ล่าตัว ‘เสี่ยอ้วนภูเก็ต’ บงการฆ่า ‘สปาย-ฟอส’ กลางเขาชีจรรย์

จากคดีคนร้ายบุกยิง นายอนัตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส อายุ 20 ปี และนางสาวปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือสปายอายุ 20 ปี อย่างโหดเหี้ยมบริเวณลานจอดรถหน้าเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี  ซึ่งคดีนี้ครั้งแรกเข้าใจว่าผู้ตายทั้งคู่เป็นแฟนกัน แต่ล่าสุด ญาติเผยทั้งคู่เป็นญาติสนิทกัน ฝ่ายชายน้องฟอส มีลักษณะเป็นชายตุ้งติ้ง เป็นเพื่อนสาวคนสนิทของน้องสปาย คดีนี้กลายเป็นมีเงื่อนงำหลายเรื่อง เพราะไม่ใช่แค่เพียงชู้สาวเรื่องเดียว

โดยพลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดี โดยพบว่า ปมสังหารยังมุ่งเป้าไปที่เรื่องชู้สาว แต่ยังมีปมอื่นๆอีกมากมายที่ไม่สามารถระบุได้ โดยเบื้องต้น ได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ 3 คนประกอบด้วย

1.นาย ปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี

Advertisement
  1. นายสายันต์ ศรีสุข อายุ 43 ปี
  2. นาย จิรศักดิ์ อุนัยบัน อายุ 34 ปี

ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร

ซึ่งเสี่ยอ้วน เจ้าของกิจการสถานบันเทิง ในจังหวัดภูเก็ต มีความเกี่ยวข้องกับผู้ตายเคยเลี้ยงดูน้องสปายมาก่อน  และช่วงหลังถูกตีตัวออกห่าง คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องหึงหวงชู้สาว อย่างเดียว แต่มีอีกหลายเรื่อง ทั้งเรื่องธุรกิจสีเทา ธุรกิจสถานบันเทิง และพฤติกรรมมาเฟีย ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนลงพื้นที่จ.ภูเก็ตสืบสวนปมบางอย่างที่เชื่อมโยงกัน และเชื่อว่า อาจมีผู้ร่วมขบวนการอยู่ที่ภูเก็ตด้วย

พ่อค้าส้มตำ พยานในที่เกิดเหตุเล่าว่า วันเกิดเหตุคนเยอะมาก แต่ตนเห็นผู้ตายพร้อมเพื่อนเดินข้ามถนนมาซื้อน้ำมะพร้าวข้างร้าน จากนั้นทั้งคู่เดินขึ้นรถไปก่อน โดยที่เพื่อนยังยืนอยู่ตรงร้านน้ำมะพร้าว โดยเห็นฝ่ายชายขึ้นไปนั่งในรถด้านข้างคนขับ ส่วนฝ่ายหญิงกำลังจะก้าวขาขึ้นรถก็ถูกยิง

Advertisement

จากนั้นก็มีเสียงดังสนั่นเหมือนจุดปะทัด หลังจากนั้นคนขับรถก็วิ่งหน้าตาตื่นมาขอความช่วยเหลือว่าลูกค้าเขาถูกยิง จังหวะนั่นเพื่อนของทั้งสองคนยืนงง ไม่ได้ทีท่าทีตกใจหรือร้องไห้ กังวลเหมือนคนขับรถ และระหว่างที่ทั้งหมดนั่งกินน้ำมะพร้าวก็ไม่มีท่าทีพิรุธไม่มีการพูดคุยโทรศัพท์ แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนคือมีคนลงมาจากรถใช้ปืนยิงกระหน่ำ และขึ้นรถปิดประตูเสียงดัง ก่อนจะขับรถเก๋งสีขาว ป้ายแดง พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

ทางด้านคุณอ้อม พี่สาวของน้องฟอส ผู้เสียชีวิตเล่าว่า น้องฟอสไม่ใช่แฟนของน้องสปายแต่เป็นลักษณะเพื่อนสาวสนิทกันมาก  ซึ่งเสี่ยอ้วนรู้มาตลอดว่าฟอสไม่ใช่แฟนของสปาย เพราะเคยพาฟอสไปเที่ยวสถานบันเทิงกลุ่มชายรักชายมาแล้ว และก่อนเกิดเหตุ ฟอสบอกกับครอบครัวว่าจะเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นกับญาติในเดือนหน้า โดยเดินทางไปคนเดียวสปายไม่ได้ไปด้วย แต่ก็มาเสียชีวิตก่อน

ส่วนสปาย เป็นหญิงสาวหน้าตาดี มีคนมาชอบหลายคน โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ในแต่ละวันน้องสปายได้ทิปจาการทำงานหลักหมื่น ส่วนเรื่องเสี่ยอ้วนมาชอบน้องสปายและเลี้ยงดูน้องสปายนั้นทุกคนก็ทราบแต่ไม่เคยเห็นเสี่ยอ้วนให้เงินก้อนกับน้องสปาย แต่เห็นแค่เลี้ยงข้าวและให้ค่าขนมเป็นบ้างครั้ง

