก็รู้สึกอิ่ม” นางสาวมณฑา นางสาวนาทนภา และนางสาวกัณจนาเล่าร่วมกัน

Advertisement

ขณะที่ นางสาวนกยูง ภิรมย์แก้ว อายุ 79 ปี ชาวเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มพสกนิกรที่ตามเสด็จในหลวงร.9 ตั้งแต่ปี 2549 เล่าด้วยสีหน้าปลาบปลื้มว่า ตนก็เป็นจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจอยู่เดิมแล้ว แต่ก็อยากมาสมัครเป็นจิตอาสาเฉพาะกิจด้วย เพราะอยากทำความดีเพื่อพ่อ อยากทำตนเป็นตัวอย่างให้ลูกหลานมาร่วมกันทำความดี แม้อายุจะมากแล้ว เดินไม่ค่อยจะไหว แต่ร่างกายโดยรวมก็ยังไหวอยู่ เพราะอยากทำเพื่อในหลวง ร.9

นางสาวนกยูง ภิรมย์แก้

“การเป็นจิตอาสาอาจเหนื่อยตอนแรก แต่พอเราได้รู้จัก ได้มีเพื่อน มันก็หายเหนื่อย และมีความสุขที่ได้ทำเพื่อในหลวง ร.9 โดยครั้งนี้ดิฉันสมัครเป็นจิตอาสาประเภทงานบริการประชาชน” นางสาวนกยูงกล่าว

นายสมศักดิ์ ต่ายแสง อายุ 67 ปี ชาวเขตบางกะปิ กรุงเทพฯ กล่าวว่า หลังจากปลดเกษียณจากการทำงานที่ฝ่ายตกแต่งบูรณะ สำนักโยธา กทม. ก็อยากหากิจกรรมทำคลายเหงา โดยเข้ากลุ่มชมรมเรารักในหลวงเขตบางกะปิ และอาสาสมัครสาธารณสุข และก่อนหน้านี้ได้สมัครเป็นจิตอาสาทำความสะอาดของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งนี้มาสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ก็รู้สึกดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในพระราชพิธีสำคัญ ได้ทำงานบริการประชาชน

นายสมศักดิ์ ต่ายแสง

“ก่อนจะไปช่วยคนอื่นได้เราต้องช่วยตัวเราก่อน ทำร่างกายของเราให้แข็งแรง แล้วเริ่มจากช่วยเหลือคนในชุมชน แล้วขยายมาสู่สังคม ครั้งนี้ตั้งใจเป็นจิตอาสาทำความสะอาดพื้นที่ การเป็นจิตอาสาจิตใจต้องกว้าง เบิกบาน ใจเย็น เจอคนหมู่มากต้องไม่ไปทะเลาะกับใครหรือสร้างความขัดแย้งเพิ่ม สิ่งที่ได้ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทองแต่ได้ความอิ่มใจ มีความสุข และผลพลอยได้ที่ไม่น่าเชื่อคือทำให้สุขภาพเราดีขึ้น ได้พูดคุยได้ขยับแข้งขา คนแก่อย่างเราถ้าอยู่เฉยๆ นั่งๆ นอนๆ ก็รังแต่บั่นทอนสุขภาพ งานจิตอาสา 10 กว่าวันถ้ามาได้ทุกวันก็อยากมา จะพยายามมาให้ได้มากที่สุดเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล” นายสมศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประชาชนที่มาสมัครเป็นจิตอาสาเฉพาะกิจ จะได้รับสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ หมวกแก๊ป ผ้าพันคอ เสื้อโปโลสีดำ ปลอกแขนซึ่งจะมีแถบสีตามประเภทงานจิตอาสา ในส่วนเด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี ที่มาลงทะเบียนเป็นจิตอาสาเฉพาะ จะได้รับพระราชทานกระปุกออมสิน ซึ่งมีภาพวาดฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และข้อความพระราชทานว่า “ครอบครัวสุขสันต์ ช่วยกันเก็บออม” ส่วนอีกด้านหนึ่งพระราชทานข้อความว่า “พลังของคนคิดดี ทำดี และมีกตัญญุตา เป็นพลังที่มีอานุภาพ ที่จะดำรงรักษาความสุข ความเจริญอย่างวัฒนาถาวร ของครอบครัว ชุมชน และชาติบ้านเมืองต่อไป และทรงลงพระปรมาภิไธย วันที่ 28 ก.ค. 60″ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนรู้จักการมัธยัสถ์ อดออม มีความกตัญญู มีจิตอาสาในการทำความดีเพื่อส่วนรวม และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพและทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติต่อไป

กระปุกออมสินพระราชทาน

ทั้งนี้ สำหรับจิตอาสาเฉพาะกิจที่ลงทะเบียนแล้ว จะได้รับของพระราชทานระหว่างวันที่ 7-12 ตุลาคม ณ ที่ลงทะเบียน ก่อนเริ่มปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 18-31 ตุลาคม อย่างไรก็ตาม จิตอาสาเฉพาะกิจเปิดรับสมัครตั้งอต่วันนี้ถึง 30 กันยายน เวลา 08.00 – 16.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ กรุงเทพมหานคร สมัครที่ อาคารรับรองสนามเสือป่า ปฏิบัติหน้าที่ ณ พระลานพระราชวังดุสิต และพื้นที่ใกล้เคียง และสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ส่วนต่างจังหวัด สมัครที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ และต่างประเทศ สมัครที่สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุล โดยใช้หลักฐานการสมัคร ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี นำสูติบัตรหรือทะเบียนบ้านมาแสดงด้วย และในส่วนจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ ให้นำสมุดบันทึกความดี เราทำความ ดี ด้วยหัวใจมาด้วย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกวัน โทร.1510 และ 1511 ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. นอกเวลาราชการที่หมายเลข โทร.1548

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image