เมืองต้นน้ำบางปะกง “เทศบาลตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี” อาจจะเป็นเมืองไม่ใหญ่มากนัก แต่คนในชุมชนล้วนแล้วมีคุณภาพชีวิตที่ดี ใช้ชีวิตกันอย่างสุขสงบ ภายใต้การดูแลของนักบริหารท้องถิ่น รังสรรค์ บุตรเนียร นายกเทศมนตรีตำบลกบินทร์ ที่ใส่ใจในความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิดตลอดการทำงาน 33 ปี ตามวิสัยทัศน์ “เทศบาลตำบลกบินทร์ เมืองน่าอยู่ มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต”
รังสรรค์กล่าวสั้นๆ ถึงเทศบาลตำบลกบินทร์ว่า เป็นเทศบาลขนาดเล็กถึงกลาง จัดตั้งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2500 จนถึงปัจจุบัน เทศบาลตำบลกบินทร์ได้รับการยกฐานะ และการบริหารจัดการบ้านเมืองส่วนท้องถิ่นมาเป็นเวลากว่า 59 ปี จากฐานะสุขาภิบาล ก้าวสู่เทศบาลตำบล ปัจจุบันมีประชากรเกือบ 4,000 คน
ในอดีตทุกปีที่นี่ต้องประสบปัญหาอุทกภัย โดยเฉพาะปี 2556 ชาวกบินทร์บุรีต้องเผชิญกับอุทกภัยหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ ในเวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริให้มีการสร้างเขื่อนนฤบดินทรจินดาบนเขาใหญ่ ทำให้บรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปราจีนบุรีบางส่วนได้
“เทศบาลตำบลกบินทร์มีการพัฒนาในทุกๆ ด้าน เช่นเดียวกับท้องถิ่นทั่วไป นโยบายหลักคือการให้บริการขั้นพื้นฐานและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีมีคุณภาพ มีการพัฒนาคนและชุมชนให้เข้มแข็ง ภายใต้การบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี”
สำหรับนโยบายการพัฒนาที่นี่ให้ความสำคัญเกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา เด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มที่ต้องดูแลให้การศึกษาเพื่อให้เติบใหญ่เป็นอนาคตที่ดีของสังคมและประเทศชาติ ส่วนผู้สูงวัยจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษเช่นกัน มีชมรมผู้สูงอายุ โรงเรียนผู้สูงอายุ และกองทุนผู้สูงวัยเพื่อส่งเสริมสุขภาพ เป็นต้น
ใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม
นักบริหารท้องถิ่นท่านนี้ยังมีวิสัยทัศน์ด้านการลดมลพิษให้เมือง โดยเฉพาะมลพิษทางอากาศ ด้วยโครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ของสำนักงานเทศบาลตำบลกบินทร์ ซึ่งนอกจากจะลดการเกิดมลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นจากการผลิตไฟฟ้าแล้ว ที่สำคัญคือ สามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้ถึงกว่า 50%
“ปัญหาระดับชาติที่ทุกท้องถิ่นต้องเจอและพยายามจัดการแก้ไขก็คือเรื่องขยะ โดยในปี 2562 รัฐบาลมีนโยบายให้ทุกจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนอย่างครบวงจร หรือโครงการจังหวัดสะอาด เทศบาลตำบลกบินทร์จึงได้ประชุมหารือร่วมกับชาวบ้าน มีการมอบหมายให้ชุมชนบ้านท่าหินเป็นชุมชนนำร่องทำเรื่องการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง จนถึงปลายทาง ดำเนินการจนถึงปี 2564 ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับภาค เมื่อถึงปี 2566 สามารถเข้าชิงในระดับประเทศ”
การทำงานของชุมชนบ้านท่าหิน มีการบริหารจัดการขยะภายในชุมชนอย่างเคร่งครัด ด้วยการจัดตั้งธนาคารขยะชุมชน นำขยะมาแยกประเภท โดยนำขยะที่สามารถขายได้ ไปขายเพื่อนำเงินเข้ากองทุน แต่ละครัวเรือนต้องคัดแยกขยะอินทรีย์ และขยะรีไซเคิล ส่วนขยะที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้จะมีการแยกเป็นส่วนๆ
หากเป็นขยะเปียกจะถูกนำไปทำน้ำหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ บางส่วนนำไปใช้เลี้ยงไส้เดือนเพื่อขายมูลไส้เดือน ส่วนขยะประเภทที่ขายไม่ได้ก็นำมาแปรรูปเป็นอย่างอื่นที่สามารถใช้ประโยชน์ได้
ส่งเสริมสุขภาพอนามัย-นันทนากีฬาการ
ด้านการดูแลสุขภาพอนามัยคนในพื้นที่นั้น เทศบาลตำบลกบินทร์มีศูนย์บริการสาธารณสุขโดยมีแพทย์ประจำ มีบริการแพทย์แผนไทย และมีห้องทันตกรรมให้บริการรักษาสุขภาพฟันขั้นพื้นฐาน เช่น ขูดหินปูน ถอนฟัน อุดฟัน
