จากกรณีโลกโซเชียล แห่แชร์คลิปที่ถ่ายจากงานแต่งงานแห่งหนึ่งที่ จ.ราชบุรี โดยเป็นภาพเจ้าสาวในชุดวิวาห์ ขึ้นไปพูดบนเวที ขอโทษแขกที่มาร่วมงาน เนื่องจากเจ้าบ่าวไม่มางานแต่ง ทำให้ต้องยกเลิกงานไป และต่อมายังมีการเปิดภาพพรีเวดดิ้งของเจ้าสาวและเจ้าบ่าวที่ได้ถ่ายไว้ก่อนงานแต่งงาน ในวันที่ 22 ก.ค.
วันที่ 23 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ “น้องมะนาว” (ขอสงวนชื่อนามสกุล) เจ้าสาวผู้เสียหาย ที่อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยบรรยากาศภายในบ้านยังมีการประดับตกแต่งซุ้มและเครื่องอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบพิธีมงคลสมรส รวมถึงบรรดาเครื่องครัวและที่บริเวณจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสด้วย
น้องมะนาว เปิดเผยถึงเรื่องราววิวาห์ล่มในครั้งนี้ว่า ตนรู้จักกับเจ้าบ่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก เนื่องจากฝ่ายผู้ชายมีหน้าตาดีและชอบขับรถยนต์แต่ง ซึ่งก็ตรงกับที่ตนทำงานเป็นฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัทรถยนต์ยี่ห้อหนึ่งในจ.ราชบุรี ด้วยความที่มีความรู้คล้ายๆกันและชอบในเรื่องของรถยนต์จึงคุยกันถูกคอและเกิดความสัมพันธ์ทางชู้สาว และได้มีการตกลงที่จะแต่งงานกัน
น้องมะนาว กล่าวต่อว่า โดยที่ฝ่ายเจ้าบ่าวประกอบด้วย พ่อ แม่ และญาติรวม 7 คน ได้เดินทางมาพูดคุยตกลงค่าสินสอดกับทาง พ่อ แม่ ของตนที่บ้าน โดยมีญาติอยู่ด้วย ซึ่งการเจราจาสู่ขอก็เป็นไปด้วยดีด้วยเงินค่าสินสอด 2 แสนบาท ทองหมั้นอีก 4 บาท จากนั้น ได้ตกลงกันว่าทางฝ่ายเจ้าสาวจะเป็นผู้ไปดูฤกษ์แต่งเอง จนได้ฤกษ์ตรงกับวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงได้โทรศัพท์ไปบอกทางฝ่ายเจ้าบ่าวให้รับทราบ
เจ้าสาว กล่าวต่อว่า จากนั้น ตนและเจ้าบ่าวก็ได้ไปถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยกัน เพื่อจะนำภาพมาใช้ภายในงานและโชว์ให้เพื่อนๆได้ชมความสวยงามของภาพ และหลังจากที่ตนได้โพสต์ภาพพรีเวดดิ้งผ่านเฟซบุ๊กของตน จู่ๆก็มีภาพปรากฏผ่านที่หน้าฟีดของเฟซบุ๊กของฝ่ายเจ้าบ่าว ซึ่งเป็นภาพเจ้าบ่าวโพสต์คู่กับหญิงสาวอื่นที่ไม่ใช่ตน แถมยังมีข้อความที่ส่อไปในเชิงความสัมพันธ์ หรือแสดงตนว่าเป็นแฟนกัน
น้องมะนาว กล่าวอีกว่า จนใกล้ถึงวันแต่งงาน ตนและญาติได้ติดต่อฝ่ายครอบครัวเจ้าบ่าว เพื่อถามถึงเครื่องขันหมากและแจ้งถึงขั้นตอนการจัดงานที่ฝ่ายเจ้าสาววางไว้ เมื่อถึงเวลาที่จะต้องซื้อเครื่องขันหมาก ทางตนก็แจ้งให้ฝ่ายเจ้าบ่าวทราบว่าต้องจัดซื้อราคาหมื่นบาทเศษ แต่ฝ่ายเจ้าบ่าวตอบกลับว่า มีเงินให้ได้เพียง 7,000 บาท ซึ่งฝ่ายตนก็ตกลงและให้ฝ่ายเจ้าบ่าวโอนเงินมาให้ และตนได้ออกสมทบไปอีก 5,000 บาท เพราะอยากให้พิธีออกมาสมบูรณ์ที่สุด
น้องมะนาว กล่าวว่า จากนั้น ฝ่ายของตนก็ถามถึงเงินสินสอดทองหมั้น แต่กลับไม่มีเงินสินสอดตามที่ตกลงกันไว้ ทางฝ่ายตนจึงช่วยหาทางออก โดยขอให้ฝ่ายเจ้าบ่าวหาเงินมา 1 แสนบาท และฝ่ายตนจะสมทบให้ แต่ฝ่ายเจ้าบ่าวมีให้เพียงแค่ 60,000 บาท ซึ่งตนและญาติก็ตกลงตามนั้น ฝ่ายเจ้าบ่าวยกมา 60,000 บาท ฝ่ายเจ้าสาวสมทบให้ 140,000 บาท ทองอีก 4 บาท เพื่อให้ครบตามจำนวนที่ตกลงไว้ คือ 2 แสนบาท และทองคำ 4 บาท
จ้าสาว กล่าวต่อว่า ส่วนฝ่ายเจ้าบ่าวก็พยายามติดต่อเข้ามาทางญาติของตน ซึ่งบอกว่าเจ้าบ่าวหายไปแต่ขบวนขันหมากพร้อมที่จะมา แต่ไม่มีเจ้าบ่าวมาด้วยจะยังให้มาอีกหรือไม่ ซึ่งญาติก็ตอบกลับไปว่า ถ้าไม่มีเจ้าบ่าวก็ไม่ต้องมา หากจะหาผู้ที่แทนเจ้าบ่าวก็ไม่ถูกต้องแถมยังมีข้อต่อรองถึงเรื่องต้องมีค่าจ้าง หรือให้นำเงินสินสอดไปให้ เพราะคิดว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้ว เนื่องจากตนไม่ได้ผิดอะไร และงานก็ดำเนินการตามทุกขั้นตอนจนจบ
น้องมะนาว กล่าวอีกว่า จากนั้น จึงเดินทางไปยังศาลาประชาคมภายในวัดพิกุลทอง เพื่อต้อนรับแขกที่มาร่วมงานและยังไม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อตนและครอบครัวได้เดินเก็บซองเสร็จ จึงตัดสินใจขึ้นเวทีกล่าวขอบคุณและขออภัยแขกที่มาร่วมงาน เพราะเจ้าบ่าวไม่มางานแต่ง แต่งานยังคงต้องเดินหน้าจนจบจากการวิวาห์เป็นงานทำบุญบ้านและงานของครอบครัว ตามที่ปรากฏในคลิปข่าวดังกล่าว
จากนั้นช่วงบ่ายของเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าสาวพร้อมญาติ ได้เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกับทางฝ่ายเจ้าบ่าวต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี เพื่อให้ทางฝ่ายเจ้าบ่าวชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นตามใบเสร็จจริงทั้งหมด ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้เชิญให้ทั้งสองฝ่ายมาเจรจาตกลงกันอีกครั้ง
