เวลา 00.30 น.วันที่ 10 ก.ค.เกิดเหตุฆ่ากันตายภายในร้านเสริมสวย ซอยแหลมพระเมรุ-วัดคู่สร้าง อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถว 2 ชั้นปลูกติดกันรวม 15 ห้อง ด้านล่างเปิดให้เช่า 4 ห้อง ห้องแรกเป็นร้านเสริมสวยชื่อ พร บิวตี้-ชาลอน หลังร้านศพนางสาว วัลย์นภัสร์ ชาคำนันท์ อายุ 49 เจ้าของร้านนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนพื้น สภาพศพถูกของมีคมปาดลำคอเป็นแผลเหวอะหวะ ใกล้กันพบมีดปอกผลไม้เปื้อนเลือดวางอยู่บนถังซักผ้า และที่กลางร้านมีรอยเท้าเปื้อนเลือด 3 รอย
จากการสอบถามผู้พบศพคนแรกทราบว่าผู้ตายพักอาศัยอยู่ในร้านคนเดียว สามีและลูก จะมาแวะเยี่ยมเยียนอาทิตย์ละครั้ง บางครั้งมีกลุ่มเพื่อนสนิทแวะมาหาบ้าง ตนเปิดร้านขายของชำอยู่กับแม่ถัดไปจากร้านผู้ตาย 2 ห้อง จะเปิดขายของเวลา 17.00 น.ทุกวัน เวลา 23.00 น.เห็นผิดสังเกตว่าร้านผู้ตายยังไม่ปิดประตูเปิดไฟทิ้งไว้ทั้งร้าน ปกติผู้ตายจะปิดร้าน 19.00 น. เรียกแม่ให้เดินมาดูพบว่าไม่ได้ล็อกประตู เปิดประตูเดินเข้าไปในร้านพบผู้ตายนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด
ต่อมาเวลา 05.30 น.ตำรวจจับกุมตัว นางศิวาพร ใจสุข และนางสาวกรรณิการ์ ธิริ พร้อมด้วยของกลางเป็นธนบัตร 6,000 บาท สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 1 บาท เสื้อผ้าเปื้อนเลือดที่ใส่ก่อเหตุ 2 ชุด โดยจับกุมนางศิวาพร ได้ภายในอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อและจับกุมตัวนางสาวกรรณิการ์ ได้ในกระต๊อบริมวังที่ตั้งอยู่ภายในซอยที่เกิดเหตุ
ตำรวจชุดจับกุมวางแผนออกหาข่าวพร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุมาวิเคราะห์หาบุคคลที่ออกมาจากร้านล่าสุด และกล้องวงจรปิดจับภาพผู้หญิง 2 คน เดินออกมาจากร้านเวลา 17.23 น.เลี้ยวหายไปข้างตึกแถวที่อยู่ใกล้กัน
จากการสอบสวนนางศิวาพร ให้การอ้างว่ารู้จักกับผู้ตาย ตอนที่ทำงานเป็นพนักงานฝ่ายผลิตอยู่ในโรงงานผลิตพัดลมย่านพระสมุทรเจดีย์ แต่ตกงานมาหลายเดือนเงินเก็บหมด จึงได้วางแผนทำทีเข้าไปทำผมในร้านของผู้ตาย สบโอกาสไม่มีลูกค้าและผู้ตายเผลอใช้มือจิกผมผู้ตายลากไปด้านหลังร้าน ให้นางสาวกรรณิการ์ดูต้นทางและหามีดมาให้เพื่อข่มขู่ผู้ตาย
แต่ผู้ตายขัดขืนจึงใช้มีดกระหน่ำแทงผู้ตายจนล้มลงเลือดไหลนอง ก่อนจะใช้มีดปาดที่ลำคอผู้ตายจนเสียชีวิตแล้วช่วยกันค้นตัวล้วงเงินสดที่ใส่ไว้ในเอี้ยมกันเปื้อนไป 6,000 บาทพร้อมปลดสร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท
หลังจากนั้นรีบเดินออกไปจากร้านในท่าทางปกติเหมือนไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้น ก่อนเข้าไปหลบพักอยู่ในห้องพักที่ห่างจากร้านเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร พร้อมแบ่งเงินกันและแยกย้ายกันไป
ตำรวจตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
