ตำรวจกองปราบ นำกำลังจับกุม นายศักดา ดำช่วย อายุ 36 ปี ชาว อ.เมือง จ.พัทลุง ตามหมายจับของศาลแขวงสุรินทร์ ข้อหาฉ้อโกง จับกุมได้ที่ลานจอดรถห้างสยามพารากอน กทม.
พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม บอกว่า นายศักดา ได้แช็ตคุยกับผู้เสียหายเป็นหญิงสาวคนหนึ่งผ่านแอพบีทอล์ก เริ่มแรกก็ทักทายเข้าตีสนิทอยากคุยด้วย จนผู้เสียหายเชื่อใจว่าผู้ต้องหามาดี หลังได้คุยกันมาสักระยะหนึ่ง ผู้ต้องหาอ้างว่าโสดไม่มีครอบครัว ทั้งที่ความจริงแล้วผู้ต้องหามีภรรยาอยู่กินกันมากว่า 10 ปี มีลูกด้วยกันอยู่แล้ว แต่ผู้ต้องหาใช้วิธีสร้างไลน์พ่อ-น้องสาวปลอมเพื่อเข้ามาคุยช่วยยืนยันให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ
นอกจากนั้น ผู้ต้องหายังหลอกผู้เสียหายว่าทำงานรับราชการระดับซี 6 อยู่ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ ย่านเทเวศร์ กทม. และเป็นลูกชายของนายทหารยศ พ.ท. ประจำการอยู่ที่ค่ายจ.ยะลา หากผู้ต้องหาได้ไปช่วยงานตำแหน่งจะขึ้นเป็นซี 7 ผู้เสียหายจึงตัดสินใจลองคบดู
ปรากฏกลับไม่เป็นอย่างที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง กลับแต่งเรื่องมาเพื่อหลอกเอาเงินผู้เสียหาย สร้างเรื่องให้น่าสงสาร โดยจะมีไลน์พ่อและไลน์น้องสาวคอยช่วยหนุนตลอด ซึ่งไลน์ดังกล่าวผู้ต้องหาได้สร้างขึ้นมาและคุยกับผู้เสียหายเองเพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและตายใจ
นอกจากนี้ผู้ต้องหายังสร้างเรื่องบอกผู้เสียหายว่าหากไปทำงานก่อสร้างที่ยะลาไม่ได้ จะต้องโดนค่าปรับถึง 650,000 บาท ต้องขายบ้านขายรถที่กทม. ไปจ่ายแต่เงินไม่พอค่าปรับขาดอยู่ 35,000 บาท ผู้ต้องหาจึงขอร้องให้ผู้เสียหายช่วยหาให้อ้างว่าจะคืนให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปให้
หลังจากนั้นยังสร้างเรื่องขึ้นมาอ้างกับผู้เสียหายว่าอยากถ่ายพรีเวดดิ้งแต่งงาน และพาผู้เสียหายไปถ่าย พอถ่ายเสร็จจะจ่ายเงินก็บอกว่ากระเป๋าเงินหาย ให้ผู้เสียหายต้องจ่ายค่าพรีเวดดิ้งแทน พร้อมกับหลอกจะแต่งงานกัน โดยบอกว่าได้ประสานทางบ้านสั่งทำการ์ด สั่งโต๊ะจีน ดนตรี ไว้แล้ว
ต่อมาเมื่อใกล้ถึงวันแต่งประมาณ 5 วัน ไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ และหายไปพร้อมกับทองรูปพรรณของผู้เสียหายน้ำหนัก 5 บาท ราคาประมาณ 100,000 บาท ผู้เสียหายจึงติดต่อไปยังรายชื่อเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ที่ผู้ต้องหาเคยส่งมาให้เพื่อส่งการ์ดแต่งงาน หนึ่งในนั้นมีชื่อท่านพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ด้วย กระทั่งเมื่อไปสอบถามข้อมูลต่างๆ จึงทราบว่าถูกหลอกลวงเพราะผู้ต้องหาเป็นแค่คนขับรถ จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ก่อนจะตามจับกุมได้ดังกล่าว ภายหลังการสอบสวนก็จะส่งตัวให้ สภ.เมืองสุรินทร์ ดำเนินคดีต่อไป