สำหรับเสี่ยอ้วนและสปาย คบหากันนั้น ทุกคนทราบ แต่ไม่แน่ใจน้องหญิงเต็มใจคบหรือไม่ เพราะเสี่ยอ้วนเป็นคนอารมณ์ร้อน หากไม่กินเหล้าก็เป็นคนดีดูแลสปาย เคยบอกว่าหากสปายแต่งงานด้วยจะเลี้ยงดูให้สบาย ไม่น้อยหน้าคนอื่น อยากได้อะไรจะซื้อให้หมด

บ้านสปายจะเรียกสินสอดกี่ล้านก็พร้อมยอมให้ จนมีช่วงหนึ่งน้องสปายก็คิดใจอ่อนอยากแต่งงานกับเสี่ยอ้วน เพราะอยากให้ครอบครัวอยู่สบาย แต่ก็กลัวเวลาที่เสี่ยอ้วนเมาเพราะเป็นคนอารมณ์ร้อน และมักทุบตีน้องสปายอยากได้อะไรต้องได้ เคยมีพฤติกรรมว่าต้องการพบน้องสปายก็จะสั่งให้นั่งอยู่ด้วยตลอดเวลาและโวยวายเสียงดังห้ามลุกหนีไปไหน

ก่อนเกิดเหตุไม่นาน  เสี่ยอ้วนโทรมาหากลุ่มเพื่อน ของฟอสและสปาย บอกว่า ให้ฟอสเอาเงินมาคืน และเอาสปายมาหา  หากไม่มาจะตามฆ่าทั้งคู่ ให้เอาเงินมาคืน และอย่าคิดว่าจะหนีเสี่ยอ้วนได้  ตอนนั้นพวกเพื่อนก็ตกใจว่าเงินอะไร เพราะไม่เคยรู้เรื่องเงินระหว่างเสี่ยอ้วน ฟอส และ สปาย ว่าคือเงินอะไร และไม่แน่ใจจะเกี่ยวข้องกับเงินจำนวน1ล้านบาทที่โอนเข้าบัญชีแม่ของสปายหรือไม่

ส่วนกรณีที่มีรายงานว่า เสี่ยอ้วนให้เงินก้อนหนึ่งกับน้องสปายและฟอส มาเที่ยววันเกิดนั้น คุณอ้อมระบุว่าไม่ทราบแต่รู้ว่าทั้งสปายและฟอสทำงานเก่งและมีเงินเก็บ เขาและเพื่อนต้องการไปเที่ยวฉลองวันเกิดส่วนเรื่องเงินไม่รู้ว่าเงินที่เขาทั้งสองคนใช้นั้นเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับเสี่ยอ้วนหรือไม่

ส่วนนายอั้ม เพื่อนสนิททั้งสองคนที่เป็นหนุ่มกลุ่มชายรักชาย ซึ่งเสี่ยอ้วนส่งนายสายันต์มาตีสนิทและคอยรายงานความเคลื่อนไหวทั้งน้องฟอสและน้องสปายจนกระทั่งถูกยิง

บอกว่าตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ ไม่รู้มาก่อนว่าจะมีคนตามมายิงเพื่อน แต่พวกเราเป็นเพื่อนที่รักกันมาก เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเรารู้เห็นหรือรู้จักกับเสี่ยอ้วนมาก่อนหรือไม่ นายอั้มเงียบและไม่ขอตอบ

สำหรับตัวอั้มนั้น คุณอ้อมพี่สาวของน้องฟอส ระบุว่าทางครอบครัวไม่ปักใจเชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ แต่ตั้งข้อสังเกตุว่าระหว่างที่ ทั้งหมดไปเที่ยวกัน หรืออยู่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆจะไลฟ์สด และพูดตลอดว่าตอนนี้เราอยู่ที่นี่ เราอยู่ที่ไหน ซึ่งก็เป็นที่สงสัยว่าอั้มจะรู้เห็นหรือไม่

นอกจากนี้สิ่งที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตกังวลใจว่าตร.จะไม่สามารถดำเนินคดีกับเสี่ยอ้วนได้ เพราะที่ผ่านมาขนาดเสี่ยอ้วนเคยโดนคดียิงคนตายก็ยังไม่ถูกดำเนินคดี มาเรื่องนี้ก็อยากขอให้ตร.จับกุมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเสี่ยอ้วนจะชอบพูดเสมอว่า มีเงินก็ไม่ต้องติดคุก เขาสามารถทำได้ และไม่เคยเกรงกลัวใคร

สำหรับคดีนี้ มีรายงานจากชุดสืบสวนว่าหลักฐานชิ้นสำคัญคือกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพได้ชัดเจน และที่สำคัญมีรายงานว่าการลงมือยิงครั้งนี้เสี่ยอ้วนเลือกจะลงมือยิงเอง ด้วยความโกรธแค้น เลือกจะยิงน้องสปาย 4 นัด น้องฟอส 3 นัด โดยเสี่ยอ้วนลงมาจากรถและกระหน่ำยิงผู้ตายทั้งสองจนล้มคว่ำเสียชีวิตคาที่ก่อนจะขึ้นรถหลบหนีไปอย่างเลือดเย็น

ทั้งนี้มีรายงานว่าครอบครัวคนสนิทเสี่ยอ้วน พยายามประสานจะขอเข้ามอบตัวกับตำรวจ เพื่อต่อสู้คดีในสัปดาห์นี้

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image