มีโครงการพันเตียงสำหรับบริการผู้สูงอายุเมื่อเจ็บป่วยแล้วเดินทางลำบาก เพียงติดต่อเข้ามา ศูนย์บริการสาธารณสุขจะจัดทีมออกไปให้บริการดูแลถึงบ้าน นอกจากนี้ก็ยังมีหลายโครงการสำหรับผู้สูงอายุ เช่น โรงเรียนผู้สูงอายุ กองทุนผู้สูงวัย ฯลฯ ดังที่กล่าวข้างต้น
สำหรับเด็กและเยาวชนมีการส่งเสริมในหลายด้าน ทั้งการกีฬา ศิลปวัฒนธรรม ดนตรี มีโรงยิม สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส สนับสนุนให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
“โรงเรียนของเทศบาลมี 2 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 1 (กบินทร์ราษฏรอำรุง) และโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใหม่ท่าพาณิชย์) กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เวลานี้กำลังมีแผนจัดสร้างสถานที่ที่ทำให้เด็กมีการพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจ ได้สัมผัสกับธรรมชาติ ไม่ใช่อยู่แต่ในห้องแอร์”
นอกเหนือจากการศึกษาแล้ว ยังสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ เช่น เศรษฐกิจพอเพียง ให้เด็กนักเรียนปลูกผักเพื่อนำมาใช้ประกอบมื้ออาหาร ด้านกีฬาที่โดดเด่นมากๆ คือ เซปักตะกร้อ เป็นแชมป์ระดับประเทศ รองลงมาคือเปตอง มีเด็กนักเรียนได้เป็นตัวแทนไปแข่งในระดับชาติ
มุ่งมั่นทำงานเพื่อคุณภาพชีวิตประชาชน
ภายในสำนักงานเทศบาลตำบลกบินทร์แบ่งการทำงานออกเป็นกองต่างๆ อาทิ สำนักทะเบียนท้องถิ่นซึ่งทำงานและให้บริการแบบออนไลน์ เคยได้รับรางวัลสำนักทะเบียนมาตรฐานมาแล้ว ในส่วนของงานคลังมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาให้บริการประชาชน
นายกฯ กบินทร์ ย้ำว่า มีการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนด้วยการติดตั้งกล้อง CCTV ทั้งเมือง โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจที่มีผู้คนจำนวนมาก แม้แต่รถที่จอดไว้แล้วถูกชนโดยไม่รู้ว่าใคร เจ้าของรถคันนั้นสามารถมายื่นคำร้องขอเปิดดูกล้องได้ แม้แต่งานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยก็มีกำชับให้เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมพร้อมให้บริการอยู่ตลอดเวลา
ทุกนโยบายและพันธกิจที่เทศบาลตำบลกบินทร์ได้ดำเนินงาน โดยยึดประชาชนเป็นหลัก จนเกิดผลงานเป็นที่ประจักษ์ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ เขาบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย บางปัญหาถูกแก้ไขโดยระดมความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ และทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนจนได้รับความร่วมมือ
“การบริการประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ ต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แต่บางปัญหายอมรับว่า ไม่สามารถแก้ไขให้ได้เนื่องจากขัดต่อระเบียบหรือข้อบังคับบางอย่างก็ต้องอธิบายกันให้เข้าใจ หรือบางเรื่องสามารถยืดหยุ่นได้ก็จะทำให้ บางคนเดินทางมาจากจังหวัดไกลๆ ก็ต้องอำนวยความสะดวกอย่างดีที่สุด มีความพยายามแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ดีที่สุด”
สำหรับการบริหารท้องถิ่นภายใต้รัฐธรรมนูญ ปี 2560 เขาให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า เป็นการบีบท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณ การบริหารงานบุคคล เพราะทุกงานที่ทำในพื้นที่จำเป็นต้องอาศัยบุคลากร ซึ่งกว่าจะเกิดเป็นความชำนาญในแต่ละตำแหน่งต้องใช้ทั้งเวลาและประสบการณ์
“บางครั้งเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการคัดสรรมาจากส่วนกลาง มีภูมิลำเนาค่อนข้างไกล จนทำให้ทำงานที่นี่ได้ไม่นาน แต่ถ้าเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่อยู่แล้วจะไม่ค่อยมีปัญหาลักษณะนี้ ทำให้ทำงานประสานกันได้อย่างต่อเนื่อง จึงขอฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะจัดตั้งในเร็วๆ นี้ว่า ในส่วนของเทศบาลตำบลกบินทร์นั้นมีโครงการที่วางแผนในอนาคตหลายโครงการ แต่ติดขัดด้วยเรื่องของงบประมาณ รวมถึงอยากให้มีการปรับแก้เรื่องกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ เพื่อให้เราดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้ได้มากกว่านี้”
